"เชียงใหม่" เผาไหม้ทั้งคืนทะลุ 334 จุด ชาวบ้านพบเศษขี้เถ้าปลิวฟุ้งไปทั่วเมือง ด้านศาลปกครองมีคำสั่งยกฟ้อง "พล.อ.ประยุทธ์" เรื่องฝุ่นแล้ว

29 มี.ค. 66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมาประชาชนชาวเชียงใหม่ได้รับผลกระทบจากการเผาไหม้อย่างหนัก และเช้านี้ยังพบเศษขี้เถ้าสีดำลอยมาในอากาศและตกลงที่พื้นจำนวนมาก โดยจากการตรวจสอบเครื่องฟอกอากาศที่เปิดใช้งานพบว่า ทำงานหนักมากและตัวเลขพุ่งขึ้นสูงเกินค่ามาตรฐานที่กำหนด


ซึ่งตรงกับข้อมูลที่ศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควัน ไฟป่า และฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM 2.5 จังหวัดเชียงใหม่ ที่รายงานพบจุดความร้อน (Hotspot) รอบเช้าวันนี้สูงถึงจำนวน 334 จุด ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าอนุรักษ์ สปก. และชุมชนในพื้นที่ อ.เชียงดาว 61 จุด ไชยปราการ 35 จุด แม่อาย 32 จุด สะเมิง 30 จุด ฝาง 27 จุด แม่วาง 23 จุด แม่แตง 21 จุดเวียงแหง 19 จุด พร้าว 18 จุด หางดง 12 จุด สันกำแพง 10 จุด สันทราย 10 จุด แม่ออน 7 จุด ดอยเต่า 6 จุด ฮอด 6 จุด ดอยสะเก็ด 5 จุด อมก๋อย 5 จุด แม่แจ่ม 5 จุด ดอยหล่อ 1 จุด และแม่ริม 1 จุด สะสมตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566 ถึงปัจจุบันทั้งหมดจำนวน 5879 จุด

 

ส่วนข้อมูลสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ของจังหวัดเชียงใหม่ ค่าเฉลี่ยรายชั่วโมงแสดงภาพรวมทั้งจังหวัดเชียงใหม่ช่วงเช้าอันดับ1 ต.ปิงโค้ง อ.เชียงดาว มีจำนวนฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน สูงมากถึง 960 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (µg/m³) คุณภาพอากาศอันตราย เช่นเดียวกันกับอันดับ 1 ของพื้นที่อำเภอเมืองเชียงใหม่ ชุมชนหมื่นสาร มีจำนวนฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน สูงถึง 312 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (µg/m³) ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนทุกกลุ่มควรงดกิจกรรมนอกอาคาร ปิดประตูหน้าต่างบ้านให้มิดชิด เลี่ยงการออกกำลังกายหรือกิจกรรมกลางแจ้ง และขอให้ประชาชนทุกกลุ่มควรสวมใส่หน้ากากอนามัยที่ป้องกันฝุ่นขนาดเล็กตามมาตรฐาน เช่น หน้ากาก N95 N94 R95 P2 KN95

 

ด้าน ผศ.นพ.ดำรงค์ วิวัฒน์วงศ์วนา อาจารย์ประจำภาควิชาจักษุวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) ออกโรงเตือนประชาชนเรื่อง การปฏิบัติตัวเพื่อรับมือกับภาวะฝุ่นควันร้ายนี้ต่อดวงตาที่มีความบอบบางว่า 1.งดหรือลดเวลาในการทำกิจกรรมกลางแจ้ง 2. แว่นตาหรือแว่นกันแดดช่วยป้องกันได้บางส่วน 3.ล้างตาด้วยน้ำสะอาด 4.หยอดน้ำตาเทียมเพื่อลดการระคายเคือง และ 5.หากตาแดงไม่ดีขึ้นหรือมีขี้ตาควรรีบพบจักษุแพทย์

 

ศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละออง ภาค 3 (ศอ.ปกป.ภาค 3) นำเครื่องบินลำเลียง BT-67 กองทัพอากาศ ขึ้นบินจากกองบิน 41 จ.เชียงใหม่ เพื่อบินโปรยละอองน้ำเข้าควบคุมสถานการณ์ไฟป่าและบรรเทาปัญหาฝุ่นละอองในอากาศ โดยเป็นน้ำที่ผสมกับสาร Phos-Chek ขนาด 3000 – 5000 ลิตร มีคุณสมบัติพิเศษสามารถใช้ดับไฟหรือทำแนวกันไฟได้ ด้วยการทำให้ออกซิเจนไม่สามารถเข้าทำปฏิกิริยาในการเผาไหม้ได้ มีผลทำให้หยุดยั้งไฟที่ลุกลาม ซึ่งจะทำการโปรยลงมาเป็นละอองมาจากความสูงเหนือพื้นที่เป้าหมาย ซึ่งจะทำให้ละอองน้ำเกิดการกระจายตัว ครอบคลุมบริเวณกว้าง และจับตัวกับฝุ่นละออง เพื่อบรรเทาความรุนแรงของปัญหาที่เกิดขึ้น

 

ขณะที่ศาลปกครองเชียงใหม่ มีคำสั่ง "ยกฟ้อง" กรณี นายภูมิ วชร เจริญผลิตผล เป็นตัวแทนประชาชนยื่นฟ้อง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กรณีผลกระทบฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM 2.5 เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2566 และศาลมีคำสั่งรับคำฟ้องไว้พิจารณา คดีหมายเลขดำที่ ส.1/2566 พร้อมให้อธิบดีศาลปกครองเชียงใหม่นัดหมายผู้ฟ้องคดีมาให้ถ้อยคำเพื่อแสวงหาข้อเท็จจริงโดยการไต่สวน ณ ห้องพิจารณคดีที่ 1 ศาลปกครองเชียงใหม่ และล่าสุดศาลปกครองนัดฟังคำพิพากษาเมื่อช่วงเช้าวันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา แต่ฝ่ายผู้ฟ้องและทนายความที่ได้รับมอบหมายกลับไม่เข้ารับฟังคำพิพากษาแต่อย่างใด ศาลปกครองเชียงใหม่จึงแจ้งว่า จะนำเอกสารคำพิพากษายกฟ้องคดีดังกล่าวดังกล่าวเผยแพร่ในเว็บไซต์ต่อไป