รวบอดีตพระสึกใหม่ ขโมยรถจักรยานยนต์ อ้างถูกสาวในเฟซบุ๊กหลอกเงินก่อนหนีไปเป็นหมอนวด ด้านฝ่ายหญิงสวนกลับไม่เคยได้แม้แต่บาทเดียว

28 มี.ค.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ต ขัตติยะ เพชรกล้า สารวัตร(สอบสวน) พร้อมชุดสืบสวน สภ.สตึก อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ นำตัวนายวิชาญ อายุ 49 ปี ชาวอ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ที่เพิ่งสึกจากการเป็นพระมาได้ประมาณ 15 วัน มาสอบสวน

 

หลังจากตรวจภาพจากกล้องวงจรปิด พบว่าได้ก่อเหตุขโมยรถจักรยานยนต์ของชาวบ้านที่จอดไว้อยู่ข้างทางในเขตเทศบาลสตึก อ.สตึก แล้วหลบหนีไปบ้านของตัวเองที่ ต.ดอนมนต์

 

นายวิชาญ ให้การกับตำรวจว่า ก่อนหน้านี้ตนได้ขับรถจักรยานยนต์ของตนออกจากบ้าน จากนั้นได้เกิดเหตุกิ่งไม้ข้างทางหล่นใส่หัวแล้วสลบไป มารู้ตัวอีกทีมาอยู่ที่โรงพยาบาลสตึก ยอมรับว่ามีอาการมึน พอเดินออกจากโรงพยาบาลมาได้ เห็นรถจักรยานยนต์จอดอยู่คิดว่าเป็นของตนเพราะมีกุญแจคาไว้ จึงขับรถกลับบ้าน ไม่ได้ตั้งใจขโมยแต่อย่างใด

 

นายวิชาญ ยังเล่าถึงชีวิตส่วนตัวที่ต้องมาเป็นแบบนี้ว่า ตัวเองบวชที่วัดแห่งหนึ่งใน อ.สตึก เมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา ระหว่างบวช ได้รับงานศิลปะ แกะสลักปูนตามวัด ได้เงินเก็บไว้รวมแล้วกว่า 500,000 บาท ต่อมาได้รู้จักหญิงคนหนึ่งอายุ 53 ปีทางเฟซบุ๊ก จนกระทั่งสนิทสนมกัน ก่อนฝ่ายหญิงจะชวนมาอยู่ด้วยกันฉันสามีภรรยา จึงตอบตกลง จากนั้นได้พากันไปสาบานที่ศาลเจ้าพ่อวังกรูด อ.สตึก ว่า”จะรักกันตลอดไป”

 

ต่อมาฝ่ายหญิงขอยืมเงินจำนวน 500,000 บาท บอกว่าจะเอาไปใช้หนี้ ธกส.ก็ให้ไปไม่ขัด เงินที่เหลืออีกส่วนหนึ่งได้ไปเช่าที่ดินมาปลูกมันสำปะหลังจำนวน 20 ไร่ สุดท้ายเรื่องมาแดงตอนที่ตนจะเอาปุ๋ยไปใส่ไร่มัน เจ้าของที่ดินบอกว่ามันที่ปลูกไว้”ถูกขายไปแล้ว” ส่วนฝ่ายหญิงหนีไปทำงานเป็นหมอนวดที่กรุงเทพฯ ทิ้งให้ตนช้ำใจอยู่ที่บุรีรัมย์คนเดียว ยอมรับว่าเสียใจ



ผู้สื่อข่าวสอบถามนางนงลักษณ์ หรือนง อายุ53ปี แฟนสาวนายวิชาญ ทางโทรศัพท์ ได้รับคำตอบว่า”ไม่เป็นความจริง”ไม่เคยได้เงินจากพระแม้แต่บาทเดียว แกจะเอาเงินมาจากไหน สึกออกมาอยู่ด้วยกันแค่อาทิตย์เดียว สาเหตุที่หนีไปกรุงเทพฯเพราะแกโม้ว่ามีเงิน 500,000 พอมารู้ว่าไม่มีเงินจึงหนีไปทำงานที่กรุงเทพฯเพื่อหาเงินใช้หนี้ไฟแนนซ์

 

ส่วนไร่มันที่นายวิชาญ อ้างก็ไม่เป็นความจริง ที่ดินเป็นที่ดินของตน ยอมรับว่านายวิชาญ เป็นคนปลูกแต่นายวิชาญ ขายมันเขียวเอง ตัวเองไม่ได้เงินแม้แต่บาทเดียวเช่นกัน ที่ผ่านมาได้ยินเสียงชาวบ้านมาพูดเช่นกันว่าเวลานายวิชาญ เมามักจะพูดว่าตนเองเอาเงินไป 300,000 บาทตนก็ให้อโหสิ เพราะไม่ได้เอาเงินมา พอมาถึงวันนี้มาบอกว่า 500,000 อีก นางนงลักษณ์ เล่าไปหัวเราะไป

 

ทั้งนี้คดีความที่เกิดขึ้น ตำรวจได้ตั้งข้อหากับนายวิชาญ ลักทรัพย์ เตรียมส่งสำนวนให้อัยการเพื่อให้ศาลตัดสินต่อไป