รวบ! "เอี้ยก้วยเขาบิน" เครือข่ายค้ายาเสพติด จมมุมคา ไอซ์ 233 กิโลกรัม , ยาบ้า 200,000 เม็ด และเฮโรอีน 746 กรัม ก่อนเตรียมกระจายลงสู่ชุมชน พื้นที่ กทม.

เมื่อวันที่ 23 -24 มีนาคม 2566 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น พล.ต.ต.สําเริง สวนทอง รอง ผบช.น. ,พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น./หน.ชป.5 ศอ.ปส.ตร , พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.ธัญญพัทธ์ บุญสุข  ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น.,พ.ต.ท.ณัฐวุฒิ สีเสมอ พ.ต.ท.นิติกรณ์  ระวัง รอง ผกก.กก.สส.2 บก.สส.บช.น.เจ้าหน้าที่ตำรวจ กองกำกับการสืบสวน 2 บก.สส.บช.น. ทำการสืบสวนผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายใหญ่ รายสำคัญและจับกุมผู้ต้องหาได้จำนวน 1 ราย คือ นายณัฐพงษ์ หรือ หนุ่ม นวลละออง อายุ 46 ปี ที่อยู่ 68/2 ถนนศรีสำราญ 3 ตำบลสองพี่น้อง อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี ฉายาเอี้ยก้วยเขาบิน ผู้ต้องหา พร้อมด้วยของกลาง

1. ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวนประมาณ 200,000 เม็ด
2. ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) น้ำหนักรวมประมาณ 233 กิโลกรัม
3. ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เฮโรอีน ) จำนวน 2 แท่ง น้ำหนักรวมประมาณ 746 กรัม
4. โทรศัพท์มือถือ จำนวน 3 เครื่อง
5. รถยนต์ 4 คัน
6. รถจักรยานยนต์ 1 คัน

โดยกล่าวหาว่า “ จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) อันเป็นการมีไว้เพื่อจำหน่ายอันเป็นการกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป ”สถานที่จับกุม บริเวณริมถนนปทุมธานี-ลาดหลุมแก้ว ใกล้สี่แยกนพวงศ์ขาเข้า  ตำบลหน้าไม้ อำเภอบางบัวทอง จังหวัดปทุมธานี ต่อเนื่องบ้านเช่าเลขที่ 31/17 ถ.โพธิ์อ้น-หวายสอ ต.สองพี่น้อง อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี

เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.สส.บช.น. ได้ทำการจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายใหญ่ จำนวนหลายคดีอย่างต่อเนื่อง ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และได้ติดตามสืบสวนขยายผลเรื่อยมา ต่อมาสืบทราบว่ามีกลุ่ม ผู้ลักลอบจำหน่ายยาเสพติดย่านกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ซึ่งใช้รถยนต์ฮอนด้า แอคคอร์ด สีขาว ติดแผ่นป้ายทะเบียน 4กว 9705 กรุงเทพมหานคร และพักอาศัย อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี    โดยมีพฤติกรรมไปรับยาเสพติดย่านถนน สุพรรณบุรี-บางบัวทอง เพื่อนำมาพักไว้ในที่พักก่อนทยอยส่งให้กับลูกค้าในหลายพื้นที่

ต่อมาเมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2566 เวลาประมาณ 12.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบว่ารถยนต์ของกลุ่มฯ คันดังกล่าวเดินทางออกจากบ้านพักอาศัยแถว อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี มุ่งหน้าเข้ากรุงเทพมหานคร ซึ่งเชื่อว่าน่าจะไปส่งยาเสพติด ด้วยกลุ่มดังกล่าวจะทำเช่นนี้เป็นประจำ จึงได้รายงานให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น./หน.ชป.5 ศอ.ปส.ตร ทราบ เพื่อวางแผน และสั่งการให้นำกำลังไปเฝ้าสังเกตุการณ์บริเวณริมถนนปทุมธานี-ลาดหลุมแก้ว ขาเข้ากรุงเทพมหานคร  ต่อมาในวันเดียวกัน (23 มีนาคม 2566) เวลาประมาณ 19.40 น. พบรถยนต์ฮอนด้า แอคคอร์ด สีขาว ติดแผ่นป้ายทะเบียน 4กว 9705 กรุงเทพมหานคร มุ่งหน้าขาเข้าจนถึงแยกนพวงศ์เลี้ยวซ้ายเข้าถนนปทุมธานี-ลาดหลุมแก้ว มุ่งหน้าอำเภอลาดหลุมแก้วประมาณ 200 เมตร รถคันดังกล่าวได้จอดรถริมทาง  เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม เข้าแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและขอตรวจสอบรถยนต์คันดังกล่าว พบผู้ขับขี่เพียงคนเดียวทราบชื่อภายหลังว่า นายณัฐพงษ์หรือหนุ่ม นวลละออง  จึงเชิญตัวชายดังกล่าวลงจากรถยนต์และเป็นผู้นำตรวจค้นรถยนต์คันดังกล่าว ผลการตรวจค้นพบของกลาง ยาบ้า จำนวนประมาณ 200,000 เม็ด, ยาไอซ์ น้ำหนักรวมประมาณ 1 กิโลกรัม, เฮโรอีน จำนวน 2 แท่ง น้ำหนักรวมประมาณ 746 กรัม อยู่ภายในรถยนต์คันดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการจับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลาง และนำตัวมาทำการสืบสวนขยายผลที่ กก.สส.2 บก.สส.บช.น.

ต่อมาจากการสืบสวนขยายผล วันที่ 24 มีนาคม 2566 เวลาประมาณ 18.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้นำตัวนายณัฐพงษ์ฯ ไปยังบ้านเช่าเลขที่ 31/17 ถ.โพธิ์อ้น-หวายสอ ต.สองพี่น้อง อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี ซึ่งนายณัฐพงษ์ฯ รับว่าได้เช่าบ้านหลังดังกล่าวไว้เก็บยาเสพติดเพื่อรอออกจำหน่ายให้กับลูกค้า และนายณัฐพงษ์ฯ ได้นำเจ้าหน้าที่เข้าทำการตรวจค้น ผลการตรวจค้นพบ ยาไอซ์น้ำหนักรวมประมาณ 232 กิโลกรัม ซุกซ่อนอยู่ภายในบ้านเช่าดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจะทำการขยายผลเพื่อดำเนินคดีกับบุคคลต่างๆ และดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป

ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่าตนเองมีฉายาว่าเอี้ยก้วยเขาบินจากหนังมังกรหยกเนื่องจากแขนซ้ายขาด โดยรับยาเสพติดมาจากย่านถนน สุพรรณบุรี-บางบัวทอง เพื่อที่จะไปส่งให้ลูกค้าในย่านกรุงเทพมหานครและปริมณฑลจริง โดยผลการตรวจสอบประวัติ นายณัฐพงษ์ฯ เคยถูกดำเนินคดี ข้อหา พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ 2522 ข้อหา “ครอบครองเพื่อจำหน่ายยาเสพติด”สภ.เมืองสุพรรณบุรี ปี 2550 ศาลตัดสินจำคุก 25 ปี  ลดโทษเหลือจำคุก 10 ปี ต้องโทษจำคุกตั้งแต่ปี 2550 พ้นโทษมาปี 2561

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น./หน.ชป.5 ศอ.ปส.ตร กล่าวว่า กก.2 บก.สส.บช.น. ได้เร่งรัดทำการสืบสวนผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายใหญ่ รายสำคัญ มาอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันไม่ให้ยาเสพติดแพร่กระจายสู่ชุมชน พื้นที่ กทม. และปริมณฑล ซึ่งเป็นภัยร้ายต่อสังคม เด็กและเยาวชนของเราควรเติบโตภายใต้สังคมที่ปลอดภัยและไร้ยาเสพติด