"แพทองธาร" ควง "เศรษฐา" ขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่ครั้งแรก จ.พิจิตร อ้อนขอ ส.ส.ยกจังหวัดทั้ง3 เขต "เศรษฐา" รับประหม่า น้อมรับคำเตือน "ส.ว.วันชัย-ชูวิทย์" ขอดูการกระทำยาวๆ

พรรคเพื่อไทย นำโดยนางสาวแพทองธาร  ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย พร้อมด้วยนายศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย เข้าสักการะหลวงพ่อเพชร วัดท่าหลวง พระอารามหลวง จังหวัดพิจิตร เพื่อความเป็นสิริมงคล ก่อนขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่ที่จังหวัดพิจิตรในช่วงเย็นวันนี้

โดยเวทีนี้จะเป็นครั้งแรกที่นายศรษฐา ร่วมปราศรัยกับพรรคเพื่อไทย หลังร่วมลงพื้นที่ตลอด 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา 

นายศรษฐา กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมในการขึ้นเวทีปราศรัยครั้งแรกว่า ต้องทำความเข้าใจปัญหา ซึ่งเรื่องที่จะพูดไม่ใช่เรื่องใหม่ และคงไม่มีมุกอะไร แต่เป็นครั้งแรกที่จะได้พบปะกับประชาชนในเวทีใหญ่ จึงขอให้คอยฟัง

ส่วนกรณี นายวันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภา แสดงความคิดเห็นว่า นายศรษฐา ควรทิ้งคราบนักธุรกิจให้หมดสิ้นนั้น เพราะนักธุรกิจส่วนใหญ่จะหวังผลประโยชน์ หวังผลกำไรนั้น นายศรษฐา ตอบรับว่าก็เป็นคำเตือน ซึ่งตนก็น้อมรับ 

ส่วนกรณีที่นายวันชัยระบุว่า หากสลัดภาพนักธุรกิจไม่หมดจะซ้ำรอยกับกรณีของนายทักษิณ ชินวัตร และนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีนั้น นายศรษฐา กล่าวว่าตามที่ตอบไปแล้ว ขอให้ดูกันไป ขอให้เป็นไปตามขั้นตอน

ส่วนกรณีนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ยังคงออกมาพูดถึงนายศรษฐาอย่างต่อเนื่องนั้น  นายศรษฐา มองว่าเป็นการเตือน คงไม่มีอะไร วิธีการเตือนของแต่ละคนแตกต่างกันไป จึงน้อมรับ ตนรู้จักกันกับนายชูวิทย์ การเป็นนักธุรกิจมา 30 กว่าปี ทำให้รู้จักคนจำนวนมาก

ส่วนจะมีการสื่อสารกันหรือไม่นั้น นายศรษฐา ระบุว่าคงไม่มีการโทรไปคุย เมื่อเตือนมาแล้ว ก็รับฟังแล้ว

ทั้งนี้ การก้าวออกมาจากการเป็นนักธุรกิจแล้วผันตัวเป็นนักการเมือง จะบอกว่าไม่กลัวอะไรเลยก็ไม่ใช่ ยอมรับว่ามีความหวาดระแวง แต่สิ่งที่กลัวมากที่สุดคือไม่สามารถทำประโยชน์ให้ประชาชนได้ การลงพื้นที่ก็น่าจะเป็นบันไดขั้นหนึ่งที่ส่งต่อให้พรรคเพื่อไทยได้ไปบริหารจัดการบ้านเมือง หวังว่าชาวพิจิตรจะยกให้ทั้ง 3 เขตเลือกตั้ง เพื่อเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้พรรคเพื่อไทยได้ 310 ที่นั่ง