"ทนายรณณรงค์" พาผู้เสียหายนักธุรกิจชาวจีนถูกเพื่อนร่วมชาติตีหัวแตก เย็บ 40 เข็ม 7 เดือนคดีไม่คืบ ร้อง ผบช.น. หลังคู่กรณีรู้จักบิ๊กนายพล หวั่นคดีถูกแทรกแซง

วันที่ 10 มี.ค.66 เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ กองบัญชาการตำรวจนครบาล หรือ บช.น. ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ได้พา นายโทนี่ นักธุรกิจชาวจีน ที่ถูกคู่กรณีทำร้ายในโรงพยาบาล ย่านฝั่งธน จนได้รับบาดเจ็บ เย็บ 40 เข็ม เข้าร้องขอความเป็นธรรม ต่อ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) เนื่องจากคดีคู่กรณีเป็นนักธุรกิจชาวจีนและรู้จักนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ หวั่นคดีถูกแทรกแซง เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม

สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทนายรณณรงค์ กล่าวว่า ในวันเกิดเหตุผู้เสียหายชาวจีนกับคู่กรณี นัดกันกินข้าวที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ย่านแสมดำ บางขุนเทียน กรุงเทพฯ พร้อมเพื่อนรวม 4 คน โดยหลังจากรับประทานอาหารเสร็จ ชาวจีนคู่กรณีเหมือนมีอาการมึนเมา ผู้เสียหายจึงแนะนำให้เรียกคนมารับ จากนั้นก็มีผู้หญิงคนหนึ่งได้มารับคู่กรณีกลับ ซึ่งในระหว่างนั้นผู้เสียหายก็ได้เข้าไปทักทายตามมารยาท โดยมีการชกกำปั้นทักทายกัน แต่ไม่ได้มีการแตะเนื้อต้องตัวไม่เหมาะสม ปรากฏว่าคู่กรณีได้หยิบแก้วเบียร์ฝาดใส่หัวผู้เสียหายจนหัวแตก ต้องไปรักษาที่โรงพยาบาล ขณะรอแพทย์รักษาอยู่นั้นคู่กรณีก็ได้บุกเข้าไปในห้องฉุกเฉินโรงพยาบาล ใช้กระบอกไฟฉายของหมอ ตีเข้าที่หัวซ้ำจนเป็นแผลบาดเจ็บสาหัสเย็บถึง 40 เข็ม

"หลังเกิดเหตุผ่านมา 7 เดือน ได้แจ้งความใน 2 พื้นที่คือ สน. แสมดำ กับ สน. ท่าข้าม แต่คดีไม่มีความคืบหน้า อีกทั้งมีข้อพิรุธที่โรงพยาบาลไม่เข้าแจ้งความเหตุการณ์นี้ และตัวเองรู้มาว่าฝั่งคู่กรณีให้ข้าราชการตำรวจระดับนายพลคนหนึ่งโทรศัพท์เข้าไปเคลียร์กับตำรวจในพื้นที่ จึงกังวลว่าผู้เสียหายจะไม่ได้รับความเป็นธรรม วันนี้ตัวเองจึงได้นำพยานหลักฐานที่ชี้ชัดได้ว่ามีนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ช่วยคดีมามอบให้ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ตรวจสอบและเร่งรัดการดำเนินคดีด้วย ทั้งนี้จากข้อมูลชายชาวจีนทั้ง 2 คน เป็นนักธุรกิจเหมือนกันแต่ไม่ได้ทำธุรกิจร่วมกัน และไม่ได้มีความสนิทสนมส่วนตัว ที่ผ่านมาเคยเจอกันเพียงสามครั้ง ที่ประเทศจีนหนึ่งครั้งและที่ไทยอีกสองครั้งก่อนจะเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น" ทนายรณณรงค์ กล่าว

ด้าน นางสาวรัศมี สุขรักษา ล่ามแปลภาษา กล่าวว่า ตัวชาวจีนผู้เสียหายไม่สะดวกที่จะให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนแต่อยากให้ทางเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือเรื่องคดีเพื่อให้ได้รับความเป็นธรรม โดยในวันนี้มีตัวแทนตำรวจเข้ามารับหนังสือร้องเรียนแทนโดยบอกว่าจะนำเรียนส่งผู้บัญชาการตำรวจนครบาลพร้อมขอให้ผู้เสียหายมั่นใจว่าตำรวจจะช่วยเรื่องคดีให้ถึงที่สุด ผู้เสียหายต้องได้รับความเป็นธรรมแน่นอน