"หนุ่มแสบ" เพิ่งพ้นคุกคดีพยายามฆ่าพ่อเลี้ยง อ้างไม่มีที่ไปขออบ้านเพื่อนร่วมปี ปรนนิบัติดูแลแม่เพื่อนป่วยหลอกให้คนในบ้านตายใจ ก่อนเชิดเงินทรัพย์สินกว่า 5 ล้านบาทหนี

21 ก.พ. 66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายไตรรัตน์ หลิวศิริอนันต์ หรือเบิร์ด อายุ 39 ปี ชาวตำบลเขาเจียก อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง ร้องสื่อขอความช่วยเหลือหลังเข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับนายศุภนรินทร์ สุบินชมพู หรือวิน อายุ 30 ปี ชาวจังหวัดเชียงราย ซึ่งขอมาอยู่อาศัยด้วยที่บ้านก่อนเชิดเงินทองพร้อมทรัพย์สินมีค่าทองคำแท่ง ทองรูปพรรณ เครื่องเพชรที่ตกทอดมาจากบรรพบุรุษ ไปรวมมูลค่ากว่า 5 ล้านบาท

 

เบิร์ด เล่าว่า เขารู้จักกับนายวิน ขณะที่เขาทำงานอยู่ที่ กทม.และนายวินเมื่อหลายปีก่อนและช่วงหลังนายวินได้หายตัวไป จนกระทั่งเมื่อช่วงเดือนมีนาคม 2565 มาเจอกับนายวินอีกครั้ง โดยขณะนั้นนายวิน บอกเขาว่า เพิ่งพ้นมาในคดีพยายามฆ่าพ่อเลี้ยง และไม่มีที่ไป ไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหน จึงขอมาอาศัยอยู่ด้วย เขาสงสาร และคิดว่าเป็นการให้โอกาสเพื่อน เพราะเชื่อว่าสาเหตุที่เขาติดคุกในข้อหาพยายามฆ่า เพราะเขาคงพลาดพลั้งด้วยอารมณ์ชั่ววูบ จึงพากลับมาอยู่ด้วยที่บ้าน ในจังหวัดพัทลุง ส่วนเขา ก็ขึ้น ลง ไป ๆ มา ระหว่าง กทม กับพัทลุง โดยหวังจะให้นายวิน เพื่อนชาย มาคอยดูแลผู้เป็นแม่ ซึ่งป่วยเป็นอัมพฤตเนื่องจากเส้นเลือดตีบ รวมทั้งได้มาช่วยขายอุปกรณ์ประดับยนต์ ซึ่งเป็นกิจการของตระกูลของผู้เป็นแม่

 

เบิร์ด บอกด้วยว่า ในช่วงที่เขามาอาศัยที่บ้านในจังหวัดพัทลุง เขาก็ดูแลปรนนิบัติผู้เป็นแม่วัย 70 ปี ซึ่งป่วยทุกอย่างเป็นอย่างดี รวมทั้งคอยช่วยเหลืองานทุกอย่าง จนเป็นที่รักและไว้วางใจของทั้งผู้เป็นแม่ ที่ป่วย และญาติ ๆ ทุกคน

 

จนกระทั่งเมื่อช่วงเดือนกันยายน 2565 เบิร์ด สังเกตเห็นพฤติกรรมของวิน แปลกๆ ไป ก็เฝ้าสังเกตมาตลอด มีทะเลาะกันบ้างแต่ผู้เป็นแม่ก็เข้าเพราะแม่รักวิน เพื่อนเขามากและวันที่ทะเลาะกันหนักคือวันที่ 8 ก.พ.66 หลังที่เขาพบว่าเงินในบัญชีของเขาจำนวน 5 แสน 4หมื่นบาท ถูกถ่ายโอนออกไป พอตรวจสอบบัญชี ปรากฏว่า เงินไปอยู่ในบัญชีของนายวิน โดยนายวิน วางแผนลอบมอมยาเขา ในเครื่องดื่มตอนคืนวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2566 จนรู้สึกสะลึมสะลือ ช่วงนั้นจำได้ว่านายวิน บอกให้เขาโอนเงินให้ 300บาท เขาจึงใช้แอ๊ปในโทรศัพท์โอนให้ เชื่อว่านายวิน อาจจะแอบดูรหัสในช่วงนั้น หลังจากนั้น เขาก็หลับไม่รู้สึกตัว มารู้สึกตัวอีกทีในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2566 จึงไปหาหมอ ที่ รพ พัทลุง หมอให้ยาแก้วิงเวียน มาจึงดีขึ้น พอวันที่ 8 กุมภาพันธ์ เขาต้องเดินทางไป กทม พอไปถึงสนามบินตรัง ต้องใช้แอ๊ปโทรศัพท์ เพื่อจะใช้เงินปรากฏว่าเงินหาย จึงตรวจสอบบัญชี ปรากฏว่าเงินไปอยู่ในบัญชีของนายวิน จึงเกิดทะเลาะกันขึ้นบอกให้นายวิน ออกจากบ้าน แต่ผู้เป็นแม่ที่ป่วย ขอไว้ เพราะแม่เขารัก วิน มาก เนื่องจากวินปรนนิบัติดูแลแม่ทุกอย่าง

 

จนกระทั้งในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2566 วิน ออกไปจากบ้านและหายไป เขาจึงเอะใจตรวจสอบดูทรัพย์สิน ภายในบ้านพบโต๊ะเก็บข้าวของโดนงัด ตู้เชฟโดนเปิด ทั้งเงินสด ทั้งของมีค่าหายไป โดยเฉพาะสมบัติของแม่ ที่เป็นมรดก ตกทอดจากบรรพบุรุษ และเครื่องทองเครื่องเพชรในวันแต่งงาน ของแม่ หายไปพร้อมกับวิน นับรวมมูลค่าทรัพย์สินที่หายไปกว่า 5ล้านบาท

 

เบิร์ด บอกว่าเขาเสียใจที่เก็บรักษาของที่มีคุณค่าทางจิตใจของแม่ไว้ไม่ได้ ซึ่งผู้เป็นแม่ เสียใจร้องให้ตลอดเวลา เจ็บช้ำใจหนักเพราะความเชื่อใจ ก็เมื่อตรวจสอบประวัติของวิน พบว่า เขาไม่ได้ติดคุกเพราะคดีพยายามฆ่า แต่ติดคุกเพราะคดีเกี่ยวกับลักทรัพย์ ฉ้อโกง หลอกลวง มามากกว่า 7 คดี และเขาเชื่อว่าวิน คงมีการวางแผนไว้ล่วงหน้า ก่อนทำทีเป็นมาขออาศัยอยู่ด้วย และมาทำให้ทุกคนในบ้านรัก จนเกิดความเชื่อใจ ก่อนเชิดเงินทองไป

 

ล่าสุดเขาได้ไปแจ้งว่าเพื่อดำเนินคดีกับนายวิน ไว้ที่ สภ เมืองพัทลุง แต่หวั่นเกรงคดีจะไม่คืบหน้า เขาต้องการให้ทางเจ้าหน้าที่ใส่ใจในการติดตามตัวนายวินมาเพื่อดำเนินคดี และขยายผลสืบหาของมีค่าทางจิตใจผู้เป็นแม่ กลับคืนมาให้ท่าน เพราะตอนนี้ท่านร้องให้ทุกวัน เพราะความเจ็บช้ำน้ำใจ

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าขณะที่ทีมสื่อไปทำข่าว ผู้เป็นแม่ของเบิร์ดก็ร้องให้เสียใจตลอด พร้อมพยายามบอกผู้สื่อข่าวว่า เธอรักวิน แต่วินหลอกเธอ เธอรู้สึกเสียใจมาก เธอต้องการทรัพย์สินที่มีค่าทางจิตใจของเธอที่เป็นมรตก ตกทอดมาจากบรรพบุรุษ และของแต่งงาน ของเธอกลับคืน