สาวสองช้ำ การ์ดผับดัง อุดรฯ รุมกระทืบ จนดั้งที่เสริมมาหัก ถูกล่าวหาเต้นยั่วยวน-อนาจารแขก ไม่ใส่ กกน. ไม่ให้ดูกล้องวงจรปิด จะดูต้องจ่าย 8 หมื่น

วันที่ 3 ม.ค.66 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากสาวประเภทสอง ชาว อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ อยากจะให้เป็นสื่อกลางร้องเรียนขอความเป็นธรรม หลังโดนทำร้ายร่างกายแต่กลับถูกปฏิเสธการรับผิดชอบ เหมือนจะมีเจ้าหน้าที่รัฐรู้เห็นเป็นใจด้วย

จากการตรวจสอบ พบนายกติกา ศรีบุญเรือง หรือโช อายุ 22 ปี เป็นสาวประเภทสอง ได้นำคลิปวีดีโอในช่วงที่กำลังมีปากเสียงกับการ์ดของผับตะวันแดงมาเป็นหลักฐาน

นายโช เล่าว่า เมื่อวันที่ 31 ธ.ค 65 ที่ผ่านมา ตนเองได้ไปหาเพื่อนซึ่งเป็นสาวประเภทสองเช่นเดียวกัน ที่ อ.วังสามหมอ จ.อุดรธานี หลังจากนั้นได้ชวนกันไปเที่ยวเคาต์ดาวน์ที่ผับดังแห่งหนึ่ง โดยได้โทรศัพท์จองโต๊ะล่วงหน้าจำนวน 1 โต๊ะ 4 คน

ต่อมาเวลาประมาณ 22.00 น. ตนเองกับเพื่อนทั้ง 4 คนได้เข้าไปนั่งโต๊ะที่จองไว้ แล้วสั่งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และอาหารมานั่งดื่มกินกัน บรรยากาศเป็นไปอย่างคนกันเองตามปกติตามประสาคนชอบสนุก

จากนั้นได้มีการ์ดของร้าน มาคุยที่โต๊ะบอกว่า พวกตนเองไปทำอนาจารกับแขกผู้ชายคนอื่นในห้องน้ำ และมีการเต้นยั่วยวนเกินไป และไม่ได้ใส่กางเกงใน ตนเองกับเพื่อนร่วมโต๊ะยอมรับว่าได้เต้นด้วยความสนุก แต่ไม่ได้ไปทำอนาจารใคร กางเกงในก็ใส่ เพราะทุกคนยังไม่ได้แปลงเพศ จึงตอบไปว่า "น่าจะจำคนผิด" เพราะไม่ได้กระทำตามที่การ์ดกล่าวหา ก่อนการ์ดจะเดินออกไป เรื่องก็สงบลง

หลังจากนั้นกลุ่มพวกตนเองได้คิดเงิน หวังจะไปกินที่อื่นต่อ เมื่อเดินออกมาด้านนอกของผับ ไปเจอเพื่อนอีกกลุ่มที่กำลังจะเข้าไปในผับ ก่อนจะมีการชวนกันกลับเข้าไปที่เดิม แต่การ์ดไม่ยอมให้พวกตนเองเข้าไป โดยอ้างว่าทำอนาจาร

จากนั้นได้มีการโต้เถียงกันเกิดขึ้น โดยเฉพาะการกล่าวหาที่ไม่มีหลักฐาน เพราะพวกตนเองไม่ได้กระทำตามที่การ์ดกล่าวอ้าง ทันใดนั้นการ์ดของร้านได้รุมมาชกต่อยพวกตนเองอย่างรุนแรง จนเลือดกลบปากและจมูก หลังจากนั้นตนเองและเพื่อนได้ขี่รถจักรยานยนต์ซ้อนกันไปเพื่อจะไปแจ้งความ ระหว่างทางรถเกิดล้มได้รับบาดเจ็บซ้ำสองอีก ตนเองสลบและไปฟื้นที่โรงพยาบาล สุดท้ายมารู้ว่าดั้งจมูกที่ตนเสริมมาหัก จึงขอใบรับรองแพทย์มาเป็นหลักฐานทางคดี

นายโช เล่าด้วยว่า พอรุ่งเช้า ตนเองกับเพื่อนไปขอภาพจากกล้องวงจรปิดของผับดังกล่าว ปรากฏว่าเจ้าของผับปฏิเสธ หากจะเข้าไปดูภาพต้องจ่ายค่าเสียหายมาก่อนคนละ 20,000 บาท รวมทั้งหมด 80,000 บาท เนื่องจากไปกัน 4 คน

ตอนนี้ตนเองกลับมาตั้งหลัก รักษาอาการบาดเจ็บที่บุรีรัมย์ และจะแจ้งความดำเนินคดีบุคคลในคลิปที่รุมทำร้ายตนเองจนถึงที่สุด โดยจะเรียกร้องผู้ก่อเหตุชดใช้ค่าเสียหาย และค่าเสียเวลาทั้งหมด เพราะตนเองต้องเดินทางไปทำงานต่างประเทศ

ล่าสุดเพจเฟซบุ๊กของร้านดังกล่าวได้โพตส์ข้อความว่า "ขอภัยมายังลูกค้าทุกท่านในความไม่เรียบร้อย ทางผู้บริหาร ได้รับทราบปัญหาดังกล่าวแล้ว จึงขอโทษในความไม่เรียบร้อย จะนำปัญหาไปพิจารณาปรับปรุง และใช้ความระมัดระวังให้รอบคอบ เพื่อประโยชน์สุขของลูกค้าทุกท่านต่อไป ขอบคุณลูกค้าทุกท่านที่ให้การสนับสนุนด้วยดีมาตลอด และทางผู้บริหารและทางร้านยินดีให้ความร่วมมือกับทุกสิ่งทุกอย่างกับสิ่งที่เกิดขึ้น ทางร้านให้บริการกับลูกค้าทุกชนชั้นทุกระดับด้วยความเสมอภาคไม่มีแบ่งภาค แบ่งเพศทั้งสิ้น ขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ ที่นี้ด้วยครับ"