หนุ่มกะเหรี่ยง สัญชาติเมียนมา ชวนเมียตัวเองร่วมวงเหล้าจนเมา แล้วให้เพื่อนพาไปขืนใจแล้วฆ่า หลังจากนั้นยังไปชำเราเมียตัวเองซ้ำ อ้างไม่รู้ว่าเสียชีวิต ตำรวจอุ้มผางกดดันจนตามจับได้ทั้งคู่

วันที่ 3 ม.ค. 2566 พ.ต.อ.สุพจน์ นวรัตนารมย์ ผกก.สภ.อุ้มผาง จ.ตาก พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อุ้มผาง ได้นำตัวนายชิตู่ อายุ 19 ปี และนายน้อย อายุ 32 ปี ไปแผนประกอบคำรับสารภาพด้วยข้อกล่าวหา “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และร่วมกันกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้ายจนถึงแก่ชีวิต และเป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาพักอาศัยอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต" โดยเหตุเกิดที่บริเวณกระท่อมไม่มีเลขที่ ในป่าริมทางเข้าหมู่บ้านเซอทะ หมู่ที่ 6 ต.หนองหลวง อ.อุ้มผาง

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 28 ธ.ค. 2565 ร.ต.อ.กำธร อ่อนทอง พนักงานสอบสวน สภ.อุ้มผาง ได้รับแจ้งเหตุพบศพหญิงอายุ 35 ปี สัญชาติเมียนมา นอนเสียชีวิตอยู่บริเวณป่าริมทางเข้าหมู่บ้านเซอทะ จึงไปตรวจสอบ พบศพสภาพศพถูกรัดคอด้วยถุงย่าม และมีบาดแผลตามร่างกาย จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นทราบ และได้ร่วมกับแพทย์โรงพยาบาลอุ้มผาง ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดตากไปชันสูตรพลิกศพ และตรวจสถานที่เกิดเหตุแล้ว พบว่า ผู้เสียชีวิตมีร่องรอยการถูกกระทำชำเรา และมีบาดแผลถูกทำร้ายร่างกาย ศพนอนหงาย สวมผ้าถุงสีแดง และเสื้อยืดคอกลมสีแดง

จากการสอบสวนพยานบุคคลและผู้เห็นเหตุการณ์ทราบว่า คนที่ทำร้ายและข่มขืน คือ นายชิตู่ ซึ่งได้หลบหนีไปหมู่บ้านใจโด่ง ฝั่งประเทศเมียนมา ตรงข้ามบ้านเปิงเคลิ่ง ต.แม่จัน อ.อุ้มผาง จากนั้น พ.ต.อ.สุพจน์ ได้ประสานกับฝ่ายปกครอง อ.อุ้มผาง ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 347 อ.อุ้มผาง และทหารกองร้อยทหารราบที่ 432 หน่วยเฉพาะกิจราชมนู อ.แม่สอด ร่วมกันประสานเจ้าหน้าที่เมียนมา กดดันจับกุมนายชิตู่ จนนายชิตู่ ทราบข่าวจึงหลบหนีกลับเข้ามาเขตไทย และถูกฝ่ายปกครองในพื้นที่จับกุมได้



นายชิตู่ ให้การกับเจ้าหน้าที่ว่า เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม ที่ผ่านมา นายน้อย ได้ชวนตนเองพร้อมภรรยาของนายน้อย กับนายเตี้ย เพื่อนชาวเมียนมา ไปนั่งดื่มสุรากันที่บริเวณกระท่อมใกล้บ้าน จากนั้นทั้งหมดเกิดอาการเมาสุรา นายน้อยได้ชวนภรรยากับนายชิตู่ ขี่รถจักรยานยนต์ไปด้วยกันห่างจากจุดเกิดเหตุไม่มากนัก และบอกกับนายชิตู่ ว่าให้ข่มขืนภรรยาของนายน้อยที่เมาสุราจนไม่มีสติ และทำร้ายให้เสียชีวิตเสีย โดยนายน้อยเป็นคนดูต้นทาง นายชิตู่จึงอุ้มภรรยาของนายน้อยเข้าไปในป่า ทุบทำร้ายบริเวณใบหน้าและใช้ย่ามรัดคอ จากนั้นจึงข่มขืน แล้วไปบอกนายน้อยคนดูต้นทาง นายน้อยก็ไปข่มขืนภรรยาตัวเองอีกครั้งหนึ่ง จากนั้นจึงกลับไปบ้านโดยไม่คิดว่าภรรยาเสียชีวิตแล้ว ส่วนนายชิตู่ได้หนีไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากสอบปากคำนายชิตู่แล้ว เจ้าหน้าที่ได้ไปจับกุมนายน้อยได้ที่บ้านกระท่อมใกล้ป่า ขณะที่กำนันตำบลหนองหลวง พร้อมลงชื่อผู้ใหญ่บ้านทุกหมู่บ้านได้ทำหนังสือขอบคุณตำรวจสภ.อุ้มผาง ที่สามารถเร่งคลีคลายคดีได้โดยเร็ว และสามารถจับกุมคนร้ายได้ เพราะหลังจากเกิดเหตุ ชาวบ้านที่ไปเฝ้าสวน เฝ้าไร่ และเฝ้าผลผลิตทางการเกษตร ไม่กล้าไปนอนที่ไร่ โดยเฉพาะผู้หญิงจะไม่กล้าออกนอกบ้าน