วันนี้ 28 ธ.ค.2565 นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ได้โพสต์เฟซบุ๊กถึง นายกฯ กรณีผับจินหลิง โดยมีข้อความว่า

ข้อเสนอให้ ผบ.ตร. พิจารณาอย่างเร่งด่วน

กราบเรียน พณฯ ท่านนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

สำเนาถึง ท่านผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์

เนื่องด้วย ข้าพเจ้าพบเห็นการปฏิบัติหน้าที่ที่ผิดพลาดของ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ในการดำเนินคดี “จินหลิง” หลายประการ ตามที่ท่านได้รับทราบทั้งจากการรายงานของผู้ใต้บังคับบัญชา และสื่อมวลชนที่นำเสนอข่าวปรากฏต่อสาธารณชนทั่วไป

โดยล่าสุด เมื่อวันอังคารที่ 27 ธันวาคม 2565 เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด คณะอัยการ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ นำโดย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ได้นำกำลังเข้าตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุจินหลิง เพื่อทำการตรวจความถูกต้องของทรัพย์สินที่จะต้องอายัดไว้ตรวจสอบ ทำให้มีการพบว่ารถยนต์ของกลางในสถานที่เกิดเหตุ จำนวน 11 คัน ยังมิได้ถูกตรวจค้นจากเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ภายใต้การบังคับบัญชาของผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และยังมีหลักฐานวัตถุที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดและอุปกรณ์การพนันอีกเป็นจำนวนมากถูกทิ้งไว้ในที่เกิดเหตุ ดังนี้

  1. เขียงไม้ สำหรับใช้ในการเสพยาเสพติด
  2. หลอดดูดที่ใช้แล้ว สำหรับใช้เสพยาเสพติด
  3. ไม้ปั่นจมูก ใช้ในการเสพยาเสพติด
  4. ชิพใช้แทนเงินสด และอุปกรณ์การพนัน

ทั้งที่วันเกิดเหตุคือ วันที่ 26 ตุลาคม 2565 ชุดจับกุมนำโดยผู้บัญชาการตำรวจนครบาล บุกเข้าจับกุมตรวจค้นพบนักท่องเที่ยวชาวจีนกำลังมั่วสุมเสพยาเสพติดจำนวนมากถึง 265 คน และตรวจพบยาเสพติดของกลางเป็นจำนวนมาก มีการติดตามขยายผลถึงผู้เกี่ยวข้อง อีกทั้งจำนวนทรัพย์สินที่ตรวจอายัดของบุคคลที่เชื่อว่าเป็นเจ้าของสถานที่จินหลิง คือ นายชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ หรือนายตู้ห่าว ก็มีมูลค่ามากกว่า 5,000 ล้านบาท

แต่จนถึงเมื่อวานนี้ วันที่ 27 ธันวาคม 2565 นับเป็นเวลา 2 เดือนเต็มที่ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลในฐานะหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน ได้ปล่อยปละละเลย สัพเพร่า ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ในการเก็บตรวจพิสูจน์หลักฐาน และเอกสารในพื้นที่เกิดเหตุ

รวมทั้งข้อผิดพลาดอื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับคดี มีพฤติการณ์ไม่น่าไว้วางใจ หากยังคงปล่อยให้อยู่ในตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจนครบาลต่อไป จะก่อให้เกิดความเสียหายต่อประชาชนชาวกรุงเทพมหานคร

ข้าพเจ้า ภาคประชาชน องค์กรต่างๆ ทุกภาคส่วน จึงขอเสนอให้ท่าน สั่งการให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเร่งรัดดำเนินการโยกย้าย พล.ต.ท.ธิติฯ ออกจากการกำกับดูแลพื้นที่นครบาลโดยเร็ว แม้ข้าพเจ้าจะทราบดีว่าจะต้องรอให้ถึงเดือนเมษายน 2566 ตามวาระการโยกย้ายที่จะมาถึงจึงจะทำได้ตามกฎ ก.ตร.

แต่หากยังคงให้ท่านผู้บัญชาการตำรวจนครบาลอยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปแม้แต่เพียงวันเดียว จะก่อให้เกิดความเสียหายไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง อีกทั้งการไม่สามารถทำงานอย่างมีประสิทธิภาพในคดีตู้ห่าวซึ่งเป็นคดีใหญ่ จากการมิได้เอาใจใส่ในการทำงานให้มีมาตรฐานเยี่ยงเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยทั่วไป มีการทิ้งของกลางไว้ในที่เกิดเหตุเป็นระยะเวลาถึง 2 เดือนโดยไม่ตรวจสอบและจัดเก็บอย่างถูกต้อง ทำให้มีความเสียหายต่อรูปคดี กลับเป็นการเอื้อประโยชน์ต่อผู้ต้องหา

การดำเนินการเท่าที่จะทำได้ เพื่อเป็นการเยียวยาประชาชนที่เสียหายจากพฤติการณ์ของผู้บัญชาการตำรวจนครบาล คือ การกำชับสั่งการให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติออกคำสั่งให้ไปช่วยราชการแทน ซึ่งอยู่ในอำนาจที่จะทำได้โดยเร็วก่อนสิ้นปี 31 ธันวาคมนี้ เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่แก่คนกรุงเทพฯ ที่มีผู้บัญชาการตำรวจนครบาลที่ไร้ความสามารถ

ทั้งนี้หากท่านไม่กระทำ ย่อมแสดงถึงการไม่เอาใจใส่ต่อการดูแลบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้กับประชาชนคนกรุงเทพฯ

ข้าพเจ้าจึงขอกราบเรียนท่านให้พิจารณาอย่างเร่งด่วน เพื่อเป็นประโยชน์ของประชาชนโดยรวม อันจะเป็นการแสดงถึงความเอาใจใส่ของผู้นำองค์กรสูงสุดของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ขอแสดงความนับถืออย่างสูง

นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์