โคราชเผยยอดติดเชื้อโควิดรายใหม่ยังสูง เดินหน้าฉีดวัคซีนกระตุ้นให้ประชาชนทุกกลุ่ม เน้นกลุ่ม 608 และผู้ไม่เคยฉีด

วันนี้ (21 ธันวาคม 2565) ที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครราชสีมา โดยนายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา มอบหมายให้นายภูมิสิทธิ์ วังคีรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดฯ มาเป็นประธานการประชุมฯ ที่ห้องมูลนิธิท้าวสุรนารี ชั้น 1 ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา เพื่อติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา โดย นพ.วิญญู จันทร์เนตร รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดฯ รายงานว่า ผู้ป่วยรายใหม่ที่ตรวจพบเชื้อในรอบสัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ 14 – 20 ธันวาคม 2565 มีจำนวน 1,970 คน ซึ่งในจำนวนนี้ได้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล จำนวน 104 คน และมีผู้เสียชีวิต 11 ราย จึงทำให้ยอดผู้ป่วยตั้งแต่เดือนตุลาคม 2565 จนถึงวันที่ 20 ธันวาคม 2565 มีผู้ป่วยสะสม จำนวน 15,140 คน ทั้งนี้ รักษาหายแล้ว 13,120 คน และยังรักษาอยู่ 1,970 คน โดยส่วนหนึ่งจะรับยาแล้วพักรักษาตัวที่บ้าน และอีกส่วนเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล จำนวน 820 คน ซึ่งรักษาหายแล้ว 612 คน เหลือยอดที่ยังรักษาตัวในโรงพยาบาลอยู่อีก 158 คน ส่วนยอดเสียชีวิตสะสม อยู่ที่ 50 ราย

ซึ่งสาเหตุที่พบการระบาดเพิ่มขึ้นอีกครั้ง มาจากปัจจัยการรวมตัวคน และการทำกิจกรรมทางสังคมเพิ่มขึ้น และมาตรการควบคุมป้องกันต่างๆ ตอนนี้ไม่ได้มีผลบังคับใช้อย่างเข้มข้นเหมือนในช่วงประกาศใช้สถานการณ์ฉุกเฉินและช่วงก่อนจะประกาศให้โควิด-19

โดยทางจังหวัด ได้ปรับยุทธศาสตร์ป้องกันโควิด 19 ด้วยการเร่งรัดฉีดวัคซีนโควิด 19 ให้ได้มากที่สุด มีเป้าหมายประชากรที่ต้องได้รับวัคซีน รวมทั้งสิ้น 2,633,207 คน จะต้องได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้น จำนวน 1,579,924 คน จึงจะถึงเป้าหมาย 60 % ตามที่ตั้งไว้ โดยจะโฟกัสไปที่กลุ่ม 608 และผู้ที่ไม่เคยได้รับวัคซีนมาก่อน เพราะพบอัตราการติดเชื้อโควิดแล้วเสียชีวิตสูงกว่ากลุ่มอื่นๆ ทำให้ต้องรณรงค์เชิงรุกเพื่อกลุ่มนี้เข้าถึงวัคซีนโดยเร็ว ซึ่งที่ผ่านมา ทางจังหวัดฯ ได้ดำเนินกลยุทธ์ด้วยการรณรงค์เชิญชวนประชาชนในจังหวัดฯ ออกไปฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น และขยายช่วงรณรงค์ฉีดวัคซีนไปจนถึงวันที่ 28 ธันวาคม 2565 รวมทั้ง เพิ่มศักยภาพจุดฉีดกลางที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า นครราชสีมา ให้ฉีดวัคซีนได้มากกว่า 3,000 คนต่อวัน และเพิ่มจุดฉีดที่หอประชุมเปรมติณสูลานนท์ ด้านหลังศาลากลางจังหวัดฯ กับวางแผนฉีดวัคซีนเชิงรุกในพื้นที่สำคัญ เช่นในเขตอำเภอเมืองนครราชสีมา ให้สำรวจกลุ่มเป้าหมาย-ออกสำรวจความต้องการรูปแบบการฉีด และจัดบริการฉีดวัคซีนเคลื่อนที่เชิงรุกและระบบการแพทย์ฉุกเฉิน

นอกจากนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดฯ ได้มีข้อสั่งการเร่งรัดให้ทั้ง 32 อำเภอ จัดตั้งหน่วยฉีดวัคซีนหลัก ตั้งศูนย์ปฏิบัติการระดับจังหวัดและระดับอำเภอ ทำแผนเร่งรัดรณรงค์ประชาชนอย่างต่อเนื่อง กับจัดทีมฉีดวัคซีนให้กับประชาชนในพื้นที่และและสำรองวัคซีนให้เพียงพอ ส่วน รพ.ชุมชน หรือ รพ.สต.ให้ออกแบบแนวทางฉีดวัคซีนนอกสถานบริการ ,ให้ผู้นำท้องถิ่น-ท้องที่ ติดตามค้นหากลุ่มเป้าหมาย สนับสนุนและอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน

ซึ่งสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดฯ ได้รายงานล่าสุด ณ วันที่ 20 ธันวาคม 2565 ว่า จากจำนวนประชากรเป้าหมายที่จะต้องฉีดวัคซีน รวม 2,633,207 คน ได้ฉีดวัคซีนเข็ม 1 ไปแล้ว 2,101,590 คน คิดเป็น 79.85 % , ฉีดเข็ม 2 แล้ว 1,967,548 คน คิดเป็น 74.72 % และฉีดเข็ม 3 ไปได้ 898,555 คน คิดเป็น 34.12 % เมื่อแยกเป็นรายกลุ่ม พบว่า 1. กลุ่มผู้สูงอายุ ผู้ป่วย 7 โรคเรื้อรัง และหญิงตั้งครรภ์ มีเป้าหมาย 678,583 คน ฉีดเข็มกระตุ้นไปแค่ 270,981 คน คิดเป็น 39.93 % , 2.กลุ่มประชาชน อายุ 18-59 ปี เป้าหมาย 1,473,798 คน ฉีดเข็มกระตุ้นแล้ว 581,815 คน คิดเป็น 39.61 %, 3.กลุ่มนักเรียน / นักศึกษา อายุ 12-17 ปี เป้าหมาย 176,391 คน ฉีดเข็มกระตุ้นแค่ 35,980 คน คิดเป็น 20.39 % , 4.กลุ่มนักเรียน / เด็ก อายุ 5-11 ปี เป้าหมาย 158,355 คน ฉีดเข็มกระตุ้นไป 7,773 คน คิดเป็น 4.490 % และ 5.กลุ่มเด็ก อายุ 6 เดือน – ต่ำกว่า 5 ปี มีเป้าหมาย 52,070 คน ฉีดเข็มกระตุ้นไปแค่ 6 คน คิดเป็น 0.01 % จึงขอประชาสัมพันธ์พี่น้องประชาชนทุกช่วงอายุ ได้ไปเข้ารับวัคซีนโควิด 19 เพื่อสร้างภูมิต้านทานให้กับตนเองและสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ ในช่วงส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่