ชาวบ้านสุดทน! โพสต์คลิปแม่พาลูกเดินเร่ขายถั่วกลางดึก พร้อมด่าทอด้วยคำหยาบ ก่อนทะเลาะกับคนที่เข้าไปช่วย ด้านแม่ยันไม่ได้ทำร้ายหรือหยิกลูก ชี้ลูกงอแง เลยต้องดุ

วันที่ 23 พ.ย.65 จากกรณีเฟซบุ๊กชื่อ Kor Tanyaluck Sriyaphun ได้โพสต์คลิปเหตุการณ์หญิงสาวคนหนึ่งได้ขี่รถจักรยานยนต์โดยมีเด็กอายุ 2 ขวบ ซ้อนท้ายมาและกำลังยืนเถียงกับชายคนหนึ่งด้วยถ้อยคำหยาบคายไปมา จากนั้นชายคนดังกล่าวก็ได้อุ้มเด็กที่นั่งซ้อนท้ายลงมาก่อนจะเกิดการโต้เถียงกันขึ้นอีกรอบ พร้อมมีการฉุดกระชากแขนเด็กก่อนที่คลิปจะตัดไป

ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้มีการติดต่อไปทางเจ้าของคลิป พร้อมเดินทางลงพื้นที่จุดเกิดเหตุบริเวณหน้าร้านกียาดี ถนนราษฎร์ยินดี ซอย 7/1 ตำบลหาดใหญ่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ซึ่งได้พบกับภรรยาเจ้าของคลิป

จากการสอบถามเบื้องต้นทราบว่า ตอนนั้นตนเองยืนมองอยู่สักพักและหญิงคนดังกล่าวได้ให้เด็กตัวเล็กลงมาและก็เดินไปขาย ซึ่งตรงข้ามร้านของตนเองเป็นร้านชำ จากนั้นเด็กคนนั้นก็เดินไป ปรากฏว่าคนในร้านชำไม่ซื้อ เด็กก็เดินกลับไปที่รถ พอหญิงคนดังกล่าวเห็นเด็กเดินกลับมาทั้งที่ขายไม่ได้ หญิงคนดังกล่าวก็ได้ไล่ให้กลับไปขายอีก พร้อมกับใช้คำพูดที่รุนแรง ก่อนที่จะบังคับให้เด็กไปขาย แล้วเด็กก็ร้องไห้อย่างเดียว ซึ่งเด็กไม่สามารถพูดโต้ตอบอะไรหญิงคนดังกล่าวได้ เด็กก็ได้แต่ร้องอย่างเดียว พอตนเองเห็นแล้วได้แต่ยืนมองเพราะตนเองไม่กล้าเข้าไปยุ่ง จนมีลูกค้าของร้านชำพี่ผู้ชายที่อยู่ในคลิปทนฟังไม่ไหวก็เลยเดินเข้าไปหาหญิงคนดังกล่าวตามในคลิป

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านหญิงคนดังกล่าวที่บ้านเช่าหลังหนึ่งในตำบลควนลัง อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ซึ่งได้พบกับนางศศิมาภรณ์ มวยดี หรือ กิ่ง อายุ 32 ปี เด็กชายอดิศร มวยดี หรือ น้องโชกุล อายุ 3 ปี 3 เดือน และ เด็กหญิงณัฎฐณิชา มวยดี หรือ น้องณัฏ อายุ 1 ปี 3 เดือน ส่วนสามีนั้นทราบชื่อ นายอดิศวร มวยดี อายุ 29 ปี ซึ่งได้เสียชีวิตเส้นเลือดในสมองแตก เมื่อช่วงเดือนสิงหาคม ปี 2564 ซึ่งปัจจุบัน นางศศิมาภรณ์เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวเลี้ยงลูก 2 คน

จากการสอบถามนางศศิมาภรณ์ มวยดี ได้เล่าว่า เหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้นเมื่อคืน ตนเองเห็นลูกค้านั่งในร้านขายชำมีอยู่ 2 โต๊ะ และก็ให้ลูกเอาถั่วต้มลงไปขายเพื่อจะได้สักถุง 2 ถุง และก่อนหน้านี้จะลงจากรถลูกได้งอแงจะกินเฟรนช์ฟรายส์ชีสตั้งแต่อยู่บนรถแล้ว ซึ่งช่วงนั้นเป็นช่วงเวลา 3 ทุ่มกว่า ๆ และตนเองก็ได้บอกลูกว่าเดี๋ยวค่อยไปซื้อเพราะลูกอยากจะไปซื้อที่หลังโรงแรมฟลอริดา ซึ่งตนเองกะว่าค่อยแวะซื้อตอนขากลับบ้าน ตอนแรกลูกไม่ร้อง แต่พอลงจากรถและเดินไปขายของเกิดร้องขึ้นมา ทำให้ตนเองเกิดความโมโหขึ้นมาเพราะคนแถวนั้นมองมาที่ตนเอง ตนเองก็เลยบอกลูกให้กลับมา แต่ลูกไม่เดินกลับตนเองก็เลยด่าลูก ซึ่งตนเองยอมรับว่าตนเองผิดที่ด่าลูกด้วยถ้อยคำหยาบคาย ซึ่งตนเองยืนยันว่าไม่มีการทำร้ายลูกหรือหยิกลูก

ส่วนตอนนี้ถามว่าตนเองลำบากไหม ตนเองลำบากมากเพราะไม่มีใครดูลูกทั้ง 2 คน ถ้าจะพาไปฝากแม่ของสามี แม่ของสามีก็ช่วยได้เท่าที่ช่วย เพราะเขาก็ลำบาก ต้องเลี้ยงหลาน 2-3 คน ด้วย ส่วนสามีของตนเองได้เสียชีวิตไปแล้วตั้งปีที่แล้วช่วงเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว ช่วงที่คลอดคนเล็กได้ 4 วัน จากภาวะเส้นเลือดในสมองแตก และช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา พ่อของตนเองก็เกิดเสียชีวิต พอพ่อเสียชีวิตตนเองก็ขาดที่พึ่ง หากไปจ้างคนอื่นเลี้ยง ก็ต้องใช้เงินคนละ 3,000 บาท 2 คน 6,000 บาท ซึ่งตนเองก็ไม่มีค่าจ้างดูแลลูกตรงนี้ ปัจจุบันตนก็มีหนี้ที่ต้องชดใช้ให้เจ้าหนี้ ซึ่งเป็นหนี้เก่าช่วงสามียังมีชีวิต ไหนจะค่าบ้าน ไหนจะค่าแพมเพิส ค่านม จึงเป็นสาเหตุที่ต้องพาลูกออกไปขายของ