ปคม.จับกุม 2 ผู้ต้องหา ลวงเด็กชายถ่ายคลิปโป๊ โพสต์ขายผ่านโซเชียล รับทำมา 2 ปี ล่อลวงเด็กแล้วกว่า 100 คน

วันที่ 22 พ.ย.65 ที่อาคารประชาอารักษ์ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ต.ศารุติ แขวงโสภา ผบก.ปคม. พ.ต.อ.สุรพงษ์ ชาติสุทธิ์ รอง ผบก.ปคม. และพ.ต.อ.พัฒนพงศ์ ศรีพิณเพราะ ผกก.2 บก.ปคม. ร่วมแถลงผลปฏิบัติการตรวจค้นจับกุมผู้ต้องหาคดีค้ามนุษย์ โดยล่อลวงเด็กชายถ่ายคลิปโป๊ โพสต์คลิปขายผ่านโซเชียลมีเดีย โดยสามารถจับกุมผู้
นายวรเมธหรือเกน ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 2438/2565 ลง 9 พ.ย. 2565 ข้อหา "เพื่อความประสงค์แห่งการค้าหรือมีส่วนเกี่ยวข้องในการค้าเกี่ยวกับสื่อลามกอนาจารเด็กฯ" ได้ที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง เขตมีนบุรี กรุงเทพฯ

และนายศรัณรักษ์ หรือ นายบี อายุ 29 ปี ตามหมายจับของศาลอาญาที่ 2422/2565 ลง 9 พ.ย. 2565 ข้อหา "ค้ามนุษย์โดยการแสวงหาประโยชน์ โดยมิชอบจากการผลิตหรือเผยแพร่วัตถุหรือสื่อลามก โดยกระทำแก่บุคคลอายุยังไม่เกินสิบห้าปี พรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีฯ ชักจูง ส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควรฯ และใช้ ชักจูง ยุยง ส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็กกระทำการอันมีลักษณะลามกอนาจารฯ" ได้ที่ห้องพักย่านบางเขน กรุงเทพฯ

พ.ต.อ.พัฒนพงศ์ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบว่ามีกลุ่มไลน์ลับ ชื่อกลุ่ม “FA Vip” ลักลอบเผยแพร่สื่อลามกอนาจารของเด็กชายอายุประมาณ 13-18 ปี โดยผู้ที่จะเข้าร่วมกลุ่มไลน์ดังกล่าวได้ จะต้องได้รับการเชิญเข้ากลุ่มจากแอดมินที่ใช้ชื่อไลน์ว่า "ICE" ซึ่งคลิปวิดีโอส่วนใหญ่ในกลุ่มไลน์ดังกล่าวจะเป็นคลิปเปลื้องผ้าโชว์อวัยวะเพศชาย และช่วยเหลือตัวเองทางเพศของเด็กชาย ทั้งนี้ในการที่จะเข้ากลุ่มไลน์ลับนี้ สมาชิกจะต้องเสียค่าสมัครเป็นเงินจำนวน 500 บาท เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงสืบสวนจนทราบว่า ผู้ที่ใช้บัญชีไลน์ชื่อว่า "ICE" คือนายวรเมธปัจจุบันเป็นเจ้าของร้านเกมส์อยู่ที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ โดยมีพฤติกรรมใช้แอปพลิเคชันหาคู่ สร้างบัญชีโดยการตั้งรูปภาพโปรไฟล์เป็นหญิงสาวหน้าตาดี ทักไปพูดคุยกับเด็กนักเรียนชายมัธยมที่มีรูปร่างหน้าตาดีในเชิงชู้สาว หลังจากนั้นจะหลอกให้เด็กนักเรียนชายส่งคลิปวิดีโอขณะกำลังสำเร็จความใคร่มาให้ตนเอง โดยอ้างว่าจะส่งคลิปวิดีโอช่วยตัวเองกลับไปให้ แต่ภายหลังกลับนำคลิปวิดีโอเหล่านั้นไปขายในกลุ่มไลน์ลับที่ตนเองสร้างขึ้น จากการตรวจสอบพบว่ามีคลิปของเด็กชายกว่า 100 คน ที่ถูกหลอกให้ถ่ายคลิปอนาจารให้กับผู้ต้องหา และพบว่ามีเงินหมุนเวียนในบัญชีของผู้ต้องหาจำนวนหลายแสนบาท

จากการสอบถามผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าก่อเหตุดังกล่าวมาแล้วหลายครั้ง ในช่วงระยะเวลา 2 ปี สามารถล่อลวงให้เด็กถ่ายคลิปโป๊ส่งมาให้มากกว่า 100 คน โดยตนเองเห็นว่ามีช่องทางที่จะสามารถหาเงินได้จากการเปิดกลุ่มไลน์เรียกเก็บค่าสมาชิกเข้าชมคลิปโป๊ ตนเองจึงได้สร้างกลุ่มไลน์ดังกล่าวขึ้นมา โดยเป็นแอดมินและเป็นผู้เผยแพร่สื่อลามกเด็กในกลุ่มดังกล่าว

พ.ต.อ.พัฒนพงศ์ กล่าวว่า ส่วนนายศรัณรักษ์ มีพฤติการณ์ตั้งกลุ่มไลน์ลับชื่อกลุ่มว่า "BB Group VIP" เผยแพร่สื่อลามกอนาจารเด็ก เช่น คลิปวิดีโอการมีเพศสัมพันธ์ระหว่างสาวประเภทสองกับเด็กนักเรียนชายอายุต่ำกว่า 18 ปี ในชุดนักเรียนมัธยม โดยกลุ่มนี้เป็นกลุ่มลับเฉพาะ มีสมาชิกกว่า 500 คน ซึ่งคนที่จะเข้าร่วมกลุ่มไลน์นี้ได้ จะต้องได้รับการเชิญจากแอดมินกลุ่มที่ใช้ชื่อไลน์ว่า "BB1" โดยบุคคลที่ใช้ชื่อไลน์ "BB1" ทำหน้าที่เป็นแอดมินกลุ่ม มีหน้าที่ส่งภาพ และคลิปลามกเด็กให้กับสมาชิกในกลุ่ม โดยสมาชิกจะต้องเสียค่าสมัครเข้ากลุ่มเป็นเงินจำนวน 500 บาท โดยคลิปและภาพส่วนใหญ่จะเป็นภาพเด็กนักเรียนชายโป๊เปลือยเห็นอวัยวะเพศ และคลิปการมีเพศสัมพันธ์ที่มีลักษณะเป็นสื่อลามกอนาจารเด็กจำนวนมาก ทั้งนี้จากการสืบสวนยังพบอีกว่ามีการนำภาพเเละคลิปดังกล่าวไปลงในเว็บไซต์ Only fans ชื่อแอคเคาท์ "pretty lady boy" อีกด้วย เจ้าหน้าที่จึงได้สืบสวนขยายผลจนพบว่า เยาวชนชายอายุประมาณ 16 ปี ที่ปรากฏอยู่ในคลิปวิดีโอลามกอนาจารบนกลุ่มไลน์ลับดังกล่าว ถูกคนร้ายซึ่งเป็นสาวประเภทสองทักมาหาทางทวิตเตอร์ส่วนตัว ก่อนจะชักชวนให้มามีเพศสัมพันธ์กับคนร้ายที่บ้านพักย่าน อ.เมือง จ.ปทุมธานี แลกกับเงินค่าตอบแทนประมาณ 500 บาท โดยคนร้ายอ้างว่าจะขอถ่ายคลิปมีเพศสัมพันธ์ไว้เพื่อเก็บไว้ดูคนเดียว แต่ภายหลังกลับนำไปโพสต์ลงในกลุ่มไลน์

จากการสอบถามผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยรับว่าได้ชักชวนเยาวชน มาร่วมเพศโดยมีการถ่ายคลิปวิดีโอ ก่อนจะนําไปเผยแพร่ในกลุ่มไลน์ดังกล่าวจริง

ด้าน พล.ต.ต.ศารุติ กล่าวว่า นอกจากนี้ทาง บก.ปคม. ยังสามารถสืบสวนขยายผลถึงผู้ซื้อสื่อลามกอนาจารเด็กได้กว่า 20 เป้าหมาย ซึ่งได้ขออนุมัติหมายค้น เข้าตรวจค้นผู้ซื้อสื่อลามกอนาจารเด็ก 4 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ จ.เชียงใหม่ และ จ.อุตรดิตถ์ ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการสืบสวนขยายผลจากหลักฐานที่ตรวจยึดมาได้ หากพบว่ามีการกระทำความผิดจริง เจ้าหน้าที่จะดำเนินคดีในข้อหา "ครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็กเพื่อแสวงหาประโยชน์ในทางเพศสำหรับตนเองหรือผู้อื่น" ต่อไป ทั้งนี้ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. มีความห่วงใยถึงเด็กวัยรุ่นทั้งชายและหญิง ในการใช้สื่อสังคมออนไลน์ เนื่องจากปัจจุบันคนร้ายมีการใช้แอปพลิเคชันหาคู่มาใช้หลอกลวงเด็ก โดยจะพยายามทำให้เด็กเชื่อว่าตกหลุมรัก อยากคบหาเป็นแฟน ก่อนจะขอภาพลับ นัดพบเพื่อล่วงละเมิดทางเพศ และถ่ายรูปข่มขู่ เพื่อนำไปแบล็กเมล์ ซึ่งการกระทำเช่นนี้เข้าข่ายเป็นพฤติกรรมของการเข้าหาเด็กเพื่อละเมิดทางเพศ (Child Grooming) โดยมีเด็กจำนวนมากต้องทนทุกข์กับความทรงจำอันเลวร้ายที่กระทบต่อจิตใจไปตลอดชีวิต