ตำรวจตามรวบแก๊งค้ายาเสพติด ปล้นชิงยาบ้าและปืนเจ้าหน้าที่ได้แล้ว 4 คน จากที่ถูกออกหมายจับ 5 คน ล่าสุด กู้รถเก๋งปลัดที่ถูกชิงไป หลังถูกนำไปทิ้งในอ่างเก็บน้ำ

จากกรณีแก๊งค้ายาเสพติด ขับรถยนต์ 4 คัน ยกพวกนับสิบคน พร้อมอาวุธครบมืออ้างตัวเป็นตำรวจ สภ.รัตภูมิ บุกชิงตัวผู้ต้องหาค้ายาเสพติด ขณะปลัด พร้อม อส.ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครอง จ.สงขลา นำตัวไปสอบสวนขยายผลล่อซื้อ บริเวณทางเข้าบ้านนิคมร่วมพัฒนา หมู่ 11 ต.แพงเพชร อ.รัตภูมิ จ.สงขลา พื้นที่ สภ.รัตภูมิ เมื่อช่วงคืนวันที่ 18 ต.ค. พร้อมปล้นอาวุธปืนประจำกายของเจ้าหน้าที่ไป 5 กระบอก รถเก๋ง 1 คัน โทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง และยาบ้าของกลาง 10 มัด รวม 2 หมื่นเม็ด แต่ไม่ได้ตัวผู้ต้องหาไป เพราะอยู่ในรถอีกคัน

ล่าสุดในวันนี้(21ต.ค.65) ได้มีการออกหมายจับผู้ต้องหาที่ร่วมก่อเหตุแล้ว 5 คน จากที่ร่วมก่อเหตุ 7 คน ส่วนอีกสองคนกำลังอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับเพิ่ม

ขณะนี้เจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว 4 คน พร้อมตามยึดรถยนต์ของคนร้ายที่ใช้ก่อเหตุได้แล้ว 2 คัน เป็นรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า ยาริส สีขาว ซึ่งเป็นรถที่คนร้ายใช้ก่อเหตุซึ่งนำไปฝากไว้ที่บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ อ.บางกล่ำ จ.สงขลา ขณะที่อีกคันเป็นรถกระบะ ซึ่งเป็นรถอีก 1 คัน โดยตามไปยึดได้ในพื้นที่บ้านท่าแซ อ.บางกล่ำ

โดยนายเสริมศักดิ์ อายุ 47 ปี 1 ในผู้ต้องหาถูกจัลกุมได้ขณะหลบหนีในพื้นที่จังหวัดพัทลุง โดยให้การว่า หลังก่อเหตุปล้นยาเสพติดและรถเก๋งได้แล้ว ได้ขับรถเก๋งของปลัดที่ชิงมา ขับไปทิ้งลงในอ่างเก็บน้ำบ้านควนนา หมู่ 7 ต.กำแพงเพชร อ.รัตภูมิ จ.สงขลา เจ้าหน้าที่จึงคุมตัวไปชี้จุดที่นำรถไปทิ้งรถ ก่อนจะประสานนักประดาน้ำมูลนิธิมิตรภาพสามัคคีหาดใหญ่ ลงไปงมหาจนพบ ซึ่งจมอยู่ในน้ำลึกประมาณ 7 เมตร และลากขึ้นมาได้สำเร็จ

ด้าน พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 เปิดเผยว่า จากการสืบสวนพบว่าผู้ต้องหาที่ร่วมก่อเหตุในคดีนี้มีไม่ถึง 10 คน ไม่ใช่ 20 คนตามที่ ปลัด และอส.ให้การ และในวันนี้ได้ออกหมายจับแล้ว 5 คน และจับกุมได้แล้วบางส่วน ซึ่งเป็นกลุ่มค้ายาเสพติดในพื้นที่ อ.รัตภูมิ

และจากการสืบสวนไม่มีตำรวจเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องและคดีนี้น่าจะจบได้ภายใน1-2 วันนี้

และเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ตำรวจ สภ.รัตภูมิ ได้ควบคุมตัว นายธนกร อายุ 35 ปี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาในคดียาเสพติดที่ถูกปลัด และอส.จับกุมได้ ไปขยายผลในช่วงเกิดเหตุ ไปฝากขังที่ศาล จ.สงขลา โดยระหว่างที่นำตัวขึ้นรถฝากขังปิดปากเงียบไม่ได้ให้สัมภาษณ์ใดๆ

สำหรับผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับทั้ง 5 คน ถูกดำเนินคดี 7 ข้อหา คือปล้นทรัพย์โดยมีหรือใช้อาวุธปืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม, ต่อสู้ หรือขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติการตามหน้าที่ โดยใช้กำลังประทุษร้ายหรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายได้กระทำโดยมีหรือใช้อาวุธ, เป็นอั้งยี่ , ช่องโจร, ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ใด้ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย, ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พาอาวุธปีนเข้าไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัวและไม่มีเหตุจำเป็นและเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์และโดยไม่มีเหตุอันสมควร,ปล้นทรัพย์โดยมีหรือใช้อาวุธโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแห่งการกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม