เกิดเหตุแก๊งค้ายาเสพติดเหิม!! ยกพวกพร้อมอาวุธครบมือบุกชิงยาเสพติดจากเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจ.สงขลา ขณะทำการล่อซื้อ พร้อมชิงอาวุธปืนประจำกายของเจ้าหน้าที่ไป 5 กระบอก พร้อมรถเก๋ง และยาบ้าของกลาง10มัด

เกิดเหตุอุกฉกรรจ์ ที่จ.สงขลา เมื่อแก๊งค้ายาเสพติดจำนวน 20 คน พร้อมอาวุธปืนครบมือ บุกชิงยาเสพติดและอาวุธปืนของเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดสงขลา ขณะเข้าล่อซื้อยาเสพติดจากเอเย่นต์ค้ายาในพื้นที่อ.รัตภูมิจ.สงขลา โดยกลุ่มคนร้ายได้อาวุธปืนประจำกายของเจ้าหน้าที่ไป 5 กระบอก พร้อมรถเก๋ง 1 คัน โทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง และยาบ้า10มัด แต่ไม่ได้ตัวผู้ต้องหาไป

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นบริเวณทางเข้านิคมร่วมพัฒนา หรือศาลาเขียว พื้นที่หมู่11 ต.กำแพงเพชร อ.รัตภูมิ จ.สงขลา เมื่อเวลา 21.30น.คืนวันที่ 17 ต.ค.ที่ผ่านมา จ่าเอกไพรัช แก้วมณี เจ้าพนักงานปกครอง รอง หัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดสงขลา พร้อมอส.อีก 5 นายประกอบด้วย อส. นายเลิศฤทธิ์ ไชยพฤกษ์กุล, นายพิษณุ รัตนอุไร, นายอศิสักดิ์ หวังนิ, นายเฉลิมศักดิ์ ทองหวัง และนายสุทิพงษ์ สุวรรณชาตรี

ได้ทำการล่อซื้อยาบ้า จาก นายธนกร อายุ 35 ปี ชาวจ.เชียงราย ได้ของกลาง ยาบ้า จำนวน 10 มัด ที่บริเวณหน้าโรงเรียนบ้านควนสะตอ หมู่ที่ 3 ต.ท่าชะมวง อ.รัตภูมิ จ.สงขลา และได้ให้ นายธนกรทำการล่อซื้อยาเสพติด ซึ่งเป็นไอซ์ อีกจำนวน 8 กิโลกรัม จากนายดำ ไม่ทราบชื่อจริง อยู่ที่จ.สตูล 

โดยนัดส่งมอบของกันในเวลา 19.45 น. ที่บริเวณแยกศาลาเขียว หมู่ที่ 11 ต.กำแพงเพชร อ.รัตภูมิ โดยใช้รถ 2คัน โดยจ่าเอกไพรัช กับอส.อีก 5 เดินทางไปกับรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อมิตชูบิชิ รุ่นมิราช สีดำ ทะเบียน กจ-5064 ทม. และให้ อส.สุทธิพงศ์ สุวรรณชาตรี ควบคุมตัว นายธนกร ผู้ต้องหา ไปกับรถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูชุ สีดำ หมายเลขทะเบียน บษ 8065 เชียงราย ซึ่งเป็นรถของผู้ต้องหา

แต่เมื่อไปถึงจุดนัดพบได้มีมีรถยนต์ จำนวน 4 คัน ประกอบด้วย รถยนต์กระบะยี่ห้ออีซุชุ แคป สีบรอนซ์ มีรั้วกั้นด้านหลัง ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน คันที่2 รถยนต์เก๋งยี่หัอโตโยด้า รุ่นยาริส สีขาว ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน รถยนต์เก๋ง ฮอนต้า รุ่นแจ๊ส สีขาว ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน และรถยนต์กระบะ ไม่ทราบ ยี่ท้อ และสี ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน เข้ามาจอตรถปิดล้อม รถคันของจ่าเอกไพรัช และมีกลุ่มชาย ประมาณ 20 คน มีอาวุธปีนพกสั้นทุกคน และมีอาวุธปืนยาว M4 จำนวน 1 กระบอก แล้วบังคับให้ทุกคนลงจากรถ และให้ถอดเสื้อ และปลดอาวุธปืนพกประจำกาย


ประกอบด้วยอาวุธปืนพกสั้น ๙ มม. 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนปืน ของ จ่าเอกไพรัช อาวุธปืนพกสั้น9มม.1กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนปืน และโทรศัพท์มือถือ2 เครื่อง ของ นายเลิศฤทธิ์ อาวุธปืนพกสั้น 9 มม.1กระบอกพร้อมเครื่องกระสุนปืน ของ นายพิษณุ รัตนอุไร อาวุธปืนพกสั้น9 มม. พร้อมเครื่องกระสุนปืน และโทรศัพท์มือถือ2เครื่อง ของ นายอดิศักดิ์ หวังนิ และ อาวุธปืนพกสั้น 9มม.1กระบอก และได้สอบถามเจ้าหน้าที่ว่าเป็นหน่วยใด จ่าเอกไพรัช แจ้งว่า เป็นเจ้าหน้าที่มี บัตร ป.ป.ส. และส่งบัตร ป.ป.ส. ให้คนร้ายดู และทางกลุ่มคนร้ายอ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.รัตภูมิ

จากนั้น คนร้ายได้ให้ จ่าเอกไพรัช กับพวก รวม 5 คน ขึ้นรถยนต์ กระบะคันที่มีรั้ว แล้วขับรถออกมาประมาณ50 เมตร และ คนร้าย ได้ให้ จำเอกไพรัชฯ กับพวก ลงจากรถ จากนั้นคนร้าย ขับรถหลบหนีไป พร้อมกับขับรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นมิราช สีดำ ทะเบียน กจ-5064 กทม.ของจ่าเอกไพรัชไปด้วยซึ่งในรถมี ยาบ้า ของกลาง จำนวน10มัด และนำอาวุธปืนพกสั้น ของเจ้าหน้าที่ จำนวน 5 กระบอก และโทรศัพท์มือถือ หลบหนีไป ส่วนนายธนกร ไม่ได้ตัวไปเพราะอยู่ในรถอีกคัน แต่ยังไม่แน่ชัดว่ากลุ่มคนร้ายพยายามจะบุกชิงตัวผู้ต้องหาไปด้วยหรือไม่หรือต้องการเอายาเสพติดเพียงอย่างเดียว

ส่วน อส.สุทธิพงษ์ ที่อยู่ด้านหลัง เมื่อเห็นเหตุการณ์จึงขับรถมาแจ้งเหตุที่สภ.รัตภูมิ ทางตำรวจสภ.รัตภูมิจึงนำกำลังไปช่วยจ่าเอกไพรัช กับพวก ออกจากที่เกิดเหตุ พามาที่สถานีตำรวจภูธรรัตภูมิ และแจ้งความร้องทุกข์

และล่าสุดในวันนี้(19 ต.ค.65) ที่สภ.รัตภูมิ จ.สงขลา ทางตำรวจชุดสืบสวนภาค9ร่วมกับชุดสืบสวนตำรวจภูธรจ.สงขลา นำโดย พ.ต.อ.สมพงษ์ สุวรรณวงศ์ รองผู้บังคับการสืบสวนภาค9 ได้ลงพื้นประชุมสรุปเหตุการณ์และวางแนวทางการสืบสวนล่าตัวคนร้าย

พร้อมทั้งได้ควบคุมตัว นายธนกร มาสอบสวนขยายผลเพิ่มเติมด้วยเพื่อหาเบาะแสของคนร้ายทั้ง 20 คน เพราะเชื่อว่าน่าจะรู้จักกับกลุ่มคนร้าย นอกจากนี้ ยังได้เชิญตัวจ่าเอกไพรัช พร้อมอส.อีก 5 นาย มาสอบสวนในรายละเอียดเพิ่มเติมด้วย

ส่วนแนวทางการสืบสวนล่าตัวคนร้าย ทางชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่ตรวจสอบภาพจากกล้องจรปิดตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายใช้หลบหนี โดยแยกเป็นสี่เส้นทางคือ เส้นทางท่าชะมวง-หาดใหญ่ เส้นทางท่าชะมวง-สตูล เส้นทางรัตภูมิ-คูหา และเส้นทางเข้าบ้านนิคมร่วมพัฒนา ซึ่งเป็นเส้นทางเชื่อมต่อที่สามารถแยกไปได้อีกหลายเส้นทาง

มีรายงานว่า แก๊งค้ายาเสพติดกลุ่มนี้ เป็นเครือข่ายเอเย่นต์ค้ายาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่อ.รัตภูมิ