หนุ่มเมืองคอนคลั่งยานรก ไล่ฟันเมียเพื่อนรักบุกทำลายข้าวของและพังร้านขายน้ำหวานฟันรถยนต์เสียหาย ตำรวจรีบตะครุบตัว แจ้ง 4 ข้อหาหนัก

เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.พระพรหม ได้รับแจ้งคนเมายาเสพติด เกิดอาการคลุ้มคลั่งอาละวาดใช้มีดไล่ฟันทำร้ายเจ้าของร้านขายน้ำหวานริมถนนสายเบญจม-นาพรุ หน้าบ้านผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 ต.นาสาร อ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช จึงรบรุดไประงับเหตุ

ที่เกิดเหตุพบ น.ส.ทันทิวาพร (ติ๊ก) อายุ 25 ปี เจ้าของร้านยืนรอเจ้าหน้าที่ด้วยอาการตื่นตกใจ ส่วนคนร้ายได้หลบหนีไปก่อนหน้าแล้ว

ต่อมานายเอกนัฐ หรือก้อง อายุ 33 ปี สามี น.ส.ทันทิวาพร ทราบเรื่องรีบรุดมาที่ร้านที่เกิดเหตุ

เมื่อตรวจสอบความเสียหาย เบื้องต้นพบว่า ข้าวของภายในร้าน เช่น กระติกน้ำร้อน ขวดน้ำหวาน และแก้วน้ำ และวัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ ถูกฟันด้วยมีดพร้า รถยนต์กระบะถูกฟันด้วยมีด และขว้างปาด้วยก่อนหินจนกระจกแจก ตัวถังยุบเล็กน้อย รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 10,000 บาท

โดย น.ส.ทันทิวาพร และนายเอกนัฐ ยืนยันว่าคนที่ก่อเหตุคือนายธรรมวัฒน์ (จักร) อายุ 34 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนของนายเอกนัฐ อาศัยอยู่ฝั่งถนนตรงข้าม เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมอุปกรณ์ควบคุมระงับเหตุคนคลุ้มคลั่ง จึงเข้าควบคุมตัวเอาไว้ได้พร้อมมีดที่ใช้ก่อเหตุ จากนั้นจึงควบคุมตัวมาสอบสวนดำเนินคดีที่โรงพัก โดยมีพ่อแม่ของนายธรรมวัฒน์ตามมาที่โรงพักด้วย

นายธรรมวัฒน์ ให้การรับสารภาพว่าได้บุกไปก่อเหตุโดยใช้มีดไล่ฟัน น.ส.ทันทิวาพรจริง

น.ส.ทันทิวาพร กล่าวว่าในขณะที่ตนยืนคอยบริการขายน้ำหวานอยู่ในร้านริมถนน สังเกตเห็นนายธรรมวัฒน์ เพื่อนของสามีวิ่งข้ามถนนมาอย่างรวดเร็ว ในมือถือมีดยาวกว่า 1 เมตรตรงดิ่งมาที่ร้านของตน ตนเห็นท่าไม่ดีจึงเปิดประตูร้านวิ่งหลบหนีออกจากร้าน โดยถูกนายธรรมวัฒน์ ใช้มีดฟันเฉี่ยวแผ่นหลังไปนิดเดียวรอดตายมาได้อย่างหวุด จึงร้องตะโกนขอความช่วยเหลือและไปแอบซ่อนอยู่ในป่าละเมาะ ก่อนโทรแจ้งเหตุให้นายเอกนัฐสามีทราบ

ระหว่างนั้นนายธรรมวัฒน์ หรือจักร ได้ใช้มีดพร้าหันทำลายข้างของในร้านจนเสียหายยับเยิน และเมื่อนายเอกนัฐ หรือก้อง สามีขับรถยนต์หกระบะมาถึงร้านและยังไม่ทันได้ลงจากรถถูกนายธรรมวัฒน์ หรือจักร ฟันโดนกระจกและเหนือประตู และยังขว้างปาด้วยก้อนหิน จนรถยนต์เสียหายไม่น้อยเช่นกัน

ในขณะที่นายเอกนัฐ กล่าวว่า ตามปกตินายธรรมวัฒน์ เป็นเพื่อนของตน และเคยเป็นทหารพรานมาก่อน แต่ติดยาเสพติดจึงออกจากทหารพรานมาอยู่บ้านและที่ผ่านมาตนให้การช่วยเหลือทั้งเรื่องเงิน อาหารมาโดยตลอดโดยเมื่อ 3-4 วันก่อนก็ยืมรถ จยย.ของตนที่เพื่อนนำมาฝากไว้หายไปจนถึงขณะนี้ยังไม่นำมาคืน คาดว่าจะนำไปจำนำแลกกับยาเสพติด เพราะนายธรรมวัฒน์ เสพยาอย่างหนัก ถูกตำรวจจับกุมมาหลายครั้งและเพิ่งพ้นโทษออกจากคุกได้ไม่นาน สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ยืนยันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด

โดยพนักงานสอบสวน แจ้งความดำเนินคดีนายธรรมวัฒน์ 4 ข้อหาหนัก ประกอบด้วย ข้อหาพยายามทำร้ายร่างกาย ทำลายทรัพย์สิน พกพาอาวุธมีด และเสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย