ทนาย พา นักเรียนผู้เสียหาย แจ้งความตำรวจ หลังเด็กอ้างว่า ถูกครูพละตบทำร้าย

 

นายเกรียงศักดิ์ พินทุสรศรี ทนายความชื่อดัง ได้พาน้องเบส พร้อมพ่อแม่ เข้าพบ พ.ต.ท.ประเมศฐ์ มหาศิรธนโรจน์ รอง ผกก.สอบสวน สภ.บางบ่อ เพื่อเข้าแจ้งความ ขอความเป็นธรรม พร้อมทั้งเรียกร้องให้ตำรวจ ไปเอาภาพจากกล้องวงจรปิดของโรงเรียน มาดูภาพเหตุการณ์ที่ครูพละทำร้ายน้องเบส เพราะไม่พอใจที่น้องเบสเรียกชื่อ "ไอ้ (ชื่อครู)" เพื่อให้เห็นความจริงที่เกิดขึ้น โดยก่อนหน้านี้ ทางโรงเรียนไม่ยอมให้พ่อแม่ของเด็กดู หลังจากพูดคุยในเบื้องต้น

ทั้งนี้ พ.ต.ท.ประเมศฐ์ ได้สั่งการให้ชุดสายสืบ พร้อมทนายความและผู้เสียหาย เดินทางไปยัง โรงเรียนวัดบางบ่อ ไปดูสถานที่เกิดเหตุ พร้อมเข้าไปขอภาพจากกล้องวงจรปิด นำกลับมาตรวจสอบ โดยวันนี้ น้องเบส ไม่ได้ไปโรงเรียน เนื่องจาก กลัวครูทำร้าย ข่มขู่ และอายเพื่อน กลัวถูกล้อเลียนนินทา

ขณะที่พ่อแม่ของน้องเบส กล่าวว่า น้องเบส ป่วยเป็นมะเร็งในเม็ดเลือดขาว 4-5 ปี ที่ต้องให้คีโมรักษาอาการ จึงทำให้มีผลกระทบด้านอารมณ์ในบางครั้ง อาจทำให้หงุดหงิด อารมณ์ร้อน โมโหขึ้นได้ แต่ก็จะเป็นไปในทิศทางที่ถูกกระตุ้นอารมณ์ ซึ่งครั้งนี้เด็กถูกครูยึดลูกตะกร้อไป ทำให้หงุดหงิด ไปพูดกับเพื่อนและเผลอเรียกชื่อครูด้วยคำหยาบ แต่กลับมาถูกครูทำร้ายร่างกายเกินกว่าเหตุ

ทนายเกรียงศักดิ์ กล่าวว่า ในวันพุธนี้ตำรวจจะเรียกเด็กและผู้ปกครองเข้าไปสอบสวนถึงรายละเอียดที่เกิดขึ้นต่อหน้าสหวิชาชีพ จากนั้นจะเรียกครูคู่กรณี เข้ามาสอบสวนถึงรายละเอียดอีกครั้ง จากเหตุการณ์ครั้งนี้ ถ้าเป็นจริงตามที่เด็กและผู้ปกครองเล่าให้ฟัง คงต้องดำเนินการเอาผิดกับครูพละให้ถึงที่สุด เพื่อจะได้เป็นตัวอย่างให้กับครูคนอื่น ไม่ไปก่อเหตุกับเด็กคนไหนอีก และจะทำเรื่องไปถึงหน่วยงานต้นสังกัดให้เข้มงวดลงโทษครูที่มีพฤติกรรมทำร้ายเด็กแบบนี้

ทนายเกรียงศักดิ์ กล่าวว่า เมื่อดูภาพจากกล้องวงจรปิดวันเกิดเหตุ เห็นเหตุการณ์ไม่ชัดเจน เนื่องจากกล้องตั้งอยู่ไกล อีกทั้งมีต้นไม้บัง ทำให้ไม่เห็นภาพขณะก่อเหตุ

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวพยายามขอสัมภาษณ์ผอ.โรงเรียน แต่รอง ผอ.แจ้งว่าติดประชุมไม่สะดวก เบื้องต้นครูเบิร์ดไม่ได้กระทำความผิดอะไร โรงเรียนจึงไม่ได้มีการลงโทษ แต่ได้มีการประชุมกับครูและสั่งห้ามไม่ให้ก่อเหตุ ทำให้เกิดความเข้าใจว่าเป็นการทำร้ายร่างกายเด็ก ให้เป็นประเด็นเกิดขึ้นอีก