"แม่แตงโม" ตกลงกับแก๊งสปีดโบตได้ ทำสัญญาประนีประนอม พร้อมถอนเป็นโจทย์ร่วม มีรายงาน 6 จำเลยวางเงิน 2 ล้านหน้าศาล และตกลงจะจ่าย 3หมื่นบาทต่อเดือนให้แม่แตงโม

 

ภายหลังศาลจังหวัดนนทบุรี นัดคุ้มครองสิทธิและสอบคำให้การยจำเลยในคดีการเสียชีวิตของแตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์ โดยจำเลยในคดีทั้ง 6 คน ได้มีการพูดคุยเจรจาไกล่เกลี่ยร่วมกันกับผู้เสียหาย คือคุณแม่ภนิดา คุณแม่ของแตงโม ต่อหน้าศาลนานกว่า 4 ชั่วโมง

เบื้องต้น มีรายงานว่า ฝ่ายจำเลยได้วางเงินสดและเงินแคชเชียร์เช็กต่อหน้าศาลวันนี้ รวม 2,000,000 บาท (แบ่งเป็นเงินสด 400,000 บาท และแคชเชียร์เช็ก 1,600,000 บาท) ซึ่งมีการทำสัญญาประนีประนอมกันในส่วนแพ่งด้วยว่า หลังจากนี้ทางจำเลยจะต้องร่วมกันจ่ายเงินให้คุณแม่ภนิดาเพิ่มเติมอีกเดือนละ 30,000 บาท เป็นระยะเวลา 20 ปี ไม่ตกต่อทายาท ขณะที่บรรยากาศภายในศาลระหว่างการพิจารณาคดี คุณแม่ภนิดาและจำเลยทั้ง 6 ได้พูดคุยสนทนากันดี คุยกันหวานชื่น โดยเฉพาะปอและโรเบิร์ตที่แม่เรียกว่า ลูกรัก ตลอดด้วย

ต่อมา เวลา 13.10 น. กระติก แซน พร้อมด้วยทนายพรศักดิ์ ได้เดินทางออกจากศาล ซึ่งทนายพรศักดิ์ ได้เปิดเผยว่า รายละเอียดการทำสัญญาประนีประนอม ขอให้ถามคุณแม่ เพราะตกลงกันไว้ว่าเป็นความลับ ซึ่งยืนยันว่า เป็นการตกลงกันได้ทั้งคดีแพ่งและอาญา และคุณแม่ก็มีความกรุณากับจำเลยทุกคน รวมถึงวันนี้คุณแม่ยังได้ถอนการยื่นขอเป็นโจทก์ร่วมในคดีอาญาด้วย โดยศาลได้นัดอีกครั้งวันที่ 22 ธันวาคมนี้ เวลา 09.00 น. เพื่อตรวจพยานหลักฐาน ซึ่งจำเลยทุกคนต้องแถลงต่อศาลในแนวทางการต่อสู้คดี และการสืบพยาน ยืนยันว่าวันนี้จำเลยทุกคนยังให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา

ด้าน กระติก เปิดเผยว่า บรรยากาศการพูดคุยกันกับคุณแม่ในวันนี้เป็นไปด้วยดี ตนก็มีการทักทายปกติ และยังชมคุณแม่ว่าดูหน้าตาสดใสขึ้น ดูเด็กลง ส่วนเรื่องค่าเสียหายก็สามารถตกลงกันได้ด้วยดีและมีการแถลงต่อหน้าศาล แต่ตนขอไม่พูดถึงรายละเอียดหรือตัวเลขด้วยตัวเอง เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ให้ไปถามคุณแม่ ทั้งนี้ หลังเสร็จสิ้นกระบวนการวันนี้ ก็รู้สึกสบายใจขึ้น โดยจริงๆ ก็สบายใจขึ้นอยู่เรื่อยๆ เพราะรู้กฎหมาย รู้แนวทางมากขึ้น ส่วนกับคุณแม่หลังได้เจอกันวันนี้ ก็ปกติ เพราะตนไม่มีอะไรติดใจอยู่แล้ว ทุกอย่างยังเป็นเหมือนเดิม เจอคุณแม่ได้ปกติถ้าต้องเจอกัน

ขณะที่ แซน กล่าวว่า บรรยากาศการพูดคุยในห้องพิจารณาคดีเป็นไปได้ด้วยดี เมื่อเจอหน้ากันคุณแม่ก็ยิ้มแย้มทักทายและรับไหว้ตนด้วย โดยตนและกระติกได้ร่วมกันมอบของขวัญให้กับคุณแม่เป็นต่างหูมุกหนึ่งคู่ มูลค่าประมาณ 5 หมื่นบาท ซึ่งเลือกจากความเหมาะสมที่คิดว่าคุณแม่น่าจะชอบ ตอนที่มอบให้คุณแม่ก็ยิ้มแย้มแจ่มใส โดยที่ให้เป็นการให้ของขวัญที่อยากมอบให้ผู้ใหญ่เท่านั้น ไม่ได้เกี่ยวกับกับเรื่องคดี

 

นอกจากนี้ ยังมีอีกเรื่องหนึ่งที่ตนอยากจะแถลง คือตนอยากจะปลดทนายพรศักดิ์ วิภาสอาภานนท์ ออกจากการเป็นทนายในคดีที่ตนแจ้งความ หนิง ปณิตาและสามี ที่ สน.ปทุมวัน ใน 3 ข้อหา ได้แก่ ข้อหาหมิ่นประมาท ข้อหาแจ้งความเท็จ และข้อหารู้ว่าไม่ได้มีการกระทำความผิด แต่แกล้งให้รับโทษในทางอาญา โดยตนมองว่า ทนายตัวเองอาจไม่เส้นใหญ่พอที่จะทำให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีไปตามกระบวนการ เนื่องจากพนักงานสอบสวนไม่ออกหมายเรียก มารับทราบข้อกล่าวหา โดยตอนแรกบอกว่า จะออกหมายเรียกให้มารับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 4 ต.ค. แต่สุดท้ายก็บอกว่า ได้ระงับการออกหมายเรียก เพราะจะต้องรอให้คดีที่ตนเป็นฝ่ายถูกหนิง ปณิตา แจ้งความ เสร็จสิ้นก่อน ซึ่งตนไม่เข้าใจว่า มันเกี่ยวข้องกันตรงไหน ทำไมถึงต้องรอ

ทั้งนี้ ทางทนายพรศักดิ์ ได้กล่าวถึงประเด็นนี้ว่า ตนเองก็เพิ่งรู้ว่า แซน อยากจะปลดตนในคดีดังกล่าว ซึ่งแซนอาจจะมองว่าตนไม่มีศักยภาพพอ แต่เรื่องนี้ตนเองก็ไม่เห็นด้วยเหมือนกัน เพราะมองว่า ทั้ง 2 คดี เป็นการกระทำที่ไม่เกี่ยวข้องกัน สามารถที่จะดำเนินคดีไปพร้อมกันได้ แต่ก็ต้องให้เป็นไปตามดุลพินิจของพนักงานสอบสวน ซึ่งในส่วนของตนเองในฐานะทนายความ ก็จะดำเนินการยื่นเรื่องขอให้พนักงานสอบสวนมีการพิจารณาใหม่ ส่วนจะมองว่าฝ่ายตรงข้ามเส้นใหญ่กว่าหรือไม่นั้น ทนายพรศักดิ์ บอกว่า ตนเองไม่ได้มองแบบนั้น เพราะทุกคนทำตามกฎหมายหมด และไม่ได้เสียความรู้สึก และจะไม่ให้แซนถอดถอนตนง่ายๆ เพราะคดีหลักที่ศาลจังหวัดนนทบุรี ตนเองก็ยังทำหน้าที่ต่อ

สำหรับจำเลยอีก 4 คนที่เหลือ หลังเสร็จสิ้นกระบวนการ ได้อาศัยจังหวะชุลมุน เดินทางออกจากศาลและหลบขึ้นรถเดินทางกลับไปทันที เช่นเดียวกับ คุณแม่ภนิดา คุณแม่ของแตงโม ที่ได้เดินทางกลับออกไปทางประตูด้านข้างศาล ไม่ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน และปิดเครื่องโทรศัพท์ด้วย ไม่สามารถติดต่อได้