"สุดารัตน์" พร้อมนั่งนายกฯ หากมีการเสนอชื่อหลัง"บิ๊กตู่" หมดอายุ มองเกมผู้มีอำนาจตอนนี้ชิงเก้าอี้กันเอง เชื่อยังไงก็ไม่พ้น 3 ป. ด้าน ศิธา รับกังวลรัฐบาลได้เปรียบลงพื้นที่หาเสียง ช่วง 180 วันก่อนครบอายุสภา

 

วันที่ 19 ก.ย. 2565 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย กล่าวถึงการมีชื่อเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีในนามพรรคเพื่อไทย หากมีการเสนอชื่อหลังพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ครบวาระ 8 ปี จะพร้อมทำหน้าที่หรือไม่ ว่า สถานการณ์ขณะนี้เหมือนเป็นการแย่งอำนาจกัน และไม่คิดว่าจะถ่ายโอนอำนาจให้ประชาชนอย่างแท้จริง และสุดท้ายจะมีกลไกให้ผู้มีอำนาจขณะนี้สืบทอดอำนาจต่อไป สำหรับตนเองแม้มีชื่ออยู่ในแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี แต่ความมุ่งมั่นตอนนี้คือต้องการเป็นสะพานให้คนรุ่นใหม่มาสร้างประเทศร่วมกัน ซึ่งตำแหน่งนี้ตามหน้าที่และกฎหมายถอนออกไม่ได้ หากมีการเสนอ ก็ต้องยืนยันเดินหน้าต่อไป คุณหญิงสุดารัตน์ มาขยายความในช่วงท้ายว่า แม้ในทางกฎหมายจะถอนชื่อไม่ได้ แต่ปฏิเสธที่จะไม่รับได้ ก่อนจะทิ้งท้ายว่า เป็นนายกรัฐมนตรีหลังเลือกตั้งดีกว่า

เมื่อถามว่า ตอนนี้อ่านใจผู้มีอำนาจอย่างไร กับการวางตัวนายกรัฐมนตรีต่อจากพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ด้านคุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ไม่ทราบเขาวางตัวไว้อย่างไร แต่วันนี้มีชื่อของพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และอาจจะมีพลเอกอื่นตามมาก็ได้

 

 

ขณะที่ นาวาอากาศตรีศิธา ทิวารี เลขาธิการพรรคไทยสร้างไทย กล่าวเสริมประเด็นนี้ว่า สิ่งที่ผู้มีอำนาจวางไว้คงหนีไม่พ้น 3 ป. วันนี้ตัด 1 ป. ออกไป ยังเหลืออีก 2 ป. ดังนั้น สิ่งที่อยากได้คือตัวเองต้องได้ขึ้นก่อน ถ้าไม่ได้ก็เป็น ป. ข้าง ๆ ก็ถือยังมีผลประโยชน์ร่วมกันได้ นี่คือความคิดของผู้มีอำนาจ ส่วนประชาชนและพรรคการเมืองอื่นจะคิดอย่างไรเป็นอีกเรื่องหนึ่ง

นายศิธา ยังกล่าวถึงกรณีที่ 3 ป. แข่งขันกันลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชน หวังชิงความได้เปรียบทางการเมืองหรือไม่ว่า วันนี้หากถึงกรอบเวลาช่วง 180 วัน ก่อนครบอายุสภา ที่จะตรงกับวันที่ 24 กันยายนนี้ กกต. ประกาศว่า พรรคการเมืองไม่สามารถลงพื้นที่แจกของประชาชนได้ แต่คนที่จะสามารถทำได้จะเหลือแค่พรรคการเมืองฝ่ายรัฐบาลเท่านั้น และไม่ได้ใช้เงินตัวเอง แต่ใช้ภาษีอากรของประชาชน จึงขอให้เรื่องนี้ปฏิบัติโดยชอบธรรม หากรัฐบาลอยากช่วยเหลือก็ไม่ควรติดป้ายบ่งบอกว่าเป็นพรรคการเมือง สร้างความได้เปรียบกว่าพรรคการเมืองที่ไม่ได้ร่วมรัฐบาล