พล.อ.ประวิตร นำประชุม ครม.ติดตามสถานการณ์น้ำ จับตาขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ต่ออายุลดภาษีน้ำมันดีเซล ช่วยลดค่าไฟฟ้าให้กลุ่มเปราะบาง 8 พันล้านบาท โดยเสนอใช้เงินงบกลางฯ 2 ปีงบประมาณ 65-66

 

  
วันที่ 13 ก.ย. 2565 พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี ในสัปดาห์ที่ 3 ภายหลังที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ระหว่างพิจารณาวาระการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีครบ 8 ปี โดยมีรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมการประชุม

ก่อนการประชุม นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นำคณะผู้บริหารเข้าพบเพื่อนำเสนอผลงานบันทึกสถิติโลก และมอบเอกสารบันทึกสถิติโลก "ไม้กลายเป็นหินที่ยาวที่สุดในโลก" จากสถาบัน Guinness World Records
 
ขณะที่นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน นำคณะเข้าพบพลเอกประวิตร เพื่อแสดงผลงานรางวัลเลิศรัฐปี 2565 ผลงานการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำ "ชลประทานเพื่อท้องถิ่น" อ่างเก็บน้ำแม่ตาช้าง จ.เชียงราย

สำหรับการประชุม ครม.ในวันนี้จะมีการหารือเรื่องการรับมือสถานการณ์น้ำท่วม และการบริหารจัดการน้ำ หลังจากหลายพื้นที่ในหลายจังหวัด รวมทั้งกรุงเทพมหานคร ประสบปัญหาอุทกภัย รวมถึงวาระเศรษฐกิจที่เข้าสู่การพิจารณาและรับทราบของ ครม. โดยกระทรวงการคลัง จะเสนอมาตรการต่ออายุลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลที่กำลังจะหมดอายุในวันที่ 20 กันยายนนี้ ต่อไปอีก

ส่วนมาตรการช่วยเหลือเรื่องค่าไฟฟ้าให้กับประชาชน กระทรวงมหาดไทยจะเสนอมาตรการช่วยเหลือค่าไฟฟ้าให้กับประชาชนกลุ่มเปราะบาง วงเงิน 8 พันล้านบาท โดยใช้จากงบกลางฯ ปี 2565 และงบกลางฯ ปี 2566 เพื่อดูแลค่าไฟฟ้าให้กับประชาชนกลุ่มเป้าหมาย 4 เดือน ตั้งแต่กันยายน – ธันวาคม

ด้านกระทรวงแรงงาน เสนอ รม.เห็นชอบการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ หลังคณะกรรมการค่าจ้าง มีมติปรับค่าจ้างขั้นต่ำปี 2565 แบ่งเป็น 9 อัตรา จ. ชลบุรี ระยอง ภูเก็ตขึ้นสูงสุด 356 บาท ต่ำสุดอยู่ที่ยะลา ปัตตานี นราธิวาส น่าน และอุดรธานี ปรับขึ้น 328 บาท ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล อยู่ที่ 353 บาท โดยบังคับใช้ 1 ตุลาคม

กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ขออนุมัติการงบกลาง รายการเงินสำรองจ่าย เพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ในการจ่ายเงินงบอุดหนุนเฉพาะกิจ โครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565

สภาพัฒน์ ขออนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น และการก่อหนี้ผูกพันข้าม ปีงบประมาณ พ.ศ.2566-2567 เพื่อดำเนินโครงการการจัดทำการประเมิน สิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์สำหรับแผนแม่บทการพัฒนาเชิงพื้นที่ของจังหวัดสงขลา และปัตตานี

พร้อมรับทราบผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ภายใต้พระราชกำหนดฯ เพิ่มเติม พ.ศ. 2565 และรายงานผลการดำเนินงานโครงการพัฒนาวัคซีนต้นแบบตั้งแต่ต้นน้ำ และเตรียมความพร้อมรับการถ่ายทอดเทคโนโลยีผลิตวัคซีนโควิด-19