"ทนายตั้ม" พานักแสดงสาว "ใจบัว" เปิดใจ หลังแจ้งความดำเนินคดีกรณีตำรวจกระทำอนาจาร

 

วันที่ 9 ส.ค. 2565 จากกรณีที่ “ใจบัว” นักแสดงสาว เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.คันนายาว กล่าวหาตำรวจนายหนึ่งว่าล่วงละเมิดทางเพศ กระทำอนาจารในบ้านเพื่อนที่เธอพัก หลังจากปาร์ตี้แล้วเสร็จ ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ ที่สำนักงานทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ได้พา "ใจบัว" มาเปิดใจกับสื่อมวลชนในกรณีดังกล่าว

ใจบัว เปิดเผยว่า ตอนนี้ที่ออกมาพูดเพราะสภาพจิตใจเริ่มดีขึ้นแล้ว และไม่อยากให้มีใครตกเป็นเหยื่ออีก ซึ่งที่ผ่านมาเอาแต่โทษตัวเองตลอดว่าดูแลตัวเองไม่ดีและไว้ใจเพื่อนมากเกินไป และคนที่อยู่ในนั้นก็เป็นตำรวจ ซึ่งตนไม่คิดว่าตำรวจจะทำเรื่องแบบนี้

พร้อมเล่าเหตุการณ์วันเกิดเหตุว่า วันนั้นได้ไปงานวันเกิดของเพื่อนรุ่นพี่ ตั้งแต่เวลาประมาณเที่ยงคืนถึงตีสอง ที่ร้านหมูกระทะแถวนวลจันทร์ กรุงเทพฯ ซึ่งไปกับเพื่อนที่รู้จักกันมาสิบปี หลังจากนั้นก็คุยกันว่าจะหาร้านสังสรรค์กันต่อ เลยนั่งรถไปกับเพื่อนคนดังกล่าวและเพื่อนคนอื่นรวม 5 คน แต่เพื่อนคนสนิทเกิดเปลี่ยนแผนกะทันหัน ว่าจะไปต่อกันที่บ้านรุ่นพี่ ย่านคู้บอน พอไปถึงบ้านที่เกิดเหตุ ตนก็เข้าไปนั่งในบ้าน ซึ่งก็ได้เจอเจ้าของบ้านและนายตำรวจที่ก่อเหตุ ตอนนั้นก็กินดื่มนิดหน่อยตามปกติ ใจบัว ยืนยันว่า ตนไม่ได้เมาและมีสติ ตนขอกลับบ้านก่อนแต่เพื่อนบอกว่าค่อยกลับพร้อมกัน ซึ่งเพื่อนก็ให้ไปนอนก่อนตรงโซฟา ตนก็ไปนอนรอเพื่อนจนหลับไป รู้สึกตัวอีกทีตอนเช้าก็เห็นนายตำรวจคนดังกล่าวนอนอยู่ข้าง ๆ พร้อมกับมือที่จับหน้าอกของตนอยู่แต่ยังใส่เสื้อผ้าครบ ณ ตอนนั้นตนโวยวายนิดหน่อย แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เมื่อมองซ้ายมองขวาก็ไม่เจอเพื่อนคนสนิทแล้ว เหลือแค่เพื่อนอีกสองคนที่มาด้วยกันซึ่งอยู่ข้างนอกห้อง

ใจบัว กล่าวว่า วันนี้รู้สึกสงสัยในตัวเพื่อนคนที่พาตนมามาก ๆ ซึ่งเพื่อนคนนี้รู้จักกันมาเป็นสิบปี ตอนนี้ก็รู้สึกแย่อยากจะเข้าใจเพื่อนแต่เข้าใจไม่ได้จริง ๆ และความสัมพันธ์กับเพื่อนคนนี้น่าจะจบลงแล้ว

ใจบัว กล่าวอีกว่า ตนไม่รู้ว่าตามข้อกฎหมายจะมีการดำเนินคดีอย่างไร แต่สิ่งที่คาดหวังจากเขาคือการยอมรับผิด ส่วนตัวไม่ได้อะไรจากเรื่องนี้ และตนก็เพิ่งไปรับยาจากจิตแพทย์มาเพราะนอนไม่หลับ และเอาแต่โทษตัวเอง ว่าทำไมไม่กลับบ้าน ตอนนั้นทำไมถึงเชื่อเพื่อนมากขนาดนี้

ใจบัว ยังฝากอีกว่า ไม่ว่าใคร เพศไหนที่เจอเหตุการณ์แบบนี้ไม่ต้องอาย เพราะเรามีสิทธิ์ที่จะรักษา เรียกร้องความเสียหายที่เกิดขึ้นกับร่างกายของเราได้ และคิดว่ายังมีผู้หญิงอีกหลายคนถูกทำแบบนี้ แต่ไม่กล้าเปิดเผยเพราะอาย ซึ่งสุดท้ายมันก็จะเป็นเรื่องปกติในสังคม แต่ใจบัวไม่อยากให้เรื่องนี้เป็นเรื่องปกติในสังคม เพราะมันไม่ใช่เรื่องที่สังคมจะยอมรับได้

ด้านทนายตั้ม เปิดเผยว่า คดีนี้ได้แจ้งความดำเนินคดีกับผู้ต้องหา ซึ่งเป็นนายตำรวจยศ "พันตำรวจตรี" แล้วที่ สน. บางพลัด ในข้อหากระทำอนาจารต่อหน้าธารกำนัล ทราบความคืบหน้าจาก พ.ต.อ.นเรนทร์ เครื่องสนุก ผู้กำกับการ สน.คันนายาว ว่าตอนนี้ผู้ต้องหาเข้ามารับทราบข้อกล่าวหาและพิมพ์ลายนิ้วมือแล้ว โดยปฏิเสธข้อกล่าวหา ซึ่งนอกจากใจบัวยังมีพยานอีกสองปากซึ่งเป็นเพื่อนที่อยู่ในวันเกิดเหตุเข้าไปให้ปากคำแล้ว แต่เพื่อนคนที่ใจบัวรู้จักและสนิทที่สุดที่เป็นคนพาไปที่บ้านหลังดังกล่าวยังไม่เข้าไปให้ปากคำและยังติดต่อไม่ได้

ทนายตั้ม กล่าวอีกว่า ด้วยประสบการณ์ของการเป็นทนายมา พฤติกรรมของเพื่อนคนที่พาใจบัวไปที่บ้านหลังดังกล่าว น่าสงสัยหลายอย่าง ตั้งแต่การเปลี่ยนแผนจากที่จะไปปาร์ตี้กันต่อที่ร้าน และเปลี่ยนแผนไปที่บ้านหลังดังกล่าว และเมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้นก็ไม่อยู่ พอตำรวจเรียกเข้าไปสอบปากคำก็ไม่ให้ความร่วมมือ จึงมีความเป็นไปได้ที่อาจมีการเตรียมการเอาไว้ก่อน ซึ่งหากพบความผิดจริงอาจมีการดำเนินคดีในข้อหาสมคบคิดได้

ทนายตั้มยังบอกอีกว่า หลังจากเกิดเหตุมีผู้ใหญ่ของวงการตำรวจโทรมาสอบถามกับตนว่าเรื่องราวเป็นอย่างไร และถ้าเป็นความจริงก็จะต้องดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ณ ขณะนี้ทราบว่านายตำรวจที่ก่อเหตุเป็นพนักงานสอบสวนอยู่ที่ สน.บางพลัด แต่ไม่ทราบว่าเคยมีพฤติกรรมชอบลวนลามหรือกระทำอนาจารมาก่อนหน้านี้หรือไม่