"นาวิน ต้าร์" เปย์หนัก "ไฮโซน้ำหวาน" ทุ่มซื้อนาฬิกาหรูเซอร์ไพรส์ พร้อมอัปเดตความคืบหน้าคดีโดนเเอบอ้างใช้รูปไปขายของ


ได้ข่าวว่าสามีเปย์หนักมากจริงไหม?
น้ำหวาน : ใช้งานภรรยาทำงานหนักค่ะ ตั้งแต่มาทำแบรนด์นี้ แทบจะไม่ได้ทานข้าวเลยค่ะ (หัวเราะ)
นาวิน ต้าร์ : เรารู้สึกว่าชอบแววตาเขาที่เป็นประกายเวลาที่เห็นของที่มันวิบวับๆ (หัวเราะ) เราก็อยากจะเห็นบ่อยๆ ไง
น้ำหวาน : พอเห็นเเล้วก็หายเหนื่อยค่ะ รู้เลยว่าพี่ต้าร์ต้องประหยัดตังค์ค่าข้าวได้เลยช่วงนี้ (หัวเราะ)
นาวิน ต้าร์ : หลังจากตอนนั้นผมก็กรอบมาตลอดจนถึงตอนนี้ (หัวเราะ) ก็เตรียมตัวอยู่พอสมควรครับ แต่ความที่ผมเองก็อาจจะแอบเข้าไปดูว่าเขาชอบอะไร ซึ่งเขาก็จะค่อนข้างเฉพาะเจาะจงในเรื่องพวกนี้ เพราะเขาจะดูเพชรเก่งมาก ผมก็ต้องระวังต้องดูว่าอันไหนที่เขาจะชอบ ก็คิดแผนเซอร์ไพรส์เองเลยครับ ปีนี้มีเซอร์ไพรส์หลายอย่างมาก เพราะปีนี้พิเศษขึ้นมานิดนึง เพราะรู้ด้วยว่าเขาเหนื่อย เครียด เพราะช่วงนี้งานก็เยอะมากๆ ก็อยากที่จะปลอบใจ (กลัวเเผนเเตกไหม)ไม่มีแตกอยู่แล้วครับ ไม่เคยกลัวครับ (หัวเราะ)

เป็นปลื้มสุดๆ เลยใช่ไหม สำหรับของชิ้นนี้?
น้ำหวาน : ที่ชอบมากที่สุดก็คือนาฬิกา เพราะเราชอบเก็บสะสมนาฬิกา แล้วเรือนที่พี่ต้าร์ให้คือมีเเค่ 80 เรือนบนโลก ก็แฮปปี้มาก
นาวิน ต้าร์ : ปีนี้ก็ 80 เรือนบนโลกไปก่อนแล้วกันครับ คราวหน้าจะเอาให้เป็นหนึ่งเดียวในโลกเลยดีไหม
น้ำหวาน : ก็ต้องขอบคุณพี่ๆ สื่อมวลชนที่คอยสนับสนุนนะคะ
นาวิน ต้าร์ : แต่จากนี้ไปอีก 5 ปี ก็จะไม่มีเซอร์ไพรส์อีกแล้วครับ (หัวเราะ) ขอเก็บเงินนิดนึง

จะมีเซอร์ไพรส์กลับสามีไหมเเบบนี้?
น้ำหวาน : เซอร์ไพรส์กลับไม่ไหวค่ะช่วงนี้ เดี๋ยวคลอดลูกให้อีกคนแล้วกัน (หัวเราะ) ก็รอให้ประสบความสำเร็จจากธุรกิจใหม่ แล้วค่อยวางแผนต่อไปนะคะ
นาวิน ต้าร์ : ช่วงนี้เรายุ่งกันมากครับ ลูกทั้งสองคนก็กำลังเริ่มโต เริ่มที่จะได้เวลากลับมาเป็นของตัวเอง เพราะลูกคนที่สองก็ 2 ขวบครึ่งแล้ว เราก็รู้สึกว่าชีวิตตรงนี้อยากให้มันอยู่นานขึ้นอีกนิดนึง ก็เลยอยากจะขอพักสักหน่อย แต่อีกใจนึงผมก็อยากจะมีเลย เพราะถ้าอายุมากไปกว่านี้คงจะไม่มีแรงแล้ว ก็ยังสองจิตสองใจ แต่ทุกอย่างก็ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ
น้ำหวาน : อย่างน้อยขอสัก 2 ปีค่ะ เพราะตอนนี้เริ่มแบรนด์ใหม่ด้วย เราก็อยากจะใช้เวลาช่วงนี้ในการพัฒนาค่ะ แต่ถ้ามาก่อนก็ไม่ติดนะ
นาวิน ต้าร์ : ถ้ามาก่อนก็ดีครับ แฮปปีเลย

เเล้วคุณพ่ออยากมีเพิ่มอีกสักคนไหม?
น้ำหวาน : พอมีลูกสาวก็ชอบลูกสาวค่ะ หมายถึงเวลาแต่งตัวกันนะ และของเรามาแบบตามธรรมชาติ ถ้าได้ลูกชายอีกก็น่าจะแฮปปี้เหมือนกัน
นาวิน ต้าร์ : ส่วนตัวผมอยากจะได้ลูกชาย เพราะคิดว่าบ้านนี้มันต้องมีผู้ชายบ้าง ผมคนเดียวตลอดเลย (หัวเราะ) ถ้ามีลูกชายอีกคนก็น่าจะสนุก คงหายเหงา แต่หมอดูก็ทัก พระก็ทัก ว่าบ้านนี้ถ้ามีลูกอีกคนก็ต้องเป็นลูกสาว ก็จะสามใบเถาเลย เราก็ตกใจ แต่ถ้าจะมีลูกชายจะต้องเป็นคนที่ 4 เพราะฉะนั้นก็เลยต้องคิดหนักนิดนึงครับ แต่ผมอยากได้ลูกชายนะจะได้มีพวก เเละมีลูกชายก็จะได้มาเล่นกีฬาด้วยกันแบบผู้ชายๆ เพราะตอนนี้ตื่นมาบางทีลูกสาวก็เอาอะไรไม่รู้มามัดหัวผม โอ้โห..ก็โอเคครับ ได้เเหละ เขาก็เอ็นจอยครับ ลูกสาวทั้งสองคนรักสวยรักงามมากตอนนี้ เริ่มแต่งหน้า แต่งตา ทาเล็บ ก็ตามรอยคุณแม่เลย

ลูกๆ เขาบ่นอยากมีน้องไหม?
น้ำหวาน : “น้องมาโก้” คนเล็กเขาบอกอยากมีน้อง เพราะเขาจะรู้สึกว่าเขาเป็นน้อง เขาก็อยากจะมีน้องบ้าง

ล่าสุดไปแจ้งความ เพราะมีคนแอบอ้างนำรูปภรรยาไปใช้โฆษณา?
น้ำหวาน : พอดีเพื่อนติดต่อมาว่าเขาซื้อสติ๊กเกอร์ของเราแล้วนะ ก็เลยถามว่าสติ๊กเกอร์อะไร เขาก็บอกว่าสติ๊กเกอร์ที่แปะหน้าท้อง ก็บอกว่าเราไม่เคยทำ เขาก็เลยส่งข้อมูลมาให้ดู เราก็เลยรู้สึกกังวล เพราะเรื่องของผู้หญิงท้องเป็นเรื่องละเอียดอ่อน และเราไม่รู้ว่าวัสดุต่างๆ ที่นำมาใช้มันคืออะไร อีกอย่างสิ่งที่เราทำบนท้องตัวเองคือการเพ้นต์ และเราทำเป็นเครื่องสำอางสำหรับเด็กสำหรับคนท้อง เพราะฉะนั้นก็เลยกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่เขาใช้ เลยไม่สบายใจก็ไปแจ้งความไว้ก่อน
นาวิน ต้าร์ : ลักษณะของสิ่งที่เกิดขึ้นคือการแอบอ้าง และใช้รูปภรรยาเรา ขณะที่ตอนนั้นกำลังท้อง และเราถ่ายรูปเล่นกัน และใช้เครื่องสำอางที่ปลอดภัยเพ้นท์ลงบนท้องเป็นรูปตาคน รูปหน้าคน แต่รูปนี้ถูกนำไปใช้เพื่อที่จะขายของสิ่งอื่น ซึ่งเราไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรเลย ด้วยความที่ภรรยาและผมก็เป็นห่วงว่ามันไม่เกี่ยวกับเรานะ และเราก็กลัวว่าถ้าคนหลงเชื่อมันจะเป็นอันตรายไหม ตอนนี้เราก็แจ้งความไว้ก่อน

ได้ไปสืบหาข้อมูลของต้นสายปลายเหตุหรือป่าว?
น้ำหวาน : เราไม่ได้สืบสาวเพราะเขาเป็นออนไลน์ ก็เลยขอแจ้งความไว้ก่อน เพราะกรณีแบบนี้เราก็กลัวหลายปัญหา กลัวคนสั่งแล้วไม่ได้สินค้าบ้าง หรือคุณแม่บางคนอาจจะมีผลกระทบอะไรหรือเปล่า กับการใช้สินค้านี้ อันนี้เราก็ไม่รู้ ฉะนั้นก็ต้องป้องกันตัวเองไว้ก่อนว่ามันไม่ใช่ผลิตภัณฑ์ของเราค่ะ ผลกระทบที่คือจากเพื่อนรอบข้างว่าไปซื้อ แล้วเพื่อนก็มาถามว่าใช้ยังไง ก็เลยบอกว่าไม่ใช่ของเรานะ

มีหลายคนที่หลงเชื่อไปบ้างไหม?
นาวิน ต้าร์ : ก็ไม่ใช่น้อยครับ เท่าที่ลองถามๆ ก็รู้สึกว่ามีผลกระทบอยู่รอบตัวเราพอสมควรเหมือนกัน เพราะฉะนั้นเราต้องตัดไฟตั้งแต่ต้นลมดีกว่า เราก็ต้องบอกว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเรา ตอนนี้เขาก็ไม่ได้ติดต่อมาเลยครับ
น้ำหวาน : ถามว่าเห็นเขายังขายอยู่ เราเลยไปแจ้งความก่อนหน้านี้ประมาณ 3 วัน ก็เลยยังไม่ได้ติดตามเลยค่ะ ก็จะมีคุณทนายค่ะตามเรื่อง หลังจากสิ้นเดือนนี้จะว่าง แล้วก็จะไปตามให้อีกทีค่ะ