ชายวัย 49 ปี ยิงพ่อเลี้ยงเสียชีวิตขณะดูทีวีในห้องนอน สารภาพแค้นที่ถูกทวงค่าไฟฟ้าที่ตนพ่วงไปใช้ อ้างไม่ตั้งใจยิงให้ตาย แต่ไม่ขอขมาเพราะตายไปแล้ว

 

วันที่ 26 ก.ค. 65 พ.ต.ท.ยรรยง ทองใบใหญ่ รองผู้กำกับการ สภ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ พร้อมหน่วยปฏิบัติการพิเศษตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ นำตัวนายประกายเพชร หรือเพชร เกงขุนทด อายุ 49 ปี ไปค้นหาอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุยิงนายน้อย มณีสุวรรณ์ อายุ 79 ปี พ่อเลี้ยง จนเสียชีวิตภายในบ้าน แล้วนำปืนไปทิ้งในสระน้ำ โดยเหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. นายเพชร ซึ่งอยู่บ้านคนละหลังกับพ่อเลี้ยงได้ถือปืนมาบริเวณหน้าต่างห้องของนายน้อย แล้วยิงทะลุกระจกหน้าต่าง กระสุนไปถูกท้ายทอยของนายน้อยขณะดูทีวีอยู่บนที่นอน และเสียชีวิตระหว่างนำส่งโรงพยาบาลคูเมือง

นางวิไล บุญยใบ อายุ 51 ปี ภรรยาของนายเพชร บอกว่า ช่วงเกิดเหตุเห็นสามีลุกออกจากที่นอน จากนั้นได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด จึงวิ่งออกมาดู เห็นสามีถือปืนพร้อมบอกกับให้เฉยไว้ แล้ววิ่งออกจากบ้านไป จนกระทั่งมาทราบว่าไปยิงพ่อเลี้ยง ส่วนสาเหตุตนยังไม่รู้แน่ชัด เท่าที่ทราบคือสามีบ่นคับแค้นใจเรื่องที่ถูกพ่อเลี้ยงทวงค่าไฟฟ้าที่บ้านของตนพ่วงมาใช้ เคยบอกว่าจะไปหางานทำเอาเงินมาจ่าย แต่มาเกิดเหตุเสียก่อน

นายเพชร เผยหลังถูกตำรวจนำมาค้นหาอาวุธปืนของกลางว่า ได้พ่วงไฟจากบ้านพ่อเลี้ยงไปใช้ แต่ช่วงหลังไม่มีเงิน จึงจ่ายบ้างไม่จ่ายบ้าง ค่าไฟเพียง 700-800 บาท แต่ถูกทวงบ่อยทั้งที่ครอบครัวตนใช้น้อยกว่า โดยจะถูกบ่นประจำโดยเฉพาะเวลาพ่อเลี้ยงเมาสุรา ยอมรับว่าระงับอารมณ์ไม่อยู่จึงตัดสินใจใช้ปืนที่ซื้อมาจากกลุ่มวัยรุ่นในหมู่บ้านมายิงผ่านหน้าต่างบ้าน ไม่ได้ตั้งใจจะเอาชีวิต เพียงแค่อยากยิงให้สะใจเท่านั้น ไม่คิดว่าจะไปถูกจุดสำคัญ ส่วนการขอขมาศพ ตนคิดว่าไม่จำเป็นเพราะพ่อเลี้ยงตายไปแล้วไม่รู้เรื่อง

เบื้องต้นตำรวจตั้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนไปในเมืองหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต