ส่วนนายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้กลับไปตั้งหลักและนำเอกสารมาชี้แจงเป็นข้อ ๆ แต่หากฟังในฝ่ายกล่าวหาก็ยอมรับว่ายังไม่กระจ่างชัด ส่วนการตอบโต้กันระหว่างคนอื่นก็ถือเป็นการให้ข้อมูลกับประชาชนส่วนจะน่าเชื่อถือหรือไม่ต้องพิจารณากันอีกครั้ง ส่วนการอภิปรายที่มุ่งโจมตีนายกรัฐมนตรีวานนี้ (20 ก.ค.65) เรื่องเศรษฐกิจ ก็อยากรอฟังการชี้แจงจาก นายกฯ ในวันนี้ แต่ภาพรวมวานนี้ถือว่าน่าพอใจ

สำหรับการตอบประเด็นของนายกรัฐมนตรีจะเห็นว่ามีภาวะที่ไม่เป็นผู้ใหญ่สักเท่าไหร่ คิดว่า 2-3 ปีที่ผ่านมาท่านเป็นผู้ใหญ่ขึ้น สามารถควบคุมอารมณ์ได้ดีขึ้น แต่ครั้งนี้กลับมาเป็นเด็กอีกแล้ว หลายประเด็นไปเหน็บแนม ยั่วยุ เช่น ให้เอาคนเก่งกลับมาให้ได้ก็แล้วกัน เมื่อวานใช้คำพูดว่าเป็นนั่งร้านที่ไม่มีหัว หมายถึงอะไรเราก็พอรู้ หากเราจะใช้อารมณ์แบบนายกฯ ตอบกลับก็ได้ โดยการปรับจูนไปเป็นเด็กเหมือนนายกฯ ก็ได้ พร้อมบอกว่าฝ่ายค้านมีหัว นั่นคือนายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว แต่ถ้าจะเอาหัวที่เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีก็มี ซึ่งหากสมมติว่าตอนนี้นางสาวแพทอง ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย เป็นแคนดิเดต นายกฯ ของพรรคเพื่อไทย นายกรัฐมนตรีก็หัวหดไปหมด

อย่างไรก็ตามเชื่อว่าการอภิปรายในครั้งนี้ มีอีกหลายประเด็นที่ควรชี้แจงให้ชัดเจน ซึ่งวันพรุ่งนี้ (22 ก.ค. 65) ตนเองจะสรุป และจะมีเอกสารประกอบเยอะ เพื่อให้เห็นว่าการชี้แจงของรัฐมนตรีใช้ลีลามากกว่าข้อเท็จจริง

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ฝ่ายค้านมองอย่างไรที่เมื่อวานนี้ นายกฯ ดูเหมือนภูมิใจกับการปฏิวัติ นายสุทิน ระบุว่า เป็นความปิติที่น่าสมเพช ซึ่งพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้ชี้ตัวฆาตกรตรง ๆ แต่นายกฯ ยิ้มเหมือนภูมิอกภูมิใจ ขอเรียกว่าเป็นคนบาปแต่ปลื้มใจว่าเป็นบุญ ซึ่งถือว่าอันตรายมากเพราะคุณเห็นกงจักรเป็นดอกบัว ถือเป็นสัญญาณที่ไม่ดี