“น้ำตาล ชลิตา” เคลียร์ดราม่า หลังโดน “ลีน่าจัง” ฉะกลางโซเชียล

 

เคลียร์ดรามากับประเด็นที่ถูก “เเม่ลีน่าจัง” ฉะเดือดในโซเชียล?
-สรุปมันเกิดอะไรขึ้นอ่ะหรอ คือเราเป็นคนที่โดนเรื่องหน้ามาตั้งเเต่ไหนเเต่ไรเเล้ว ว่าหยิ่งบ้าง อะไรบ้าง เหวี่ยงบ้าง ที่เราโดนแบบนี้ตลอด แล้วด้วยที่หน้าของเราเป็นคนหน้าเฟียร์สๆ ต้องขอโทษด้วยนะที่หน้าเราเฟียร์ส...

ก่อนหน้านั้นมันมีเหตุการณ์อะไรหรือป่าว?
-จริงๆ มันไม่มีอะไรเลย เหมือนกับเป็นฟิวที่ว่าเราตั้งใจฟังอยู่ แล้วก็คือนะตัวเองไม่ค่อยได้สนใจอะไรเพราะฟังผู้เข้าประกวดพูด เราเป็นคนที่จะชอบตั้งใจมาก เเต่ว่าหน้ามันหลุดไป และก็เลยลืมโฟกัสไปว่าจะต้องนั่งยิ้มตลอดเวลา ก็เลยหลุดออกไปตามนั้น

พอมีชาวเน็ตแคปไปลงโซเชียล เราได้เห็นกระแสไหม?
-ตอนแรกก็ไม่รู้ เพราะหนูรู้สึกว่าหนูทำหน้าปกติ เราก็ไม่ได้มีอะไร แต่มีคนเอาไปตีความกันเอง ก็เลยคิดว่าเราเป็นคนหน้าเหวี่ยงตลอดเวลา เราก็เลยมาคิดว่าเราทำไม

ต่อมาก็มีคลิปที่ “แม่ลีน่า” ออกมาว่าเราด้วย เห็นหรือยัง?
-คือจะบอกว่าเราแบบเป็นคนหน้านิ่งจริงๆ แล้วจะบอกว่าเราไม่ได้เบะปากใส่ คือมันมีคลิปหนึ่งที่จะเห็นว่าเราไปนั่งดูรอบแรก เเละก็คือเหมือนในการเล่นกล้องนั่นแหละ คือเป็นตอนที่แม่กำลังโวยวายอยู่ เเละเราเพิ่งเคยเห็นไง พอเขาหันหล้องมาเราก็เลยทำหน้ายิ้ม ซึ่งมันเป็นการแสดง เป็นสีสัน มันไม่ใช่เป็นการที่ต้องมานั่งทำแบบนั้นเลย เพราะว่าเราโตขนาดนี้แล้ว เราก็น่าจะรู้ว่ากาลเทศะว่ามันคืออะไร

ในเหตุการณ์วันนั้นทุกอย่างมันปกติ มันไม่ได้มีชนวนขึ้นมาก่อนใช่ไหม?
-คือมันปกติมาก มันไม่มีเหมือนในข่าวเลย มันจะมีก็แค่เจ็บเท้าของเราอย่างเดียว ที่มันจะไม่ได้เกี่ยวกับประเด็นเลย

ทำให้เราถึงตัดสินใจออกมาโพสต์ชี้แจงในโซเชียล?
-คือเราก็แค่ไม่อยากให้คนมาเข้าใจเราผิดอะไรอีก จริงๆ แล้วไม่ต้องมาชี้แจงก็ได้ แต่แค่เราไม่พูดคนก็จะไปตีความกันมากกว่าเดิม

คิดไหมว่ามันจะกลายเป็นดรามาขึ้นมาได้?
-ก็ไม่ได้คิดเลย เราไม่คิดไง มันไม่น่าไปดึงอะไรเยอะเลย (หัวเราะ)

เคลียร์ชัดนะว่าไม่ได้มีอะไรกันเเล้ว?
-ก็คือไม่ได้มีอะไรเลย ก็คือมันเป็นสีสัน คือการเเสดงอย่างหนึ่ง คือเราคุยกันแล้วว่าอยากจะมีการคุยกันแบบนี้ เพราะว่าทางทีมงานเขามีการพูดเหมือนกัน เพราะว่าตอนเรานั่งเฉยๆ เรียบร้อย อยากให้มีการออกรสชาติกันนิดนึง เราก็เลยโอเค ก็ขอโทษแม่ไปแล้ว (เคลียร์จบตรงนั้นไปแล้ว)เรียกว่าเสร็จ ชาวเน็ตหยุดได้แล้ว อย่าดึงมาเชื่อมโยงกันเก่ง

มาสตอรี่ขึ้นมาอีก กับการที่ “ครูจุ๊บแจง” สละสิทธิ์ออกจากการประกวด?
-ก็เรียกว่าตกใจมากอ่ะ เพราะว่าเรากำลังจะแต่งหน้าไปงาน ทางผู้จัดการก็เลยโทรมาบอกว่าน้องจุ๊บแจงขอออก เราก็เลยงงว่าสละสิทธิ์ทำไม เราก็เลยถามไปในกลุ่มว่ามันเกิดอะไรขึ้น ก็เลยขอวีดีโอคอลคุยกับน้อง ก็เลยบอกว่าด้วยหน้าที่การงานของน้องเองด้วย เพราะเราเข้าใจว่าการเป็นครูมันต้องมีการสอบการเรียนมาเยอะพอสมควร การที่จะต้องเอามาเเลกกับตรงนี้มันจะต้องจัดสรรลงเวลาดีๆ นิดนึง

เรารู้สึกเสียดายไหม?
-ก็เสียดาย เพราะเราอยากทำให้น้องเปลี่ยนจากสิ่งที่น้องเคยเป็น อยากจะแก้ไขน้องตรงนี้ก็รู้สึกว่าน้องเก่งเหมือนกัน ที่เขามาถึงรอบ 30 คนสุดท้าย มาได้
เพราะทุกคนกว่าจะเข้ามาถึงจุดนี้ได้มันต้องผ่านมาหลายด่านมากกว่า จะผ่านการพูดการดูหลายๆ อยา่างถือว่าเก่งมากๆ

คนใหม่ที่เข้ามาแทนคือ “น้องเฟิร์สหวัง” ที่มีกระแสมาก รู้สึกกดดันไหม?
-ไม่ค่ะ เราไม่ได้กดดัน เราก็รู้สึกดีใจมากกว่าที่มีคนมาเติมเต็มให้ทีมรถเต็มให้ทีมครบ และที่ได้ “เฟิร์สหวัง” เข้ามาแล้วก็รู้สึกดี เพราะเขาอ่ะเพอร์ฟอร์แมนซ์เขาดี ทุกคนรู้อยู่แล้ว เราอาจจะดึงความในตัวเขาที่คนไม่เคยเห็นออกมามากกว่า