"ชัชชาติ" เผย "นายกฯ" แสดงความยินดี ชี้เป็นผู้ใหญ่ที่เมตตา ร้อง "โอ๊ย" หลังสื่อถามปมถูกมัดมือคลุมหัวช่วงรัฐประหาร ยืนยันพร้อมทำงานใกล้ชิดรัฐบาลเพื่อประโยชน์ประชาชน มีโอกาสลงพื้นที่พร้อมนายกฯ

 

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยหลังพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และนายกฯนำชมตึกภักดีบดินทร์ ว่านายกฯ ได้แสดงความยินดีเพราะตนและนายกฯ พัทยารับตำแหน่งใหม่ทั้งคู่ ก็เป็นการทำงานร่วมกัน ไม่มีอะไร การที่นายกรัฐมนตรีนำชมตึกภักดีบดินทร์เพราะเป็นตึกที่เพิ่งทำใหม่ ตนไม่เคยเห็น นายกรัฐมนตรีก็ชวนตนและนายปรเมศวร์ไปชม มีการคุยกันว่าในอนาคตต้องช่วยกันทำงาน ซึ่งเป็นสิ่งที่ดี เพราะเราก็อยู่ภายใต้ ศบค.อยู่แล้ว

สำหรับการเจอนายกรัฐมนตรีครั้งแรกหลังรับตำแหน่งก็ดีเพราะเคยเจอมานานแล้ว "ถือว่าท่านเป็นผู้ใหญ่ที่เมตตา เน้นเรื่องงานเป็นหลัก คือการประสานงานกันเพราะ กทม.ก็ต้องทำงานกับรัฐบาลอยู่แล้ว เพราะอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงมหาดไทย"

ขณะเดียวกันนายชัชชาติเปิดเผยด้วยว่า การพูดคุยกันวันนี้ยังไม่ได้คุยเรื่องรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนการหารือกับกระทรวงคมนาคม วันนี้ปลัด กทม.ไปหารือกับกระทรวงคมนาคมในเรื่องตัวเลขที่เหมาะสม ซึ่งมีการหารือกันมานานแล้ว ในส่วน กทม.จะหารือกันในสภากทม. ว่า จะมีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญร่วมกันหรือไม่ เพราะเป็นเรื่องใหญ่ โดยจะใช้เวลาไม่นาน ต้องรีบแล้ว กำหนดไว้ เบื้องต้น 1 เดือน ต้องมีความคืบหน้ามารายงานให้ประชาชนทราบ ซึ่งมีหลายสัญญา ตั้งแต่สัมปทานเดิม ปี 2572 สัญญาจ้างเดินรถ 2572-2585 ซึ่งหากมีการหารือจะต้องดูว่าสัญญาที่ทำไปแล้วจะทำอย่างไร การจะนำเข้าเสนอครม.จะต้องคุยกันก่อนเพื่อเสนอข้อเท็จจริง แต่ยืนยันจะพยายามเร่งเพราะเป็นเรื่องที่มีความละเอียด ทั้งนี้หากครม.ไม่เห็นด้วยกับแนวทาง ของกทม. ก็ไม่เป็นไรเพราะสุดท้ายครม.ต้องเป็นฝ่ายตัดสินใจอยู่แล้ว กทม.เพียงแค่เสนอความเห็น อาจจะต้องมีการพูดคุยกันอีกครั้งซึ่งทุกคนก็ช่วยกันแก้ปัญหา ไม่ได้มีอะไร จะต้องร่วมหารือกับกระทรวงมหาดไทยก่อนด้วยซ้ำ ก่อนเสนอเข้าครม. โดยเอาประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง

ส่วนคดีรถดับเพลิง ก็ค่อยๆสางไปเพราะถ้าฟ้องแล้วอยู่ในกระบวนการศาลก็ทำอะไรไม่ได้ ต้องรอให้ศาลสั่ง กทม.มีหลายเรื่องที่จะต้องทำ

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าได้คุยกับนายกรัฐมนตรีถึงกรณีที่ถูกควบคุมตัวมัดมือมัดเท้าใช้ผ้าคุลมหัวภาพตอนเกิดรัฐประหารหรือไม่ นายชัชชาติร้องตะโกนเสียงสูงว่า "โอ๊ยย!! ไม่มีครับ ผมไม่ได้คิด ผมเองมองอนาคตการทำงานร่วมกัน เพราะ กทม.อยู่ใต้กระทรวงมหาดไทยอยู่แล้ว เราก็ทำงานเพื่อประโยชน์ประชาชน ถ้าเราร่วมมือกันได้ดีสุดท้ายประโยชน์ก็จะตกกับประขาชน"

นอกจากนี้ยังเปิดเผยว่าได้คุยกับนายสุพัฒนพงษ์ พันธุ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานที่ดูแลเรื่องเศรษฐกิจ ว่าถ้า กทม.กับรัฐบาลร่วมมือกัน ทั้งการประหยัดพลังงาน หรือการกระตุ้นเศรษฐกิจ การจัดถนนคนเดิน ซึ่งนายสุพัฒนพงษ์ก็สนใจโดยให้เอาโครงการมาคุยกันว่ารัฐบาลจะสนับสนุนอะไรได้บ้าง ถือเป็นนิมิตรหมายที่ดี เพราะสุดท้ายแล้วต้องประโยชน์ประชาชนเป็นที่ตั้ง ประโยชน์ก็จะตกกับประชาชน

นายชัชชาติยังยอมรับว่ากังวลเรื่องเศรษฐกิจ ขณะเดียวกันบอกว่ามีโอกาสที่จะได้เห็นตนและนายกลงพื้นที่ร่วมกัน พร้อมชี้แจงกรณีพิธีเปิดเดินเรือท่าข้าง-สาทรที่ไม่ได้ไปร่วมงาน ว่าได้บอกนายกรัฐมนตรีว่าไม่ทราบจริงๆ และบอกกับนายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีว่าหลังจากนี้ไปให้ประสานได้ พร้อมที่จะลงพื้นที่เพื่อชี้แจงปัญหา ซึ่งเป็นเรื่องดีเมื่อลงพื้นที่ก็จะเห็นปัญหาร่วมกันและเข้าใจประชาชนได้ดีขึ้น ตนพร้อมไปต้อนรับเพราะอยู่ในพื้นที่อยู่แล้ว

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวที่คุ้นเคย สมัยนายชัชชาติเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ถามว่าคิดถึงทำเนียบรัฐบาลหรือไม่ นายชัชชาติกล่าวว่า ไม่ใช่บ้านตน แต่ก็เห็นว่าทำเนียบเปลี่ยนไปและสวยดี