"พีพี กฤษฏ์" กลั้นน้ำตาไม่อยู่ เผยความรู้สึกหลังโดนดรามาเหยียดเพศ ลั่นไม่โกรธเเต่อยากขอให้เกียรติซึ่งกันเเละกัน

 

กลายเป็นประเด็นดรามาในโลกออนไลน์ จากกรณีที่ "เติร์ก Gym and Swim" โพสต์เหยียดเพศ และด้อยค่าผลงาน "พีพี-กฤษฎ์ อำนวยเดชกร" และ "บิวกิ้น-พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล" สาเหตุเพราะทั้งคู่มีชื่อขึ้นแสดงในเทศกาลดนตรี Summer Sonic 2022 ที่ประเทศญี่ปุ่น จนทำให้แฮชแท็ก #แบนgymandswim ขึ้นอันดับ 1 เทรนด์ทวิตเตอร์ไทยแลนด์

โดยทางค่ายของศิลปินดังกล่าวได้ออกจดหมายขอโทษพร้อมลงดาบพักงานวง Gym and swim ขณะที่มือกีตาร์ก็ออกมาโพสต์ขอโทษยอมรับผิดกับสิ่งที่ทำลงไป ล่าสุดทีมข่าวช่อง8 มีโอกาสได้เจอกับ "พีพี กฤษฏ์" เจ้าตัวเปิดใจถึงประเด็นดังกล่าวว่า

ก่อนอื่นขอถามถึงความรู้สึกที่จะได้ไปขึ้นเวทีเทศกาลดนตรี “Summer Sonic 2022” เป็นยังไงบ้าง?
-ดีใจครับ แล้วก็เป็นโปรเจ็กต์ที่รู้สึกว่ามันเกินความคาดหมายอีกเหมือนกัน สำหรับตัวเอง เพราะเริ่มเข้ามาทำงานในวงการไม่กี่ปี จึงเป็นอะไรที่ใหม่สำหรับตัวเองมาก แล้วก็ดีใจมาก ๆ ที่มีโอกาสได้ไปขึ้นเวที “Summer Sonic 2022” ตอนแรกที่ได้รับการติดต่อมาตกใจมาก เพราะเราไม่เคยขึ้นเวทีที่สเกลใหญ่ขนาดนี้มาก่อนเลย คิดว่าคงเป็นประสบการณ์ที่หาไม่ได้แล้ว และก็เป็นอะไรที่เราอยากจะตั้งใจทำมาก ๆ

ได้คุยกับ “บิวกิ้น” ว่ายังไงบ้าง?
-ก็ได้คุยครับ ที่จริงพอได้รับการติดต่อมา ก็คือติดต่อมาถึงเราทั้ง 2 คนเลย ตอนนั้นก็ยังถามอยู่ว่าเราจะไหวไหม “บิวกิ้น” เขาก็ให้กำลังใจตลอด แล้วก็บอกว่ายังไงมันเป็นประสบการณ์ที่ดีอยู่แล้ว ถ้าไปก็อยากจะไปด้วยกัน

ได้วางเเผนเตรียมโชว์ไว้ยังไงบ้าง?
-ตอนนี้อยู่ในกระบวนการวางแผนทำโชว์ ยังไม่ได้ไฟนอลว่าโชว์จะเป็นยังไง แล้วเดี๋ยวก็จะมีการซ้อมกันแน่นอน ซึ่งเรื่องโชว์ก็กำลังให้คนช่วยประสานงานและช่วยทำโชว์ออกมาให้ดีที่สุด เบื้องต้นก็จะมี “พี่เบล สุพล” มาช่วยดูฝั่งพาร์ตนี้ด้วย เพราะฝั่งพาร์ตที่เป็นมิวสิคเราให้พี่เขาช่วยดูด้วย แล้วต้องบอกว่าพี่ ๆ นาดาวน่ารักมาก เขายังช่วยเหลือเราอยู่จนถึงทุกวันนี้เลย หมายถึงว่าเขาส่งสิ่งนี้มาต่อแล้วเขาก็หาทีมหาทุกอย่างมาซัพพอร์ตเราอยู่เรื่อย ๆ

กดดันไหม เพราะทุกคนจับตามองมาก?
-กดดันอยู่แล้ว กดดันมาก ๆ ด้วยครับ อย่างที่บอกว่ามันเป็นเวทีใหญ่ครั้งแรกของเรา จากเด็กคนหนึ่งที่เคยอายกับการแค่จะเดินข้ามถนนคนเดียว ตอนนี้เราต้องมาขึ้นโชว์ในงานเวทีสเกลระดับนี้ เราก็ยอมรับกดดันมาก ๆ

วันนี้เห็นร้องไห้บนเวทีด้วย?
-นี่ก็จะร้องไห้อีกแล้วครับ ดีใจมาก ๆ

ถามถึงประเด็นดรามาที่เกิดขึ้น หลังโดนเหยียด?
-ได้เห็นแล้วครับ อืมจริง ๆ ถ้าถามคือเราก็เสียใจกับดรามาที่เกิดขึ้น แต่รู้สึกว่าถ้าเขาจะว่าเราคนเดียวก็จะรู้สึกว่าอาจจะไม่ได้หนักเท่าที่เขาว่า “บิวกิ้น” และทีมของเราด้วย เพราะรู้สึกว่าคนเบื้องหลังที่เขาทำงานกับเราอ่ะ (น้ำตาลคลอ) เราไม่อยากให้เขาเสียกำลังใจเลยที่ได้มาทำงานกับเรา เพราะทุกคนตั้งใจและทำทุกอย่างด้วยความคิดที่ว่าอยากจะทำมันให้ดีที่สุด เลยรู้สึกว่าอยากให้เห็นใจทีมมากกว่า

คิดว่าแรงไปไหม กับการที่เขาออกมาโพสต์เเบบนั้น?
-ที่จริงมันก็เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของแต่ละบุคคล อย่างคนสองคนก็ต่างความคิดกันแล้ว แต่เรารู้สึกว่ามันก็เป็นพื้นที่โซเชียลด้วย ที่มันไม่ใช่มีแค่ตัวเพื่อนเขาหรือคนสนิทของเขาดู แต่มันคือทุกคนที่ได้เสพตรงนี้ เราก็อยากให้ทุกคนระวังกันตรงนี้ด้วย เพราะว่ามันเป็นพื้นที่สาธารณะ

ทางด้านแฟนคลับก็ออกมาปกป้องเยอะมาก?
-ดีใจมาก ๆ ครับ ดีใจที่ทุกคนให้การซัพพอร์ตมากขนาดนี้ ดีใจที่มีแฟนๆ อยู่ตรงนี้ด้วย รู้สึกว่าตัวเองโชคดีมากจริง ๆ ที่มีแฟน ๆ และพี่ ๆ ศิลปินที่รักเรามากขนาดนี้ จริง ๆ ตัวเราเองให้เกียรติทุกคน เคารพการตัดสินใจของทุกคน เลยอยากให้ทุกคนไม่ว่าจะเป็นใครให้เกียรติและเคารพการตัดสินใจของเราเหมือนกัน

มีน้ำตาให้กับเรื่องนี้บ้างไหม?
-มีน้ำตากับแฟน ๆ มากกว่า เพราะว่าแฟน ๆ เขามาให้กำลังใจกับเรื่องนี้ ส่วนเราทำหน้าที่ของตัวเองให้เต็มที่ เตรียมตัวของเราให้ดีที่สุดก็พอ แล้วในอนาคตจะเป็นอะไรยังไง จะไปโชว์แล้วจะดีหรือไม่ดี แต่แน่นอนว่าสิ่งที่เราจะไปทำให้มันดีที่สุดและทำให้มันเต็มที่ที่สุด

ความรู้สึกของ “บิวกิ้น” เป็นยังไงบ้าง?
-ได้มีคุยกับเขาบ้าง จริง ๆ เขาก็รู้สึกคล้าย ๆ เรานะ เสียใจบ้าง แต่ว่าเขาก็ไปเที่ยวอยู่ปล่อยให้เขาเที่ยวไปเถอะ เขาจะได้แบบแฮปปีไทม์

รู้สึกยังไงบ้าง กับคำขอโทษที่ออกมา?
-ก็ขอบคุณแล้วกันครับที่ขอโทษ ถือว่าเป็นประสบการณ์แล้วกัน แล้วก็เป็นประสบการณ์ให้ตัวเองด้วยในการได้เรียนรู้ว่าที่จริงแล้วการที่เราจะพูดถึงใครหรือโพสต์อะไรลงโซเชียลต้องระวังขนาดไหน ที่จริงแล้วมันก็กลับมาเรื่องเดิมคือการที่เราต้องเคารพและให้เกียรติซึ่งกันและกัน

ทางด้านผู้ใหญ่มีความคิดที่จะดำเนินคดีทางกฎหมายบ้างไหม?
-เรื่องตรงนี้เดี๋ยวขอคุยกับทางทีมอีกที ยังไม่แน่ใจเรื่องนี้เหมือนกัน ตอนนี้ก็ปล่อยให้เรื่องนี้เป็นบทเรียนเป็นประสบการณ์แล้วกันครับ

นอกจากคำขอโทษที่ออกมาทางโซเชียลแล้ว ได้มีการติดต่อหลังไมค์มาขอโทษส่วนตัวบ้างไหม?
-อันนี้เราไม่แน่ใจนะครับ ว่าเขามีติดต่อมาหรือเปล่า เพราะว่ายังไม่ได้ยินจากพี่ ๆ มาว่ามีใครติดต่อมาไหมเดี๋ยวขอไปคุยให้เคลียร์ก่อนว่าเขามีติดต่อมาหรือเปล่า อันนี้ไม่แน่ใจจริง ๆ

แล้วกับคำขอโทษที่ออกมา ตัวเราให้อภัยหรือยกโทษให้เขาไหม?
-เราไม่ได้โกรธอยู่แล้วครับ ไม่ได้รู้สึกแย่อะไรกับเขาเลย แค่อาจจะรู้สึกเสียใจบ้าง อย่างที่บอกไปว่าเสียใจกับทีมงานมากกว่า เสียใจกับตัวเองมันไม่ค่อยเท่าไหร่หรอกครับ

ล่าสุดวันนี้ พรบ. สมรสเท่าเทียม ผ่านแล้ว อีกไม่นานก็จะมีการเปลี่ยนแปลงในประเทศไทย ส่วนตัวเราเองรู้สึกอย่างไรบ้าง?
-ดีใจนะครับ ดีใจที่สุดท้ายเรื่องนี้ได้เดินทางมาถึงตรงนี้ด้วย เรารู้สึกว่าเป็นสิ่งที่ควรจะเป็น จริง ๆ ไม่ใช่แค่เรื่องสมรสเท่าเทียม ที่จริงมันคือเรื่องความเท่าเทียมกันของทุก ๆ คนเลย ทุกคนควรจะเคารพซึ่งกันและกัน สามารถเป็นตัวเองในแบบของตัวเองได้ทั้งหมด โดยอยู่ในขอบเขตที่มีความรับผิดชอบ อยู่ในหน้าที่อยู่ในกาลเทศะ เราว่าตรงนี้เป็นสิ่งที่ควรจะเป็นตั้งนานแล้วครับ