นายหวานคนสู้เสือ ออกจากโรงพยาบาลแล้ว ญาติมั่นใจเป็นเสือจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้านอพยพเข้ามา หลังแนวชายแดนมีเหตุปะทะรุนแรงต่อเนื่อง

 

วันที่ 1 ก.พ. 2565 นายหวาน ไม่มีนามสกุล ชาวกะเหรี่ยงวัย 46 ปี ชาวบ้านปิล๊อกคี่ ต.ปิล๊อก อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ที่ถูกเสือโคร่งตะปบได้รับบาดเจ็บสาหัส ถูกนำตัวส่งเข้ารับการรักษาที่ รพ.ทองผาภูมิ ก่อนที่จะส่งมารีบการรักษาต่อที่โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา เมื่อวันที่ 28 ม.ค.ที่ผ่านมานั้น ล่าสุด คณะแพทย์ได้อนุญาตให้นายหวานออกจากโรงพยาบาลแล้ว เนื่องจากอาการดีขึ้นตามลำดับ โดยนายหวานมีผ้าก๊อซพันแผลหลายแห่ง เช่น ที่แขนสองข้าง ต้นขาสองข้าง รวมทั้งลำคอ และตามลำตัว

นายหวาน กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุ ออกจากหมู่บ้านเพื่อไปดูควายที่เลี่ยงเอาไว้เพียงลำพังคนเดียว โดยนำสุนัขที่เลี่ยงเอาไว้จำนวน 3 ตัวไปด้วย ระหว่างเดินทางกลับบ้านปรากฏว่ามีเสือโคร่งจำนวน 2 ตัว วิ่งไล่ตามหลังมา จึงพยายามวิ่งหลบหนี แต่ระหว่างนั้นกลับมีเสือโคร่งไม่ทราบเพศตัวยาวประมาณ 8 ศอก อีก 1 ตัวยืนขวางทางอยู่ด้านหน้า ก่อนที่เสือตัวดังกล่าวได้กระโจนเข้าทำร้ายอย่างรวดเร็ว ขณะนั้นพยายามต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอดทุกวิถีทาง โดยใช้หมัดชกอย่างแรงจนทำให้กระดูกข้อมือหัก คาดว่าใช้เวลาสู้กับเสืออยู่ประมาณ 30 นาที และโชคดีที่เสืออีก 2 ตัว ไม่ได้เข้ามารุมทำร้าย และสามารถฝืนใจวิ่งหนีขึ้นไปอยู่บนกอไผ่ได้ โดยช่วงที่หนีขึ้นไปอยู่บนกอไผ่ เสือโคร่งตัวดังกล่าวได้แต่มอง จึงพยายามร้องตะโกนไล่ให้เสือออกไปพร้อมกับใช้ท่อนไม้ไผ่ขว้างใส่เสือ จนกระทั่งเสือโคร่งเดินเข้าไปในป่า เมื่อมั่นใจว่าเสือไปแล้ว จึงรีบลงจากกอไผ่แล้ววิ่งหนีสุดชีวิตเพื่อมาขอความช่วยเหลือจากคนในหมู่บ้านให้นำส่งโรงพยาบาล

สำหรับบาดแผลตามร่างกายมีรอยเขี้ยวเสือกัด จำนวน 20 แผล โดยเฉพาะที่ฝ่ามือทั้ง 2 ข้างถูกเสือกัดจนทะลุ รวมทั้งบริเวณลำคอและตามร่างกาย ส่วนปากถูกเสือกัดจนฟันหัก นอกจากนั้นเป็นบาดแผลของเล็บเสือ ส่วนค่ารักษาทราบว่าต้องจ่ายให้กับโรงพยาบาลทองผาภูมิกว่า 8,000 บาท และโรงพยาบาลพหลฯ อีกประมาณ 16,000 บาท เบื้องต้นทางกรมอุทยานฯ ได้มอบเงินช่วยเหลือมาแล้ว 10,000 บาท

ด้าน น.ส.ศิ (นามสมมุติ) น้าสาวของนายหวาน ระบุว่า ที่ผ่านมาในพื้นที่ไม่เคยพบเสือโคร่งมาก่อน แต่เมื่อเกิดสถานการณ์ทางการเมืองของประเทศเพื่อนบ้าน ที่มีการยิงสู้รบกันตามแนวชายแดนใกล้กับบ้านปิล๊อกคี่ ทำให้ทหารกะเหรี่ยงถอยร่นเข้ามาอาศัยอยู่ตามผืนป่าที่เป็นที่อยู่ของเสือโคร่ง จากการยิงที่ทำให้เกิดเสียงดังเสือโคร่งที่อาศัยอยู่ผืนป่าฝั่งประเทศเมียนมาจึงอพยพถิ่นฐานเข้ามาหากินที่ผืนป่าฝั่งไทย มั่นใจว่าเป็นเสือมาจากประเทศเพื่อนบ้านเนื่องจากได้รับแจ้งจากญาติที่เป็นทหารกะเหรี่ยงอยู่ฝั่งเมียนมาว่า มีเสือโคร่งจำนวน 5 ตัวอพยพเข้ามาอาศัยอยู่ฝั่งไทยได้ประมาณ 2-3 เดือนแล้ว