พล.ต.อ.รอย สั่งสืบสวนเข้มปม สงสัยเอี่ยวขบวนการล่าสัตว์ป่า พร้อมขยายผลปืนลูกซองราชการ หากใช้ยิงจริงเจอฟันผู้เกี่ยวข้องไม่เว้น

 

คืบหน้ากรณี 5 พรานล่าเสือโคร่ง วานนี้ (14 ม.ค. 2565) พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) พร้อมด้วย พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ผู้แทนจากกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี นายอำเภอทองผาภูมิ และผู้แทนจากหน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงผลการจับกุมกลุ่มพรานป่าที่เข้าไปก่อเหตุลักลอบล่าและชำแหละเสือโคร่ง 2 ตัว ภายในป่าเขตอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ โดยจับกุมได้ทั้งหมด 5 ราย ประกอบด้วย นายรัชชานนท์ เจริญทรัพย์ อายุ 30 ปี, นายศุภชัย เจริญทรัพย์ อายุ 34 ปี, นายจอแห่ง พนารักษ์ อายุ 38 ปี, นายกูกือ ยินดี อายุ 37 ปี และนายโชเอ ไม่มีนามสกุล อายุ 66 ปี ซึ่งเป็นชาวบ้านที่มีภูมิลำเนาอยู่ในหมู่บ้านปิล๊อกคี่ หมู่ 4 ต.ปิล็อก อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี โดยในการจับกุมสามารถตรวจยึดของกลาง เป็นซากเสือโคร่งจำนวน 2 ซาก น้ำหนักรวม 52.5 กิโลกรัม อาวุธปืนลูกซองยาวจำนวน 1 กระบอก, อาวุธปืนยาว ขนาดจุด 22 ติดกล้องเล็ง จำนวน 1 กระบอก, อาวุธปืนยาวไทยประดิษฐ์ จำนวน 2 กระบอก, กระสุนปืนขนาด .22 จำนวน 50 นัด และปลอกกระสุนปืนลูกซอง จำนวน 5 ปลอก

พล.ต.อ.รอย กล่าวว่า ได้เน้นย้ำให้ตำรวจชุดสืบสวนคลี่คลายคดี ทำงานด้วยความละเอียดรอบคอบ โดยเฉพาะประเด็นเรื่องการตั้งข้อสังเกตว่า พรานกลุ่มนี้จะมีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการล่าสัตว์ป่าส่งขายให้กับนายทุนหรือไม่ เนื่องจากเสือโคร่งถือเป็นสัตว์ป่าใกล้สูญพันธุ์ในบัญชีที่ 1 ของไซเตส ซึ่งห้ามค้าขาย ส่งออก และห้ามล่าอย่างเด็ดขาด ประกอบกับคำให้การของกลุ่มพรานป่า ที่ระบุว่า ต้องยิงเสือโคร่งทั้ง 2 ตัว เนื่องจากเสือโคร่งกลุ่มนี้เข้ามาฆ่าและกัดกินวัวที่เลี้ยงเอานั้น อาจเป็นเพียงคำกล่าวอ้างของกลุ่มผู้ก่อเหตุเท่านั้น ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ และจะต้องดำเนินการสืบสวนอย่างละเอียดว่ากลุ่มพรานป่ากลุ่มนี้มีการล่าเพื่อส่งขายให้กับกลุ่มนายทุน และส่งออกไปยังต่างประเทศหรือไม่

ส่วนการตรวจพบอาวุธปืนลูกซองของทางราชการ อยู่ในจุดเกิดเหตุนั้น จากการตรวจสอบ ปืนกระบอกดังกล่าวเป็นปืนของทางราชการจริง และมีการส่งมอบมาให้กับอำเภอทองผาภูมิ ก่อนจะส่งมอบต่อให้กับผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 4 บ้านปิล๊อกคี่ ตั้งแต่เมื่อปี 2554 ส่วนทางผู้ใหญ่บ้านจะมีการส่งมอบต่อให้กับใครจนกระทั่งมาอยู่ในจุดเกิดเหตุได้อย่างไรนั้น ตำรวจจะต้องทำการสืบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง ในส่วนของการตรวจสอบซากเสือโคร่งทั้ง 2 ตัว ตำรวจจะต้องตรวจหาว่า กระสุนปืนที่ยิงเสือทั้ง 2 ตัวนั้น มาจากปืนลูกซองของทางราชการที่ตรวจพบหรือไม่ หากพบว่าเสือโคร่งทั้ง 2 ตัวถูกยิงด้วยกระสุนปืนจากปืนลูกซองของทางราชการ ก็จะต้องขยายผลไปถึงผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยเฉพาะผู้ใหญ่บ้านที่เป็นผู้รับมอบปืนกระบอกดังกล่าวไปจากทางราชการ โดยตำรวจยืนยันว่าจะทำคดีนี้อย่างตรงไปตรงมา จะทำการสืบสวนอย่างละเอียด โดยได้ส่งทีมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานลงพื้นที่จุดเกิดเหตุตั้งแต่ช่วงเช้า เพื่อตรวจสอบและเก็บหา DNA แฝงในจุดเกิดเหตุเพื่อระบุตัวของผู้กระทำผิดทั้งหมดมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้