เตรียมเปิด 'เเผนกคดีซื้อขายออนไลน์' ฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหายไม่ต้องมาศาล อำนวยความสะดวกแก่ ปชช. ลุยทดลองระบบ 17 ม.ค.นี้

 

(14 ม.ค. 2565) นายจีระพัฒน์ พันธุ์ทวี เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม เปิดเผยถึงแผนดำเนินงานอำนวยความยุติธรรมผ่านการวางระบบบริหารจัดการคดีในปี 2565 ว่า ภายใต้นโยบายของ น.ส.ปิยกุล บุญเพิ่ม ประธานศาลฎีกา คนที่ 47 ศาลยุติธรรมมุ่งยกระดับการคุ้มครองผู้บริโภคให้ครอบคลุมถึงการบริโภควิถีใหม่ โดยมีแผนจัดตั้ง "แผนกคดีซื้อขายออนไลน์ในศาลแพ่ง" เพื่อช่วยเหลือผู้บริโภคที่ได้รับความเสียหาย จากการซื้อขายสินค้าบริการทางออนไลน์ ซึ่งประชาชนสามารถยื่นฟ้องได้ด้วยตนเองโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ผ่านระบบ e-Filing ขณะนี้อยู่ระหว่างการพัฒนาระบบ และประสานงานกับองค์กรภาคีต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนการให้ข้อมูลที่จำเป็นในการดำเนินคดี อันเป็นการอำนวยความสะดวกและลดภาระให้แก่ผู้บริโภค เป็นความยุติธรรมที่เข้าถึงง่ายตามนโยบาย ประธานศาลฎีกา

ด้าน นายสรวิศ ลิมปรังษี โฆษกศาลยุติธรรม กล่าวว่า ในคดีซื้อขายออนไลน์เราจะไม่จำกัดว่าเป็นสินค้าชนิดใดและราคาเท่าไร มีเงื่อนไขแต่เพียงว่าสินค้าที่ซื้อขายนั้นจะต้องเป็นช่องทางออนไลน์แค่นั้น ในเรื่องของคดีความนั้น ประการแรกต้องเข้าใจว่าจะเป็นคดีที่อำนาจของศาลแพ่งเท่านั้น จะไม่ใช่คดีฉ้อโกงที่อยู่ในส่วนของคดีอาญา เนื่องจากวิธีการพิจารณาจะแตกต่างกัน ฉะนั้นถ้าผู้เสียหายต้องการเรียกร้องค่าเสียหายทางแพ่งก็สามารถยื่นฟ้องที่แผนกคดีซื้อขายออนไลน์ได้ โดยขั้นตอนในการยื่นฟ้องก็จะมีการเข้าสู่ระบบโดยการล็อกอินซึ่งจะมีให้กรอกข้อมูล ชื่อ นามสกุล เลขบัตรประชาชน โดยลักษณะของการยื่นฟ้องคดีนี้ไม่ต้องมีทนายความ ระบบก็จะมีแพลตฟอร์มว่า ผู้เสียหายได้ซื้อสินค้าอะไร มีราคาเท่าไร และจ่ายเงินไปแค่ไหน และเกิดปัญหาอะไรบ้าง โดยจะมีช่องให้ส่งไฟล์ภาพซึ่งจะเป็นพวกใบเสร็จหรือหลักฐานการซื้อสินค้า หรือสภาพสินค้า จากนั้นเจ้าพนักงานคดีจะมาตรวจรายละเอียดการฟ้องว่าครบถ้วนหรือไม่ ก่อนจะมาเรียบเรียงให้เป็นรูปแบบของคำฟ้อง และส่งไปให้ผู้เสียหายยืนยัน เมื่อยืนยันแล้วก็จะส่งไปให้ผู้พิพากษาทำคำสั่งในเรื่องของการรับฟ้องคดี หลังจากนั้นก็จะมีการออกวันนัดพิจารณาคดี โดยการพิจารณาคดีจะใช้ระบบผ่านจอภาพ มีการส่งลิ้งก์ให้กับจำเลย เท่ากับว่าคดีนี้ ทั้งผู้เสียหาย ผู้พิพากษา และผู้ขายสินค้าจะได้เจอกันในโลกออนไลน์ โดยขั้นตอนจะเหมือนคดีแพ่งทั่วไป ที่จะมีการไกล่เกลี่ยกันได้ เราพยายามทำให้ทุกอย่างเป็นระบบออนไลน์ก็เพื่อความคุ้มค่าในคดี เนื่องจากคดีส่วนใหญ่ทุนทรัพย์ไม่มาก

ซึ่งปัจจุบันนี้ช่องทางในการติดต่อซื้อขายออนไลน์มีจำนวนมาก ตัวผู้บริโภคจึงควรเตรียมข้อมูลของช่องทางดังกล่าวที่ทำการซื้อขายออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นไอดีหรือโปรไฟล์ของผู้ขาย ก็จะเป็นการดีในการส่งหมายถึงผู้ขายสินค้า โดยขณะนี้ ศาลอยู่ระหว่างพัฒนาระบบดังกล่าว เพราะต้องวางทั้งเรื่องของระบบคอมพิวเตอร์และระบบการทำงานของเจ้าหน้าที่ แต่ก็มีความคืบหน้าไปพอสมควรแล้ว โดยจะมีการเปิดทดลองระบบในวันที่ 17 ม.ค.นี้