หนุ่มไร้อาวุธบุกชิงเงินแบงก์ ยื่นถุงผ้าให้พนักงานสาวสั่งส่งเงินมาไว ๆ ให้เวลา 3 นาที ก่อนถูกตำรวจจับเอาไว้ทัน ระบุจะนำเงินไปเที่ยวอาบอบนวด

 

เมื่อเวลา 15.00น.วันที่ 20 ก.p. 2564 ร.ต.อ.สริพงษ์ อภิวัน รองสว.สอบสวนสภ.ธัญบุรี รับแจ้งมีเหตุคนร้ายชิงทรัพย์ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาบิ๊กซีรังสิตคลองหก ต.รังสิต อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี หลังรับแจ้งจึงรุดไปที่เกิดเหตุ กำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจำนวนหนึ่ง เข้าที่เกิดเหตุพบเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับคนร้ายร้านที่ก่อเหตุชิงทรัพย์ธนาคารไว้ได้บริเวณประตูทางออกธนาคาร

ทราบชื่อต่อมานายอโนทัย กุลทนบุตร์ อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 65/125 ม.8 ต.บึงบอน อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี ซึ่งอยู่ในอาการไม่สะทกสะท้าน ขณะที่ภายในธนาคารพบเจ้าหน้าที่ธนาคารและผู้ใช้บริการอยู่ในอาการตื่นตกใจ

โดย น.ส.อริสา ยงเกตุ เจ้าหน้าที่ธนาคาร ให้การว่า เวลาประมาณ 15.00 น. ขณะเกิดเหตุตนเองให้บริการอยู่ที่เคาน์เตอร์หมายเลข3 โดยมีประชาชนมาใช้บริการจำนวนมาก จากนั้นเมื่อถึงคิวที่ 95 ตามบัตรคิวได้มีคนร้ายเป็นชายเดินเข้ามาที่เคาน์เตอร์แล้วยื่นถุงผ้าให้แล้วบอกว่าตนเองมาปล้นและให้เวลา 3 นาที ด้วยความตกใจจึงไปว่า “พี่สักครู่นะคะ” จากนั้นก็กดกริ่งเรียกหัวหน้าแล้วหลบไปหลังเคาน์เตอร์จากนั้นคนร้ายก็เดินวนไปมาและยังบอกว่านี่ผ่านไป2นาทีแล้ว ก่อนที่คนร้ายจะพยายามพังกระจกบริเวณทางเข้าเคาน์เตอร์เข้ามา แต่ไม่สามารถเข้าไป กระทั่งเจ้าหน้าที่มาถึงและจับกุมตัวคนร้ายไว้ได้ ในเบื้องต้น นายอโนทัยฯ ยังให้การวกไปวนมา แต่ก็ยอมรับสารภาพว่า ตนเองมาปล้นแบบไม่มีอาวุธ เมื่อมาถึงก็ยื่นถุงผ้าให้เจ้าหน้าที่ธนาคาร แล้วบอกว่าส่งเงินมาให้ไว ๆ แต่ก็ไม่มีคนส่งเงินให้เลย จนถูกตำรวจมารวบตัวเสียก่อน

ด้าน พ.ต.อ.วิวัฒน์ อัศวะวิบูลย์ ผกก.สภ.ธัญบุรี ได้นำผู้ต้องหามาสอบปากคำที่ห้องสืบสวนสภ.ธัญบุรี นายอโนทัย กุลทนบุตร์ อายุ 33 ปี (ผู้ต้องหา) รับสารภาพว่าตนเองไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงินเพราะปกติทำงานเป็นรปภ.แห่งหนึ่งได้เงินเดือน 10,000 บาท และมีบ้านพักเป็นของตนเอง ตอนแรกจะก่อเหตุอีกธนาคารหนึ่งแต่ธนาคารนั้นเป็นระบบอัตโนมัติสำหรับตู้ฝาก-ถอน จึงเลือกลงมือก่อเหตุที่อีกธนาคาร โดยสาเหตุที่ทำไปเพราะอยากได้เงินเยอะ ๆ ไปเที่ยวอาบอบนวดที่รัชดา และนำเงินไปใช้จ่าย ที่ผ่านมาเคยก่อเหตุลักษณะเช่นนี้ในร้านสะดวกซื้อแต่ผู้จัดสาขาไม่เอาความ ทั้งนี้ได้แจ้งข้อหาพยายามชิงทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะและดำเนินคดีทางกฎหมายต่อไป