"ยุทธพงศ์" ร้อง "ชวน" สอบ "เรืองไกร" ปมรถเบนซ์หรู 5 ล้านบาท ผิดหลายกระทง หวั่นเอี่ยวพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ
นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2564 ยื่นหนังสือถึง นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้ตรวจสอบนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ในฐานะ กมธ.งบประมาณฯ กรณีซื้อรถเบนซ์หรูป้ายแดง มูลค่า 5 ล้านบาท ในขณะที่ปฏิบัติหน้าที่เป็นกรรมาธิการงบประมาณฯ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 144 เพราะนายเรืองไกร ถือเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีอำนาจจัดทำโครงการ อนุมัติ หรือจัดสรรงบประมาณประจำปี 65 และมีอำนาจหน้าที่ตาม พ.ร.บ.คำสั่งเรียกของคณะกรรมาธิการ สภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา พ.ศ.2554 รวมถึงประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เรื่องหลักเกณฑ์ การรับทรัพย์สินและผลประโยชน์อื่นใดโดยธรรมจรรยาของเจ้าพนักงานของรัฐ พ.ศ.2563
นายยุทธพงศ์ ระบุว่า ตอนนี้มีหลักฐานเป็นภาพถ่ายนายเรืองไกรคู่กับรถหรู พร้อมโพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊ก ชื่อ “เรืองไกร สื่อใดใด” เมื่อวันที่ 18 ก.ค.2564 ระบุว่า “ผู้ใหญ่ใจดีให้เงินซื้อรถใหม่” รวมถึงยังให้สัมภาษณ์รายการโทรทัศน์ช่องหนึ่งในเรื่องดังกล่าวด้วย
โดยวานนี้ได้ยื่นหนังสือขอให้ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง ในฐานะประธาน กมธ.งบประมาณฯ และนายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะหัวหน้าทีม กมธ.งบประมาณฯ ของพรรคพลังประชารัฐ ตรวจสอบว่า เงินสดจำนวน 5 ล้านบาท ที่นายเรืองไกรนำไปซื้อรถนั้นได้มาอย่างไร และมีส่วนเกี่ยวข้องกับการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ หรือไม่ อีกทั้งเงินจำนวนดังกล่าวได้แจ้งธุรกรรมทางการเงินตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินฯ และกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงินอื่น ๆ ต่อสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) หรือไม่
ขณะเดียวกัน นายยุทธพงศ์ กล่าวอีกว่า วันนี้ได้ยื่นต่อนายชวน ก่อนที่จะบรรจุการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ในวาระ 2-3 ของสภาผู้แทนราษฎร เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวเองและคณะกรรมาธิการงบประมาณอาจจะกระทำผิดละเมิดรัฐธรรมนูญมาตรา 144 ที่ระบุว่า “เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้ใดจัดทำโครงการอนุมัติหรือจัดสรรเงินงบประมาณ และรู้ว่ามีการดำเนินการอันเป็นการฝ่าฝืนบทบัญญัติตามวรรคหนึ่งหรือวรรคสอง ถ้าได้บันทึกข้อโต้แย้งไว้เป็นหนังสือ หรือมีหนังสือแจ้งให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.ทราบ ให้ผลจากความผิด”