"สิระ"ไม่คิดน้อยใจ หลังถูก"นายกฯ"ดุกลางสภา บอกเป็นเรื่องปกติคนทำงานก็มีชมบ้างติบ้าง แจงผู้ใหญ่ในพรรคแล้ว เชื่อนายกฯเข้าใจ ลั่น เดินหน้าลุยบ้านกกกอกต่อ
นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ตำหนิที่อนุญาตให้นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม พานายไชย์พล วิภา หรือ ลุงพล ผู้ต้องหาคดีน้องชมพู่ ที่ได้รับการประกันตัวจากศาล เดินทางเข้ามายื่นหนังสือและแถลงข่าวยิ่งใหญ่ในรัฐสภาระหว่างการอภิปรายชี้แจงการออก พ.ร.ก.เงินกู้เพิ่ม 5 แสนล้านบาท ว่า ตนได้ชี้แจงกับผู้ใหญ่ของพรรคไปแล้วว่า การรับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนของคณะกรรมาธิการกฎหมายฯ มีการปฏิบัติทุกวัน บางวันรับประชาชนกว่า 10 คน และไม่ได้เลือกปฏิบัติใครเป็นผู้เสียหายที่มายื่น ไม่ได้เลือกว่าคดีดังหรือไม่ดัง เพราะถือเป็นเรื่องปกติในการทำหน้าที่ช่วยเหลือประชาชน ส่วนตัวไม่กังวลที่นายกออกมาตำหนิแบบนี้ และคิดว่า ชี้แจงไปแล้วท่านคงจะเข้าใจบทบาทหน้าที่การทำงานของกรรมาธิการ เพราะเราไม่เลือกว่าเป็นใคร หากใครไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการทำงานของตำรวจ ก็พร้อมที่จะช่วย และไม่คิดน้อยใจที่ถูกนายกฯ ดุกลางสภา เมื่อทำหน้าที่ก็เป็นปกติที่จะต้องมีทั้งติและชม เป็นเรื่องปกติของการทำงาน
นายสิรั ยืนยันว่า กรรมาธิการของตน มีผู้ต้องหาจำนวนมากที่มาร้องขอความเป็นธรรมไม่ใช่แค่ลุงพล แต่ประชาชนเหล่านี้ไม่ได้ถูกสังคมจับตามอง ก็ไม่มีสื่อให้ความสนใจ เพราะฉะนั้นเหตุการณ์เมื่อวาน ตนไม่ได้มองว่าเป็นเรื่องพิเศษแต่อย่างใด
ขณะเดียวกัน นายสิระ ยังกล่าวถึงขั้นตอนการพิจารณาคดีลุงพลด้วยว่า ต้องนำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุม กมธ.กฎหมายฯ ภายในสัปดาห์หน้า ว่าที่ประชุมจะรับเรื่องไว้พิจารณาหรือไม่ หากบรรจุวาระแล้ว จึงจะมีมติอีกครั้งว่าจะเชิญใครมาชี้แจงเข้าให้ข้อมูลนี้ ส่วนเป้าหมายในการเชิญผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ก็ขึ้นอยู่กับที่ประชุมด้วย แต่ส่วนตัวยืนยันว่านี่ไม่ใช่คดีแรกที่กรรมาธิการกฎหมายออกหนังสือเชิญผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หลายเรื่องก็เคยออกหนังสือเชิญมาแล้ว พลตำรวจเอกสุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ก็เคยเดินทางมาชี้แจงในกรรมาธิการกฎหมายซึ่งตอนนั้น เป็นคำร้องของแม่น้องชมพู่ที่ถูกสื่อมวลชนคุกคาม
อย่างไรก็ตาม ในวันเสาร์ที่ 12 มิถุนายนนี้ ตนและกรรมาธิการจะลงพื้นที่ไปยังบ้านกกกอก เพื่อพบกับแม่ของน้องชมพู่และเจ้าพนักงานสอบสวนด้วย เพื่อรับฟังความเห็นว่าที่ผ่านมาการทำคดีนี้ ถูกกดดันอะไรบางอย่างหรือไม่