สนช.ชี้"อัยการสูงสุด"เตรียมรื้อคดี"นายทักษิณ ชินวัตร"พิจารณาใหม่ เป็นไปตามกฎหมายอาญานักการเมืองที่เพิ่งประกาศใช้ ที่ระบุให้พิจารณาคดีลับหลังจำเลยได้ เพื่อไม่ให้คดีนักการเมืองถูกแช่แข็ง เผยมี 4 คดีของ"นายทักษิณ"เข้าข่ายพิจารณาคดีลับหลัง

นายสมชาย แสวงการ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และอดีตโฆษกกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง กล่าวถึงกรณีอัยการสูงสุดเตรียมใช้กฎหมายว่าด้วยการพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมารื้อฟื้นคดีการดำเนินคดีต่าง ๆ ของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่หลบหนีคดีว่า

การใช้อำนาจตามกฎหมายดังกล่าวไม่ใช่การรื้อฟื้นคดี แต่เป็นการบังคับคดีที่ถูกแช่แข็ง เนื่องจากจำเลยหลบหนีคดี จึงไม่สามารถเอาผิดได้ ดังนั้นจึงต้องทำให้กระบวนการสามารถดำเนินการต่อไปได้ โดยการพิจารณาคดีลับหลัง เพื่อทำให้คดีไม่ต้องถูกแช่แข็งไปตลอดเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม

นายสมชาย กล่าวว่า ขณะนี้มีคดีของนายทักษิณ 4 คดีที่ถูกแช่แข็ง เนื่องจากหลบหนีคดี ซึ่งอยู่ในข่ายพิจารณาคดีลับหลังตามกฎหมายอาญานักการเมือง คือ 1.คดีทุจริตปล่อยกู้ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (เอ็กซิมแบงค์) ให้รัฐบาลพม่า วงเงิน 4,000 ล้านบาท 2.คดีทุจริตโครงการออกสลากพิเศษเลขท้าย 2 และ 3 ตัว (หวยบนดิน)

3.คดีทุจริตแปลงสัมปทานมือถือ-ดาวเทียม เป็นภาษีสรรพสามิต และ4.คดีการทุจริตกรณีธนาคารกรุงไทยปล่อยกู้ให้ บริษัทกฤษฎามหานคร นอกจากนี้ยังมีคดีนักการเมืองท้องถิ่นอีก 85คดีที่หลบหนี รวมถึงคดีของนางสาว ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี รวมทั้งหมดแล้วไม่ต่ำกว่า 90 คดีที่อยู่ในข่ายพิจารณาคดีลับหลังได้

"เสรี"ยันไม่ได้จงใจเอาผิดกลั่นแกล้ง"ทักษิณ"

ด้านนายเสรี สุวรรณภานนท์ อดีตประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ(สปท.)ด้านการเมือง กล่าวว่า การรื้อฟื้นการดำเนินคดีนายทักษิณ เป็นสิ่งที่สามารถดำเนินการได้ ไม่ใช่การกลั่นแกล้ง เพราะไม่ใช่การออกกฎหมายเพื่อไปเพิ่มบทลงโทษย้อนหลัง แต่เป็นการทำให้การดำเนินคดีที่ค้างอยู่เดิมสามารถพิจารณาคดีลับหลังได้

เพราะตามกฎหมายเดิมระบุว่า กรณีไม่สามารถนำตัวจำเลยมาปรากฏตัวต่อหน้าศาลได้ ให้จำหน่ายคดีไว้ชั่วคราว แต่กฎหมายฉบับใหม่ ระบุว่า ให้พิจารณาคดีลับหลังได้ ซึ่งหลังจากนี้ทุกคดีจะสามารถพิจารณาคดีลับหลังได้ เพื่อให้คดีเดินหน้าต่อได้ ไม่ใช่แค่เฉพาะคดีนายทักษิณคนเดียว แต่รวมถึงทุกคดีที่นักการเมืองหลบหนีไป 

"เพื่อไทย"ชี้กฎหมายใหม่เลือกปฏิบัติจงใจเอาผิด"ทักษิณ"

ส่วนนายชูศักดิ์ ศิรินิล หัวหน้าฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ก่อนหน้าที่กฎหมายดังกล่าวจะประกาศใช้ พรรคเพื่อไทยเคยเห็นแย้งว่า กฎหมายดังกล่าวตราขึ้นโดยไม่ถูกต้องตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ มีข้อความขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญ 2560 และมีข้อความขัดต่อหลักความเสมอภาค เลือกปฏิบัติ เป็นการตรากฎหมายย้อนหลังเป็นโทษแก่บุคคล ทั้งยังขัดต่อกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิทางการเมืองและสิทธิพลเมือง เรื่องสิทธิที่จะได้รับการพิจารณาคดีต่อหน้าบุคคล

พรรคเพื่อไทยวิเคราะห์กันตั้งแต่แรกว่า การผลักดันกฎหมายนี้ เพื่อเป้าหมายและจุดมุ่งหมายใด ซึ่งถือเป็นการบัญญัติกฎหมาย ตามอำเภอใจ เลือกปฏิบัติ เพราะคดีทั้งหลายมีเหตุจากบริบทความขัดแย้งทางการเมืองด้วยทั้งสิ้น

สนช.เผย 4 คดี "ทักษิณ" อยู่ในข่ายเอาผิดย้อนหลัง