ราชกิจจานุเบกษา ประกาศใช้กฎหมายว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ส่งผลให้ "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" ต้องเดินทางมายื่นอุทธรณ์คดีจำนำข้าวด้วยตัวเองเท่านั้น ด้าน "มีชัย ฤชุพันธุ์" ชี้ "ยิ่งลักษณ์" ต้องหนีไปตลอดชีวิต เพราะกฎหมายไม่นับอายุความ หากจำเลยหลบหนีคดี

วานนี้( 28 ก.ย.) เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่พระราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ. 2560 ซึ่งทำให้กฎหมายดังกล่าว มีผลบังคับใช้ทันที

สาระสำคัญของกฎหมายนี้ คือ มาตรา 60 กำหนดให้จำเลยยื่นอุทธรณ์ต่อที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาได้ ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ศาลมีคำพิพากษา ส่วนมาตรา 61 ระบุว่า จำเลยจะยื่นอุทธรณ์ได้ ก็ต่อเมื่อแสดงตนต่อเจ้าพนักงานศาล ในขณะที่ยื่นอุทธรณ์ มิฉะนั้นให้ศาลมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์

ด้านนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวว่า เมื่อกฎหมายว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองฉบับใหม่ประกาศใช้ ทำให้การอุทธรณ์คดี จำเลยต้องมายื่นคำร้องด้วยตนเอง

ส่วนการนับอายุความในคดี ในพ.ร.บ. ว่าด้วยการปราบปรามและป้องกันการทุจริตนั้น จะไม่มีการนับอายุความ หากจำเลยอยู่ระหว่างหลบหนี ดังนั้น ไม่ว่านางสาว ยิ่งลักษณ์ จะหลบหนีไปนานแค่ไหน แต่เมื่อกลับเมืองไทย ก็ต้องมารับโทษ 5 ปี

และแม้จะรับโทษครบตามกำหนดแล้ว ก็ต้องถูกตัดสิทธิทางการเมืองตลอดชีวิตด้วย เพราะรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 กำหนดคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามเล่นการเมืองไว้ หากใครผิดกฎหมาย ป.ป.ช.

ขณะที่นายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงการยื่นอุทธรณ์คดีว่า ขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้าในการพิจารณาเรื่องดังกล่าว เพราะต้องรอดูคำพิพากษากลางฉบับเต็ม และคำวินิจฉัยส่วนตนขององค์คณะฯ ที่จะออกมาก่อน

โปรดเกล้าฯกฎหมายอาญานักการเมือง-ชี้ "ยิ่งลักษณ์" ต้องยื่นอุทธรณ์เอง