นายพรเพชร วิชิตชลชัย ยืนยัน สนช.มีอำนาจ พิจารณาให้กรรมการองค์กรอิสระใด อยู่ต่อ รีเซต หรือ เซตซีโร่ ได้ตามรัฐธรรมนูญ ปี 60 ไม่ใช่การเลือกปฏิบัติ

นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กล่าวถึง การพิจารณาปรับแก้ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยองค์กรอิสระ ว่า สนช.มีเหตุผลที่จะพิจารณาให้กรรมการองค์กรอิสระใด อยู่ต่อ รีเซต หรือ เซตซีโร่ได้ ซึ่งไม่ใช่การเลือกปฏิบัติและไม่ถือเป็นการหักหลักการของกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เนื่องจาก กรธ.ได้ให้อำนาจ สนช.ในการแก้ไขกฎหมายลูก ซึ่งเป็นไปตามบทเฉพาะกาลในรัฐธรรมนูญ ปี 60 และกรธ.ก็มีหลักการของ กรธ.

ดังนั้นหากมองว่า สนช. ไม่สามารถทำอะไรได้เลยก็ไม่จำเป็นต้องส่งมาที่สนช. และกำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญไปเลยว่าองค์กรไหนควรอยู่ต่อ รีเซ็ต หรือเซตซีโร่ เช่นรัฐธรรมนูญ ปี 50

ส่วนคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ที่ให้ผู้ตรวจการแผ่นดินอยู่จนครบวาระไม่ขัดรัฐธรรมนูญนั้น ไม่ถือว่าเป็นบรรทัดฐานของการพิจารณากฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญฉบับอื่นๆ เช่น คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) และ คณะกรรมป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แต่จะเป็นบรรทัดฐานว่า สนช. ย่อมสามารถพิจารณาไปตามความเห็นได้

ส่วนความคืบหน้าการ โอนย้าย พันตำรวจโท พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ไปเป็นผู้ตรวจราชการประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ล่าสุด พลตำรวจเอกพิชิต ควรเดชะคุปต์ ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรมและการท่องเที่ยว สนช. กล่าวว่า ส่วนตัวเห็นว่า นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้ชี้แจงชัดเจนแล้ว ซึ่ง สนช.คงไม่เข้าไปก้าวล่วงการทำหน้าที่ของฝ่ายบริหาร

แต่หาก พันตำรวจโทพงศ์พร จะยื่นเรื่องร้องเรียนมาทาง สนช.ก็สามารถทำได้ หากมองว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม โดยทาง กมธ.ศาสนาฯ สนช.จะตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป.