ทนายความ ยืนยัน "พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ" หรือ บิ๊กจิ๋ว พร้อมเดินทางไปฟังคำพิพากษา ในคดีสลายม็อบพันธมิตร เมื่อปี 2551 ในวันที่ 2 สิงหาคม 2560 นี้ ถึงแม้จะมีอาการป่วย
นายวิภาส จารุพงษ์ ทนายความของ พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ หรือ บิ๊กจิ๋ว อดีตรองนายกรัฐมนตรี ซึ่งตกเป็นจำเลยที่ 2 ในคดีที่ ป.ป.ช. ยื่นฟ้องฐานปฏิบัติหน้าที่มิชอบจากการสลายม็อบพันธมิตร เมื่อปี 2551 กล่าวถึง ความพร้อมของ พลเอก ชวลิต หลังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางเมือง นัดฟังคำพิพากษา ในวันที่ 2 สิงหาคม 2560 นี้ เวลา 09.30 น. ว่า พลเอกชวลิต จะเดินทางไปฟังคำพิพากษา ด้วย ส่วนเรื่องอาการป่วยของ พลเอก ชวลิต นั้น ยืนยันว่าเดินทางไปไหว ยังไม่มีการขอเลื่อนการฟังคำพิพากษาแต่อย่างใด ส่วน นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี และ จำเลยคนอื่นๆ คาดว่า จะเดินทางไปฟังคำพิพากษาเช่นเดียวกัน เนื่องจากยังไม่มีใครแจ้งขอเลื่อนอ่านคำพิพากษาออกไป
สำหรับ คดีนี้ ป.ป.ช. ได้ ยื่นฟ้อง นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี คนที่ 26 น้องเขย นายทักษิณ ชินวัตร พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตรองนายกรัฐมนตรี พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ น้องชาย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ และ พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว อดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เป็นจำเลยที่ 1-4 เมื่อปี 2558 ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่ หรือ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และ โดยทุจริต เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด
จากกรณีรัฐบาลนายสมชาย สั่งการให้ตำรวจ ขอคืนพื้นที่การชุมนุมจากกลุ่มพันธมิตร เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551 ที่ล้อมอาคารสภา ไม่ให้แถลงนโยบายต่อรัฐสภา เพื่อกดดันให้ยุบสภา และ ลาออกจากตำแหน่ง โดยการขอคืนพื้นที่มีการใช้แก๊สน้ำตาสลายการชุมนุมกระทั่งมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต
ซึ่งศาลฎีกาแผนกคดีอาญา ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้ไต่สวนพยานนัดสุดท้ายเสร็จ เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน ที่ผ่านมา และ นายสมชาย จำเลยที่ 1 ได้แถลงปิดคดีด้วยวาจา ซึ่งระหว่างการพิจารณาคดี นายสมชาย ได้ประกันตัวไปในวงเงิน 9.5 ล้านบาท พล.อ.ชวลิต ประกันตัวด้วยวงเงิน 8 ล้านบาท ส่วน พล.ต.อ.พัชรวาท และ พล.ต.ท.สุชาติ ได้ประกันตัวไปวงเงินคนละ 6 ล้านบาท