"สวนดุสิตโพล" เผยประชาชนอยากฟังรัฐบาลแถลงผลงานในรอบ 3 ปี เรื่อง แนวทางการกระตุ้นเศรษฐกิจมากที่สุด และขอให้เน้นแก้ปัญหาปากท้อง ความเดือดร้อนประชาชน ขณะที่โฆษกรัฐบาล เตรียมเสนอแผนแถลงผลงานให้นายกรัฐมนตรีพิจารณา ในวันจันทร์ที่ 15 พฤษภาคมนี้

พลโทสรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงความคืบหน้าเตรียมงานการแถลงผลงานรัฐบาลครบรอบ 3 ปี ว่าหลังจากที่ได้เชิญสำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และกรมประชาสัมพันธ์ หารือร่วมกันและได้ข้อสรุปเบื้องต้นแล้ว โดยจะนำเสนอ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ในวันที่ 15 พฤษภาคมนี้ ส่วนรูปแบบนั้นยังไม่สามารถบอกรายละเอียดได้ ต้องรอนายกรัฐมนตรีพิจารณาก่อน ซึ่งการแถลงผลงานรัฐบาลจะอยู่ในช่วงปลายเดือน มิถุนายนหรือ ต้นเดือน กรกฎาคมนี้ ซึ่งยังไม่ได้มีการกำหนดวันที่แน่นอน ขณะที่การแถลงผลงานของคสช.จะแยกไปดำเนินการเอง โดยจะเผยแพร่ข้อมูลในรูปแบบวีดิทัศน์ ในช่วงปลายเดือน พฤษภาคมนี้ หรือต้นเดือน มิถุนายน 2560 นี้

"สมศักดิ์" ขอรบ.-คสช.กล้าพูดความจริง เอา ปชต.เข้าแลก 3 ปี ไม่เสียของ

ด้าน นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงการทำงานรัฐบาลและคสช. ครบรอบ 3 ปี ว่า คสช.และรัฐบาลจะเป็นคนตอบคำถามได้ดีที่สุด ถ้ากล้าที่จะไม่หลอกลวง ในปัญหาต่างๆ ที่คสช.พูดไว้ 3 ปี ก่อนนี้ที่จะเข้ามาแก้ไขตั้งแต่เรื่องปรองดอง การปฏิรูปประเทศ ปฏิรูปการเมือง เศรษฐกิจ สังคม โดยคสช.ต้องกล้าพูดความจริง ว่าจะไม่เสียของในสิ่งที่ลงทุนสูงด้วยการเอาประชาธิปไตยเข้าแลก สิ่งที่จะได้มาต้องดีกว่า แต่วันนี้ผ่านมา 3 ปียังไม่เห็นผลงาน และที่สำคัญทั้งรัฐธรรมนูญ และกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ ยังไม่ส่งสัญญาณว่าจะปฏิรูปอย่างไร มีแต่จะเหนี่ยวรั้งถอยหลังเข้าคลอง

ทั้งนี้อยากให้รัฐบาล เปิดหู เปิดตา เปิดใจ ฟังเสียงประชาชนบ้างก็จะเห็นความจริงว่าอะไรเกิดขึ้น 3 ปี ที่ คสช.เข้ามายึดอำนาจอยู่ ทำอะไรให้กับประเทศ ส่งผลให้กับประเทศอย่างไร เพราะส่วนตัวเชื่อว่าไม่มีใครกล้าให้คะแนนผ่านหรือไม่ผ่าน เพราะไม่อย่างนั้นจะกลายเหมือนดิสเครดิตรัฐบาล ขณะเดียวกันเห็นว่า เวลาที่เหลือของรัฐบาลจากนี้ ควรเร่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ปากท้องประชาชนอย่างจริงจัง มากกว่า มองการเมือง หรือมองกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งมาเป็นศัตรู ปัญหา และอุปสรรคในการทำงาน

"พิชัย"หนุนปรับครม.ชี้รัฐผลงานไม่มี คนจำไม่ได้

ขณะที่นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานและแกนนำพรรคเพื่อไทยด้านเศรษฐกิจ กล่าวว่า ตนเองแนะนำรัฐบาลมาตลอดว่าควรมีการปรับ ครม. เพราะผลงานไม่มี นึกไม่ออกว่าแต่ละกระทรวงมีผลงานอะไร และจากผลสำรวจทุกครั้งจะพบว่าปัญหาด้านเศรษฐกิจสอบตก ฉะนั้นควรเร่งปรับครม. และถ้าถามว่าปรับแล้วจะดีขึ้นหรือไม่ ก็คงยาก เพราะนักลงทุนและนานาประเทศยังไม่มีความเชื่อมั่นในระบบที่เป็นอยู่ ทั้งนี้หากไม่ปรับครม.เลย ภาพของรัฐบาลก็จะติดลบและยิ่งเสื่อมมากขึ้น ทั้งนี้มองว่า เรื่องเศรษฐกิจเป็นจุดอ่อนของรัฐบาลมาโดยตลอด สิ่งที่รัฐบาลต้องทำคือการคืนอำนาจให้ประชาชน ยิ่งคสช.ลากการเลือกตั้งนานเท่าไร จะยิ่งทำให้เกิดปัญหามากขึ้น

"ปชป."ชี้ปรับครม.ศก.ไม่เน้นตัวบุคคล แต่เน้นการทำงานของแต่ละกระทรวงมากกว่า

ด้าน นายเกียรติ สิทธีอมร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าววถึงกระแสข่าวการปรับ ครม.ด้านเศรษฐกิจ โดยเฉพาะกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ว่า อย่าไปให้ความสำคัญกับตัวบุคคลมากเกินไป เพราะการเปลี่ยนแปลตัวบุคคลไม่ได้ช่วยอะไร แต่ที่สำคัญคือการปรับการทำงานของแต่ละกระทรวงมากกว่า ส่วนการทำงานด้านเศรษฐกิจของรัฐบาลที่ผ่านมา 3 ปี นั้นก็ต้องยอมรับว่า เข้ามาในภาวะที่ไม่ปกติ ทำให้การทำงานยากแต่ก็เชื่อว่ารัฐบาลพยายามอย่างเต็มที่ มีหลายเรื่องที่ทำดี แต่ก็มีหลายเรื่องที่ต้องปรับปรุงและแก้ไข เช่น ค่าไฟ ราคาแก๊ส ราคาน้ำมัน ที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งตนเองก็ขอให้กำลังใจคนทำงานทุกคน จึงไม่อยากซ้ำเติมอะไร

"ดุสิตโพล" เผย ประชาชน อยากฟังแถลงผลงาน 3 ปี เรื่องแก้ปัญหาเศรษฐกิจมากที่สุด

ปิดท้ายที่ “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เผยแพร่ผลสำรวจในหัวข้อ “แถลงผลงาน 3 ปี รัฐบาล อย่างไร จึงจะถูกใจประชาชน” จากกลุ่มตัวอย่าง 1,185 คน โดย 5 เรื่องที่ประชาชนอยากฟังมากที่สุด อันดับ 1 แนวทางการกระตุ้นเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว การค้า การลงทุน ร้อยละ 75.95 อันดับ 2 การบริหารบ้านเมืองและการใช้งบประมาณ ร้อยละ 73.92 อันดับ 3 นโยบายพัฒนาคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชน ร้อยละ 68.61 อันดับ 4 เรื่องที่เกี่ยวข้องกับการจัดการเลือกตั้ง ร้อยละ 66.58 และอันดับ 5 ความในใจของนายกรัฐมนตรี ร้อยละ 55.44

ส่วน 5 เรื่อง ที่ประชาชนอยากบอกกับ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐบาลกับการเข้าสู่ปีที่ 4 มากที่สุด อันดับ 1 เน้นแก้ปัญหาปากท้อง ความเดือดร้อนของประชาชน ร้อยละ 83.80 อันดับ 2 เร่งสร้างผลงานให้เห็นเป็นรูปธรรม อยากเห็นบ้านเมืองดีขึ้น ร้อยละ 81.01 อันดับ 3 เดินหน้าตามโรดแม็ป สร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน ร้อยละ 70.13 อันดับ 4 การใช้อำนาจในทางที่เหมาะสม ยุติธรรม ร้อยละ 65.82 และอันดับ 5 ขอเป็นกำลังใจให้รัฐบาลอยู่ทำงานจนครบวาระ ร้อยละ 49.87