เกษตรกรผู้ปลูกมะละกอในพื้นที่บ้านน้ำโท้ง หมู่ 8 ต.ท่าขุนราม อ.เมือง จ.กำแพงเพชร ได้รับความเดือดร้อนหนักจากภัยแล้ง โดยต้นมะละกอที่ปลูกในพื้นที่หลายไร่กำลังเหี่ยวแห้งเฉาตาย
นายศิลป์ ศิริ อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 138 หมู่ 8 ต.ท่าขุนราม อ.เมือง จ.กำแพงเพชร กล่าวว่า เกษตรกรในพื้นที่ส่วนใหญ่เริ่มหันมาปลูกพืชทดแทนการทำนาข้าว เนื่องจากประสบปัญหาขาดแคลนน้ำในการทำนา จึงไปซื้อพันธุ์มะละกอเพื่อมาปลูกแทนจำนวน 6 ไร่ แต่เนื่องจากสถานการณ์ภัยแล้งในปีนี้รุนแรงกว่าทุกปีที่ผ่านมา ทำให้ต้นมะละกอที่เพิ่งลงแปลงปลูกได้ 8 เดือน ซึ่งอยู่ในระยะเก็บเกี่ยว เริ่มมีอาการใบเหลืองและแห้งเหี่ยว ผลมะละกอออกไม่เต็มที่ ส่วนมะละกอที่กำลังได้ขนาดก็ถูกแสงแดดที่ร้อนจัดเผาจนผิวขรุขระ เหลือง มีเชื้อรา ผลไม่สวย จึงทำให้ราคาตก ต้องเอากระสอบปุ๋ยมาคลุมเพื่อป้องกันแสงแดด แต่ก็ช่วยอะไรได้ไม่มากนัก
ปัญหาหลักคือการขาดแคลนน้ำที่ใช้ในการรดสวนมะละกอ ส่งผลให้มะละกอหลายต้นเริ่มเหี่ยวเฉารอวันแห้งตาย ซึ่งจะลงทุนขุดเจาะบ่อบาดาลต้องใช้ต้นทุนสูง เพราะเงินที่ลงทุนไปกับการปลูกมะละกอ ก็ยังเก็บผลผลิตขายได้ไม่ดี จึงอยากให้ทางหน่วยงานภาครัฐ ช่วยเรื่องการขุดเจาะบ่อน้ำเพื่อนำน้ำให้ในทางการเกษตร นอกจากนี้ ยังพบว่าเกษตรกรผู้ปลูกมะละกอที่อยู่ในละแวกเดียวกัน ได้ว่าจ้างรถแทรกเตอร์มาไถต้นมะละกอทิ้งแล้วหลายราย เนื่องจากประสบปัญหาภัยแล้งอย่างหนัก กำลังจะยืนต้นตาย สร้างความเดือดร้อนแก่เกษตรกรที่เพาะปลูกมะละกอเป็นอย่างมาก
Cr.จักรพรรณ์/กำแพงเพชร