แม่ค้าเปิดศึกยกกระทะน้ำมันทอดลูกชิ้นราดลำตัวคู่กรณี จนบาดเจ็บสหัสกลางตลาดเปิดท้ายท่าเรือพระสมุทรเจดีย์ ล่าสุดคุณแม่ (น้องบี) ผู้ได้รับบาดเจ็บ เดินทางมาพร้อม 'คุณบุ๋ม' เพื่อนสนิทซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ มาเปิดใจครั้งแรกใน 'ปากโป้ง' ทาง ช่อง 8

กลายเป็นประเด็นร้อนที่ถูกถึงมากที่สุดในขณะนี้ สำหรับกรณี แม่ค้าเปิดศึกยกกระทะน้ำมันทอดลูกชิ้นราดลำตัวคู่กรณี จนบาดเจ็บสหัสกลางตลาดเปิดท้ายท่าเรือพระสมุทรเจดีย์  ล่าสุดคุณแม่ (น้องบี) ผู้ได้รับบาดเจ็บ เดินทางมาพร้อม “คุณบุ๋ม” เพื่อนสนิทซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ มาเปิดใจครั้งแรกใน “ปากโป้ง” ทาง ช่อง 8  เข้มทุกเรื่องราว สุดทุกอารมณ์ โดยมี “หนุ่ม-กรรชัย กำเหนิดพลอย” เป็นพิธีกร เพื่อมาเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมเรียกร้องความเป็นธรรม  

 

 

คุณแม่น้องบีอายุเท่าไหร่ ทำงงานอะไรครับ

แม่น้องบี “ 42 คะ แม่ไม่ได้ทำงานน้องบีเป็นคนส่งเสีย”

คุณบุ๋มละครับเป็นใคร

บุ๋ม “เป็นเพื่อนสนิทกันนับถือกันเป็นพี่น้อง รู้จักกัน 2-3 ปีแล้วคะ”

ตัวผู้บาดเจ็บเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย

บุ๋ม “น้องเขาเป็นผู้หญิงคะ แต่น้องเขาเป็นทอม เหตุการณ์เกิดเมื่อวันศุกร์ที่ 17 มีนาคมที่ผ่านมา ประมาณ 4-5 โมงเย็น ก็เปิดแผงขายของตามปกติ วันนั้นเปิดแผงขายที่ตลาดท่าเรือพระสมุทรเจดีย์ อยู่ติดกับร้านขายสลัด บุ๋มก็ทอดลูกชิ้นขายปกติ ซึ่งวันนั้นก็เอาพัดลมมาด้วย น้องเขาอยู่หน้าร้านก็เปิดพัดลมให้น้อง พัดลมตัวไม่ใหญ่คะ เปิดเป่ามาทางน้องบี”

แล้วมันเกิดอะไรขึ้น

บุ๋ม “คือเปิดเป่าไปทางน้องเขาไม่ได้มาที่กะทะ พอผ่านไปสักพักพี่ที่อยู่ร้านสลัดก็เอาพัดลมตัวใหญ่ตัวสูงเปิดจ่อมาที่หน้าเตาทอดลูกชิ้น น้ำมันก็กระเด็นโดนบุ๋ม บุ๋มก็เลยเอียงพัดลมเรานิดนึง ซึ่งพัดลมก็อยู่ที่เดิมไม่ได้ขยับมา”

ตรงนั้นทะเลาะกันมั้ย

บุ๋ม “พี่เขาก็ด่า มึงมันเห็นแก่ตัว บุ๋มก็บอกว่าพี่มีอะไรก็พูดกันดีๆ ก็ได้นะคะ เป็นแม่ค้าเหมือนกัน เขาก็บอกว่ากูไม่พูดกับพวกมึงหรอก แล้วเขาก็ยืนด่าๆ ผ่านไปสักพักหนึ่งบุ๋มก็ไม่ได้เถียงอะไร เพราะว่าคนเยอะมาก พอทุ่มกว่าๆ บุ๋มก็ปิดเตา แล้วพี่เขาก็ลุกขึ้นมายืน ซึ่งบุ๋มก็คุยกับน้องบีปกติ คุยกันแล้วก็หัวเราะร้านขายสลัดเขาก็บอกว่าหมั่นไส้วะ ลูกพ่อแม่ไม่สั่งสอน บุ๋มก็เลยหันมาบอกพี่พูดกันดีๆ ก็ได้ ทำไมต้องด่าถึงพ่อแม่ เขาบอกว่ากูไม่ได้พูดกับมึง กูพูดกับเพื่อนกู แม่ค้าขายสลัดเขาเป็นผู้หญิงคะ อายุ 37 ปี ซึ่งก่อนหน้านี้เขาก็พูดกับน้องผู้ชายคนนึงว่าเป็นทอมดีเนอะมีอะไรกันก็ไม่ท้อง น้องบีเขาก็ถามว่าทำไมพี่พูดแบบนี้ละครับ ผมเป็นทอมแล้วมันผิดตรงไหน เขาบอกว่าเป็นทอมไม่ผิดหรอก น้องกูก็เป็นทอมเหมือนมึงนี่แหละ แต่ไม่ใช่ทอมเหี้ยๆ แบบมึง น้องเขาก็บออกว่าผมเหี้ยตรงไหนละพี่ ผมก็ทำมาหากิน น้องบีกับพี่ที่ขายสลัดก็มีปากเสียงกัน ปล้วพี่เขาก็เอาที่วีแมงวันฟาดลงมาที่ขอบกะทะ แต่ปลายมันโดนน้ำมันก็กระเด็นมาโดนแขนบุ๋ม บุ๋มก็บอกว่าพี่น้ำมันกระเด็นโดนบุ๋มแล้ว  พอดีบุ๋มทานน้ำอยู่ก็เลยเอาแก้วน้ำขว้างไป  พอดีพี่คนที่จัดตลาดก้เข้ามาห้าม ซึ่งแก้วก็ไม่ได้โดนพี่คนขายสลัด ซึ่งมันก็ไม่มีน้ำอยู่ในแก้ว หลังจากนั้นบุ๋มก้หันหลังหนี เพราะว่าพี่ที่ขายมะม่วงซึ่งอยู่หลังร้านบุ๋มบอกว่าไม่ต้องทะเลาะนะ  เดี๋ยวคนจัดไม่ให้ขาย บุ๋มก็หันหลังหนี ช่วงที่บุ๋มหันหลังที่ที่ขายสลัดก็เอามือสองมือผลักกะทะขึ้นใส่น้องบี”

กะทะใบใหญ่มั้ย

บุ๋ม “30 นิ้วคะ แล้วมีน้ำมันอีก ตอนนั้นเพิ่งปิดเตา บียืนอยู่ตรงนั้นพอดี ซึ่งเขาหันมาดูบุ๋มเพราะว่าน้ำมันกระเด็นมาโดนแขนบุ๋มก่อนหน้านี้ ซึ่งน้ำมันราดตั้งแต่ศรีษะน้อง ไปแขนขา พอบุ๋มหันไปอีกที หน้าน้องหลุดๆ ออกมา บุ๋มก็เลยถอดเสื้อให้น้อง เพราะน้ำมันมันลวกตรางชาวงท้องหมดเลย  ความร้อนของน้ำมัน มันลวกข้างในหมดเลย”

แล้วทางฝั่งเขาทำอะไรตอนนั้น

“เขาก็ยืนนิ่งไม่พูดอะไร เขาบอกว่ากูไม่ได้ตั้งใจ เขาพูดคำนี้”

หลังจากนั้นใครเป็นคนพาน้องบีไปหาหมอ

บุ๋ม “บุ๋มกับน้องที่จัดตลาด ทางโรงพยาบาลบอกว่าให้น้องนอนดูอาการ 24 ชั่วโมง เพราะว่าแผลที่ใบหน้ามันลึกมาก คุณหมอบอกว่าถ้านอนโรงพยาบาลคืนแรกสองหมื่นหน้าพร้อมจ่ายมั้ย บุ๋มก้เลยบอกว่าตอนนี้บุ๋มไม่มีเงินคะ ทางนางพยาบาลก็ทำเรื่องให้ไปโรงพยาบาลรัฐบาล ก่อนไปถึงโรงพยาบาลรัฐบาลบุ๋มก็พาน้องไปโรงพักเพื่อที่จะแจ้งความ คณะที่เดินเข้าไป สามีของพี่ที่ขายสลัดเขาก็พูดขึ้นมาว่า พันผ้าเยอะเกินไปปะ เยอะเกินไปนะผ้า หลังจากแจ้งความก็พาน้องไปโรงพยาบาลต่อเลย”

โรงพยาบาลอีกแห่งว่ายังไงบ้าง

บุ๋ม “เขาบอกต้องนอนดูอาการ 24 ชั่วโมงและต้องนอนในห้องไอซียูที่ปลอดเชื้อ อาทิตย์หรือสองอาทิตย์ไม่ให้น้องไปไหนเลย”

สุดท้ายแล้วจะเอายังไงเรื่องนี้

บุ๋ม “บุ๋มก็อยากจะให้คนที่ดูแลคดีของน้อง ช่วยเหลือน้องให้เต็มที่ เพราะว่าชีวิตคนเหมือนตายทั้งเป็นน้องเขายังเด็ก อนาคตยังอีกไกล คุ๊หมอบอกว่าน้องจะไม่กลับมาเหมือนเดิม ต้องใช้เวลารักษาเป็นปีที่จะให้โดนแสงแดด เพราะว่าที่ใบหน้าจะเข้าลึกว่าที่อื่น

คุณแม่มีอะไรอยากจะบอกมั้ย

“คุณแม่ก็อยากให้คนที่ทำรับผิดชอบ สงสารน้อง คุณแม่ก็มีลูกคนเดียว ต้องมาเลี้ยงดู แทนที่ลูกจะเลี้ยงดูแม่ แม่ต้องมาเช็กขี้ เช็ดเหยี่ยวให้ลูก สงสารลูก เห็นลูกแล้วก็อยากเจ็บแทน แม่หมดกำลังใจแต่ต้องทำเพื่อลูก สงสารลูกมาก ลูกก็ร้องไห้ทุกวัน