สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ระบุ อาจจะมีการเลือกตั้งกลางปี 2561 เนื่องจากมีภารกิจต้องพิจารณากฎหมายเป็นจำนวนมาก แต่ยืนยันว่าจะต้องมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นแน่นอน

พลเอกสมเจตน์ บุญถนอม สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กล่าวถึงกรณีนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธาน สนช. ระบุ อาจจะมีการเลือกตั้งกลางปี 2561 เนื่องจากสนช.มีภารกิจต้องพิจารณากฎหมายเป็นจำนวนมาก ว่า หากดูตามกรอบกรอบเวลาขณะนี้ คงไม่สามารถจัดเลือกตั้งได้ทันภายในปลายปี 2560 เพราะตามขั้นตอนโรดแม็ปคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญจะต้องส่งกฎหมายลูก 4 ฉบับที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งให้สนช.พิจารณาภายใน 8 เดือน นับจากวันที่ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ประกาศใช้อย่างเป็นทางการ จากนั้น สนช.จะมีเวลาพิจารณาเนื้อหากฎหมายลูกแต่ละฉบับ 2 เดือน เมื่อพิจารณากฎหมายลูกทั้ง 4 ฉบับเสร็จแล้ว จะต้องจัดการเลือกตั้งภายใน 150 วัน หากดูตามกรอบเวลาดังกล่าว คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 15 เดือน ช่วงเวลาที่สามารถจัดเลือกตั้งได้จะอยู่ประมาณเดือน มีนาคม - เมษายน ปี 2561 ซึ่งไม่ถือว่า เป็นการเลื่อนโรดแม็ปเลือกตั้ง แต่ทุกอย่างยังเป็นไปตามกรอบเวลาและกติกาที่กำหนดไว้ในเรื่องการเขียนกฎหมายลูก ดังนั้นถือว่า เวลาการเลือกตั้ง ยังอยู่ในโรดแม็ป และยืนยันว่าจะต้องมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นแน่นอน

เช่นเดียวกับ นายแพทย์เจตน์ ศิรธรานนท์ โฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (วิปสนช.) ที่ระบุว่า สิ่งที่นายสุรชัย ระบุถือเป็นประเด็นที่มีน้ำหนัก ถ้าเทียบกับกรอบเวลาการพิจารณากฎหมายลูกที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ ซึ่งสนช. และ รัฐบาล ไม่ได้มีเจตนาเลื่อนการเลือกตั้ง แต่ทุกอย่างเป็นไปตามเงื่อนเวลาที่กำหนดไว้ในกฎหมายลูก ทั้งนี้การคำนวณดังกล่าวเป็นการคิดตามกรอบเวลาที่กำหนดไว้สูงสุด หาก กรธ.เร่งการพิจารณากฎหมายลูกก็สามารถส่งมาให้สนช.ได้ก่อน 8 เดือน ซึ่งทำให้อาจจะร่นเวลาการเลือกตั้งให้เร็วขึ้นได้

'ยิ่งลักษณ์' ขอปี 60 คสช.ยึดโรดแม็ปไม่เลื่อนเลือกตั้ง

ด้านนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงทิศทางการเมืองในปี 2560ว่า เป็นการมองที่ค่อนข้างยาก เนื่องจากปี 2560 เป็นปีของการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างมาก ทั้งเรื่องรัฐธรรมนูญใหม่ การเลือกตั้งว่าจะเดินไปตามโรดแม็ปหรือไม่ คงเป็นปีที่ทุกคนต้องช่วยกันประคับประคองให้สถานการณ์ต่างๆ เป็นไปตามแผนที่วางไว้เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่น ทั้งนี้อยากร้องขอให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ดำเนินการตามโรดแม็ปที่วางไว้ ปัญหาอุปสรรคต่างๆ ขอให้ช่วยกันประคับประคอง เพราะเลื่อนการเลือกตั้ง มา 2 ปีแล้ว เพราะไม่อยากให้เสียเวลาและโอกาสอีก ไม่เช่นนั้นก็ต้องจะเลื่อนโรดแม็ปไปเรื่อยๆ ส่วนเรื่องปรองดองที่ผ่านมายังไม่เห็นจากรัฐบาลชุดนี้และสิ่งที่ประชาชนอยากเห็น คือความจริงใจที่จะทำให้เกิดความปรองดองกับประชาชน ไม่ใช่เพียงเพื่อรักษาความสงบสุขให้เกิดขึ้นเพียงอย่างเดียว

ส่วนตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนใหม่ นางสาวยิ่งลักษณ์ ระบุว่า ต้องรอหลังจากที่พรรคได้รับอนุญาตให้จัดกิจกรรมการเมืองเพื่อให้กรรมการบริหารพรรคหารือกันอีกครั้ง ซึ่งขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะสรุป

'อภิสิทธิ์' ชี้ปี 60 มุ่งสู่การเลือกตั้ง จี้นักการเมืองเป็นผู้นำปฏิรูป

ขณะที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ วิเคราะห์สถานการณ์บ้านเมืองในปี 2560 ว่า เป็นปีที่เดินเข้าสู่ระยะที่สามของโรดแม็ป มีความแตกต่างจากปี 2559 ซึ่งเป็นปีที่มีการลงประชามติรัฐธรรมนูญ และเริ่มมองเห็นว่าระยะเวลาที่เหลืออยู่จะกลับเข้าสู่การเลือกตั้ง แม้การเลือกตั้งจะไม่เกิดในปี 60 แต่สังคมจะให้ความสำคัญกับการเลือกตั้งมากขึ้น และอยากให้การเมืองไทยเป็นการเมืองที่เป็นประชาธิปไตยและคนในระบบประชาธิปไตยใช้เสรีภาพด้วยความรับผิดชอบ และในฐานะนักการเมืองก็อยากเรียกร้องนักการเมืองด้วยกันว่าต้องเป็นผู้นำในการเปลี่ยนแปลงปฏิรูป

'วิรัตน์' ระบุต้อง ลต.ปี 60 เหตุ นายกฯสัญญาประชาคมต่อนานาชาติ

ขณะที่นายวิรัตน์ กัลยาศิริ หัวหน้าทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี ที่อาจมีการเลื่อนออกไปประมาณกลางปี 2561 ว่า เรื่องนี้จะเป็นการสร้างความสับสนให้กับนานาชาติ เพราะนายกรัฐมนตรี เคยให้สัญญาประชาคมต่อหน้าเวทีสหประชาชาติและผู้นำต่างชาติหลายประเทศ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่ผู้มีอำนาจจะต้องยึดถือปฏิบัติ เพื่อดำเนินการให้มีรัฐบาลประชาธิปไตยภายในโรดแม็ปที่ได้มีการประกาศไว้

บ้านสมเด็จโพลล์ เผย คนกรุงฯ อยากเลือกตั้ง ปี 60

ขณะที่ 'บ้านสมเด็จโพลล์' สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏ (มรภ.) บ้านสมเด็จเจ้าพระยา ได้สำรวจความคิดเห็นเกี่ยวกับความเห็นจากกลุ่มตัวอย่างคนกรุงเทพมหานคร เกี่ยวกับการเลือกตั้งในปี 2560 พบว่า อยากให้มีการเลือกตั้งเกิดขึ้น ร้อยละ 53.2 ไม่อยาก ร้อยละ 25.6 และไม่แน่ใจ ร้อยละ 21.2 ความพร้อมของไทยในการเลือกตั้ง ปี 2560 พบว่า มีความพร้อม ร้อยละ 52.8 ไม่พร้อม ร้อยละ 25.4 และไม่แน่ใจ ร้อยละ 21.8 สิ่งที่จะช่วยทำให้คนไทยมีความสุขมากขึ้นในปี 2560 พบว่า อยากให้คนในชาติมีความปรองดอง ร้อยละ 39.3 อยากเห็นรัฐธรรมนูญใหม่ที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงประเทศที่ดีขึ้น ร้อยละ 36.2 และอยากให้รัฐบาลยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้น ร้อยละ 24.4