บรรยากาศของสวนชมน่านเฉลิมพระเกียรติ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลกปีนี้ พบว่ากระทงจากวัสดุธรรมชาติ ยังคงได้รับความนิยมสูง พ่อค้าแม่ค้าต่างแห่มาจับจองที่ขายกระทง

ครอบครัวของนายนพพร แหบคงเหล็ก และนางแสงทอง รอดเครือทอง คู่สามีภรรยา ชาว ตำบลท่าตาล อำเภอบางกระทุ่ม จังหวัดพิษณุโลก มาปักหลักนอนค้างคืน และตั้งร้านจำหน่ายกระทงตั้งร้านค้างคืนตั้งแต่วันศุกร์ที่ 11 พย.ที่ผ่านมา

นายนพพร เปิดเผยว่า ที่ตำบลท่าตาล มีกลุ่มชาวนาที่ว่างเว้นจากการทำนา รวมกลุ่มประดิษฐ์กระทงจากวัสดุธรรมชาติ เพื่อจำหน่ายในเทศกาลลอยกระทงทุกปี ซึ่งตนและภรรยามีอาชีพรับจ้างทั่วไป จึงรับกระทงจากชาวบ้านมาเพื่อมาวางจำหน่ายในงานลอยกระทงของจังหวัดพิษณุโลก

ราคาจำหน่ายตั้งแต่ 40 - 100 บาท และกระทงใบตอง ที่ตนและภรรยาทำกันเองนำต้นกล้วยและใบตองมาจากบางกระทุ่ม ขายตั้งแต่ราคา 20 - 30 บาท ซึ่งปีนี้ยังไม่แน่ใจว่าจะขายดีหรือไม่ ค่าเช่าล็อกก็แพงขึ้น จึงต้องมาเริ่มวางขายก่อนและเริ่มมีผู้มาอุดหนุนลอยกระทงกันล่วงหน้าบ้างแล้ว

สำหรับกระทงจากชาวนา ตำบลท่าตาล รวมกลุ่มกันทำมาได้ 4 ปี แล้ว ทำกระทงจากวัสดุธรรมชาติ โดยเริ่มจากหาเก็บเปลือกมะพร้าวตามบ้านชาวบ้าน ที่ปอกทิ้งเก็บเปลือกข้าวโพดจากชาวนาที่หักข้าวโพดไปแล้ว และดอกกกหรือหญ้ากก ซึ่งมักจะออกช่วงหน้าฝน โดยเริ่มเก็บสะสมมาตั้งแต่ช่วงตนปี

พอใกล้จะถึงเทศกาลลอยกระทง ก็จะมานั่งรวมกลุ่มกันทำกระทง โดยใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นในการทำบายศรีที่มีอยู่ มาใช้ในการพับกลีบเปลือกข้าวโพด ทำกลีบกระทงแทนใบตองสด ซึ่งมีราคาสูงกว่า และพับเปลือกข้าวโพดทำเป็นดอกไม้ร่วมกับดอกกกดอกหญ้ามุ้งในท้องนา นำมาตากแห้ง แล้วย้อมสี นำมาประกอบกันกับฐานที่ใช้จากเปลือกลูกมะพร้าวแห้งตัดเป็นรูปทรงตามต้องการ เช่น ทรงกลมทรงรี รูปทรงหัวใจ ถ้าจะเน้นความสวยงามสำหรับตั้งโชว์ ก็จะเป็นกระทงรูปนกยูงรำแพน กระเช้าหงส์ กระทงพญานาค

ส่วนการจัดงานลอยกระทงของจังหวัดพิษณุโลกในปีนี้ยังคงจัดงานประเพณีลอยกระทงสองแควแลอดีต 'ประทีปแห่งความภักดีถวายองค์จักรีภูมิพล' ที่บริเวณริมแม่น้ำน่าน หน้าวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร หรือวัดใหญ่ ในค่ำคืนของวันที่ 14 พ.ย.59 เพียงวันเดียว ในปีนี้จะงดดนตรีมหรสพรื่นเริง พร้อมทั้งห้ามจุดพลุประทัดดอกไม้ไฟต่างๆ ด้วยเช่นกัน แต่จะมีการจัดงานบรรยากาศแบบไทยๆย้อนยุค เพื่อรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีไทยเอาไว้ ตั้งแต่เวลา 18.00-24.00 น.