ชุมชนผลิตโคมยี่เป็งแหล่งใหญ่ของจังหวัดเชียงใหม่ยอดขายซบเซา ขณะที่ร้านค้าในจังหวัดเชียงราย นำประทีป โคมไฟ ออกมาขายอย่างคึกคัก ก่อนช่วงเทศกาลวันลอยประทง

ประทีป และโคมไฟ ทั้งขนาดเล็ก และขนาดใหญ่ เริ่มวางจำหน่ายในร้านค้าต่างๆ ภายในตลาดสดเทศบาลนครเชียงราย จังหวัดเชียงราย กันอย่างคึกคักแล้ว ก่อนถึงช่วงเทศกาลลอยกระทงวันที่ 14 พฤศจิกายนนี้ หลายร้านบอกว่า ปีนี้มีลูกค้ามาสั่งซื้อจำนวนมาก โดยประทีปขนาดเล็ก ราคาถุงละ 25 บาท ขนาดใหญ่ราคาถุงละ 50 บาท ส่วนโคมไฟขนาดเล็กราคาใบละ 10 บาท โคมไฟขนาดใหญ่ใบละ 15 บาท แต่ที่ได้รับความนิยมมาก คือโคมไฟญี่ปุ่น มีลูกค้าสั่งจองจำนวนมาก โดยมีราคาตั้งแต่ใบละ 25 บาท ไปจนถึงขนาดใหญ่ใบละ 800 บาท สำหรับโคมญี่ปุ่นนั้น ถือว่ามีความสวยงาม หลากหลายสีสัน และสามารถนำไปประดับตกแต่งภายในบ้านได้ อีกทั้งมีอายุการใช้งานนาน ต่างจากโคมลอยที่ปล่อยได้เพียงครั้งเดียว อีกทั้งสินค้าที่นำมาจำหน่าย ไม่มีการปรับราคาขึ้น ทำให้มีลูกค้าออกมาเลือกซื้อ เพื่อเก็บไว้ก่อนถึงวันลอยกระทง

ขณะที่ชุมชนเมืองสาตรหลวง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ แหล่งผลิตโคมยี่เป็ง แหล่งใหญ่ของจังหวัดเชียงใหม่ ทีมข่าวลงพื้นที่สำรวจ พบว่า บรรยากาศการผลิตและซื้อขายโคมยี่เป็งชนิดต่างๆ เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในหลายปีที่ผ่านมานั้น ปีนี้ถือว่าซบเซาลง ซึ่งนางคำ สุวรรณทะมาลี อายุ 84 ปี เจ้าของร้านโคม เปิดเผยว่าเปิดร้านมานานเกือบ 50 ปี ถือว่าปีนี้ซบเซาอย่างมาก แต่ทางร้านได้ทำโคมยี่เป็งสีดำ และสีขาวออกมาวางขายแทนโคมที่เป็นสีสัน ก็ทำให้ขายได้ดีในระดับหนึ่ง โดยเริ่มมีการสั่งซื้อเป็นระยะๆ โดยเจ้าของร้านผลิตโคมหลายร้าน ระบุว่าปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อยอดขายโคมไฟ เนื่องจากทางจังหวัดเชียงใหม่ กำหนดระยะเวลาให้ปล่อยโคมในงานประเพณียี่เป็ง ทำให้จากที่เคยขายได้เกินกว่าหมื่นลูก แต่ปีนี้ได้จัดเตรียมไว้ขาย ประมาณ 500 ลูก แต่เพิ่งขายไปได้เพียง 200ลูกเท่านั้น. ยอดขายโคมลอยลำพูนลดจากวันละนับหมื่นเหลือไม่ถึงพันใบ

เช่นเดียวกับที่อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน แหล่งผลิตโคมไฟ โคมลอยแหล่งใหญ่ของจังหวัดลำพูน โดยเป็นอาชีพเสริมของชาวบ้านหลายชุมชน ซึ่งต่างบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่า ปีนี้เศรษฐกิจไม่ดี ยอดขายลดลง ทั้งขายปลีก และขายส่ง จากยอดวันละนับหมื่น เหลือไม่ถึงพันใบ แต่พบว่า มียอดสั่งซื้อเป็นโคมสีขาว สีทอง และสีดำ เพิ่มขึ้น

ขณะที่จังหวัดสุโขทัย จัดงานลอยกระทงในรูปแบบย้อนยุควิถีสุโขทัยที่เรียบง่าย นางพัศลินทร์ เศวตรัตน์ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. สำนักงานสุโขทัย เปิดเผยว่า ปีนี้เน้นการเปิดไฟแบบสามมิติ และร่วมจุดตะคัน 9,999 ดวง ถวายพ่อหลวง รวมทั้งจัดจุดถ่ายภาพ “ฉันเกิดในรัชกาลที่ ๙” เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เก็บภาพ ตั้งแต่คืนนี้จนถึง วันที่ 14 พฤศจิกายน เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งทรงเสด็จพระราชดำเนินพร้อมสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จทรงงานในจังหวัดสุโขทัย ถึง 9 ครั้ง โดยครั้งหนึ่งได้เสด็จมาที่วัดชนะสงคราม ภายในอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยแห่งนี้