ศาล รธน. นัด 21 ม.ค.69 ชี้ขาดปม "ภูมิธรรม-ทวี" ใช้อำนาจแทรกแซงสอบคดีฮั้ว สว.
วันนี้ (24ธ.ค.68) ที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ หลังคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน 6 ปากในคดีที่ประธานวุฒิสภาส่งคำร้องของสมาชิกวุฒิสภาที่ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 42 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม และ พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม สิ้นสุดลงเฉพาะตัวหรือไม่ เนื่องจากผู้ถูกร้องทั้งสองขณะดำรงตำแหน่งได้ใช้กรมสอบสวนคดีพิเศษเป็นเครื่องมือแทรกแซงกระบวนการตรวจสอบการเลือกสมาชิกวุฒิสภาของ กกต. อันเป็นการกลั่นแกล้ง กดดัน ข่มขู่ และครอบงำสมาชิกวุฒิสภาซึ่งเป็นฝ่ายนิติบัญญัติ จนถือได้ว่าผู้ถูกร้องทั้งสองไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์และมีพฤติกรรม เป็นการฝ่าฝืน ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 160 (4) และ (5) เป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีของผู้ถูกร้องทั้งสองสิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เสร็จสิ้นแล้ว
ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ แจ้งให้คู่กรณียื่นคำแถลงปิดคดีเป็นหนังสือภายในวันที่ 6 ม.ค. 69 หากไม่ยื่นทันเวลา ถือว่าไม่ติดใจ และศาลรัฐธรรมนูญนัดแถลงด้วยวาจา ในวันที่ 21 ม.ค.2569 เวลา 09.30 น. และนัดคู่กรณีฟังคำวินิจฉัยในวันเดียวกัน เวลา 15.00 น.
ทั้งนี้ หลังการไต่สวนกว่า 3 ชั่วโมง นายภูมิธรรม เวชยชัย อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย พ.ต.อ.ทวีสอดส่อง ได้ลงมาจากห้องพิจารณาพร้อมกัน จากนั้นทั้งคู่ให้สัมภาษณ์ โดยนายภูมิธรรม กล่าวว่า ชี้แจงศาลรัฐธรรมนูญก็ไม่มีอะไร เราได้บันทึกเอกสารส่งครบถ้วน เรียบร้อยแล้ว ครั้งนี้เป็นการสอบถามเพิ่มเติม ซึ่งตนได้ชี้แจงว่าบทบาทหน้าที่ของเราอยู่ตรงไหน และพูดถึงข้อเท็จจริงในการปฏิบัติ
เมื่อถามถึงเหตุผลในการเปลี่ยนวาระการประชุมครั้งที่สอง และมีการพิจารณามาตรา 21 ( 1 ) และ ( 2 ) นายภูมิธรรม กล่าวว่า เรื่องนี้ตนก็ได้ชี้แจง ว่าในการประชุมครั้งที่สอง มีการพูดคุยและเห็นว่าเพื่อให้มีความรอบคอบมากขึ้น จึงให้ส่งไปที่อนุกรรมการฯ พิจารณา ทั้งนี้ตนไม่ได้เห็นรายละเอียดแต่อยู่ในเอกสารที่รายงานไปแล้ว
"ผมสบายใจตั้งแต่ก่อนที่จะมาให้ถ้อยคำแล้ว เพราะมันไม่มีอะไร เราก็ทำหน้าที่ของเรา จากนี้ก็อยู่ที่ศาลท่านจะวินิจฉัย"
เมื่อถามย้ำว่าคดีทุจริตเลือก สว. ยังเป็นอำนาจที่ดีเอสไอจะดำเนินการได้หรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ก็เป็นอำนาจหน้าที่ของแต่ละฝ่าย โดยที่ไม่ไปก้าวก่ายอำนาจของกันและกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังการให้สัมภาษณ์นายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือ ทนายอั๋นบุรีรัมย์ และประชาชน ได้นำดอกไม้มามอบ เพื่อให้กำลังใจกับ นายภูมิธรรม และพ.ต.อ.ทวี สอดส่องด้วย
ด้าน พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร สมาชิกวุฒิสภา กล่าวว่า คนดีต้องอยู่ในสังคม ส่วนหลักฐานที่ดีเอสไอ.กล่าวอ้างนั้นมีความแน่นหนาพอหรือไม่นั้น เป็นเรื่องการพิจารณาของศาล
เมื่อถามว่าสรุปแล้วคดีฮั้วสว.เป็นอำนาจการพิจารณาของดีเอสไอใช่หรือไม่ พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ กล่าวว่า ใครมีอำนาจหน้าที่อะไรก็ทำไป

















