"บิ๊กเล็ก" รับสะเทือนใจ หลังเสียทหารกล้าในสมรภูมิ เผย ยังไม่รีบนำร่าง 2 ทหารกล้าออก เกรงสูญเสียลูกน้องเพิ่ม

วันนี้ (18 ธันวาคม 2568) พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า ตนจะไปร่วมงานศพของทหารกล้าทุกนายที่พลีชีพในสมรภูมิปะทะระหว่างไทยกับกัมพูชา พร้อมก็บอกว่าไปเห็นครอบครัวแล้วก็สะเทือนใจ พอได้รับรายการงานว่าแต่ละวันมีทหารเสียชีวิตไปเท่าไหร่ ตนก็สะเทือนใจ ดังนั้น อะไรที่เราพอจะทำได้ในฐานะผู้บังคับบัญชาที่อยู่ด้านหลัง ก็ต้องทำ แต่ที่ไม่ได้ไปตรวจเยี่ยมในส่วนของกองทัพภาคที่ 2 เพราะไม่อยากเป็นภาระ ไปแล้วก็ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่ให้กำลังใจ รอให้สถานการณ์คลี่คลาย ส่วนการเดินทางไปกองทัพภาคที่ 1 ก็ได้ไปคุยกับแม่ทัพภาค 1 และไปพูดคุยกับประชาชนที่จังหวัดสระแก้ว ตนวางขอบเขตเอาไว้ว่าจะทำอย่างไรให้ดีขึ้นบ้าง

ส่วนกรณีทหาร 2 นายที่พลีชีพ ขณะปะทะกับกัมพูชาที่เนิน 350 และยังไม่สามารถนำร่างออกมาได้นั้น พลเอกณัฐพล ตอบว่า สิ่งที่ผู้สื่อข่าวถามอยากให้นึกใจตนด้วย ว่า จะรู้สึกเสียใจขนาดไหน ตนก็อยากได้ร่างกลับมา แต่หากไปเร่งก็จะทำให้ลูกน้องอีกส่วนหนึ่งสูญเสียไปอีก พร้อมย้ำว่า อยากได้ร่างทหารกลับคืนมาสุดๆ เพราะมีทั้งความต้องการและความรับผิดชอบ จึงอยากจะให้เข้าใจเรื่องนี้ด้วยด้วย ซึ่งหากดูท่าทีของกัมพูชาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม-กรกฎาคมที่ผ่านมา คือสิ่งที่ตนคิดตั้งแต่แรกว่าไม่อยากให้มีการปะทะกัน เพราะจะเกิดการสูญเสีย ซึ่งการสูญเสียในปัจจุบัน มันคือภาพในสมองที่คิดมาตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว ถึงบอกกับสื่อว่าการรบครั้งนี้มันจะหนัก เพราะการรบที่เร็วและได้เปรียบ เราต้องมีกำลังเหนือกว่ามากมาย และ กำลังต้อง “เป็นต่อมาก” แต่ครั้งนี้กำลังของเราใกล้เคียงกัน เพราะฉะนั้นมันถึงทำให้การรบยืดเยื้อและมีความสูญเสียมาก ซึ่งตนเคยเป็นเจ้ากรมยุทธการมาเก่า จึงเข้าใจและจินตนาการภาพออกว่าถ้าเกิดการรบเมื่อไหร่ นี่คือสิ่งที่จะเกิดขึ้น ก็คือการสูญเสีย เพราะฉะนั้นตนถึงดำเนินการตามขั้นตอนเจรจาแล้ว แต่ก็ไม่ได้ผล มาถึงปะทะกันแล้ว ตนก็คิดว่าปะทะกันไป จากนั้นก็มีการเจรจากันใหม่ เพื่อให้การประทะยุติ จะได้ไม่เกิดการสูญเสีย แต่กัมพูชาไม่ได้แสดงการตอบรับเลย ซึ่งมาเฟสที่ 3 ตนก็ไม่เอาแล้ว ปะทะกันเลย ตนก็ต้องให้มีการปะทะจนถึงที่สุด จนกัมพูชาไม่มาระรานกับเราอีกเลย นี่คือเป็นการดำเนินการตามขั้นตอน พอมาถึงตอนนี้แล้วต้องทำให้สำเร็จ ต้องปกป้องอธิปไตยให้ได้ และ ปกป้องผลประโยชน์ของชาติให้ได้ และเขาจะต้องไม่กลับมาระรานอีก จึงขอใช้คำว่าจนกว่ากัมพูชาจะสิ้นสุดความเป็นปฏิปักษ์ คือถ้าเขาถอนกำลังกลับเอง ก็ควรจะต้องจบ