นายกฯ ร่วมกิจกรรมเคารพธงชาติ เนื่องในวันพระราชทานธงชาติไทย กำชับ ผบ.เหล่าทัพ ดูแลกำลังพล ย้ำไฟเขียวให้ทหารตัดสินใจมาตรการตอบโต้ชายแดน
วันที่ 29 ก.ย. 2568 เมื่อเวลา 08.00 น. ที่บริเวณเสาธง หน้าตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นประธานในพิธีเคารพธงชาติ และร้องเพลงชาติไทย เนื่องในวันพระราชทานธงชาติไทย 28 กันยายน ประจำปี 2568 (Thai National Flag Day) โดยมีนายพิพัฒน์ รัชกิจปราการ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คมนาคม นายโสภณ ซารัมย์ รองนายกรัฐมนตรี นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาส รองนายกรัฐมนตรี และรมว. คลัง ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และรมว.เกษตรและสหกรณ์ นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมถึง รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ทั้ง 4 คน ได้แก่ น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี นายสันติ ปิยะทัต นายนภินทร ศรีสรรพรางค์ และนายภราดร ปริศนานันทกุล พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ ทำเนียบรัฐบาล เข้าร่วมกิจกรรม
ทั้งนี้ เมื่อนายกฯ และคณะ มาถึงบริเวณเสาธง หน้าตึกสันติไมตรี ได้เข้าประจำจุดยืน เจ้าหน้าที่ตำรวจผู้เชิญธง เชิญธงชาติไปประจำ ณ เสาธง และร่วมกันยืนตรงเคารพธงชาติ และร้องเพลงชาติไทย จากนั้นถ่ายภาพหมู่ร่วมกัน
สำหรับวันที่ 28 ก.ย. ของทุกปี วันพระราชทานธงชาติไทย (Thai National Flag Day) เป็นวันที่น้อมรำลึกถึงโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ประกาศพระราชบัญญัติแก้ไขพระราชบัญญัติธง พ.ศ. 2460 โดยมีสาระสำคัญ คือ การประกาศให้ธงไตรรงค์เป็นธงชาติไทยสืบต่อมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งได้มีการประกาศไว้ ณ วันที่ 28 ก.ย. 2460 ต่อมาสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เสนอให้วันที่ 28 ก.ย. ของทุกปี เป็นวันพระราชทานธงชาติไทย (Thai National Flag Day) โดยให้เริ่มในวันที่ 28 ก.ย. 2560 เป็นปีแรก
อย่างไรก็ตาม กิจกรรมครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความภาคภูมิใจของคนในชาติ และเพื่อแสดงความเคารพและรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงพระราชทานธงไตรรงค์เป็นธงชาติไทย เมื่อวันที่ 28 ก.ย. 2460
จากนั้น นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการเลือกตั้งซ่อมที่จังหวัดศรีสะเกษว่า ต้องขอบคุณประชาชนชาวภูสิงห์ และชาวอำเภอขุนหาญ ที่ได้มอบความไว้วางใจให้กับ นางสาวจินณ์ตวรรณ ไตรสรณกุล มาทำหน้าที่สภาผู้แทนราษฎร และขอให้คำสัญญาว่าจะไม่ทำให้ผิดหวัง
เมื่อถามถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ในการที่จะลงพื้นที่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตอนนี้พื้นที่ที่มีความตรึงเครียดอยู่เริ่มตั้งแต่จังหวัดที่มีแนวชายแดนติดต่อกับกัมพูชาทั้งหมด ซึ่งตนได้มีการประสานกับฝ่ายกองทัพ และเราจะเสริมฝ่ายตำรวจ กับฝ่ายปกครองเข้าไปด้วย ซึ่งเมื่อคืนนี้ก็ได้มีการพูดคุยกับ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) และได้รับรายงานว่าจะมีการเสริมตำรวจตระเวนชายแดนเข้าไปด้วย เพื่อช่วยพี่น้องทหาร รวมถึงตนได้มีการหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ ผบ.เหล่าทัพ ที่รับผิดชอบอยู่ตรงนั้น ซึ่งกำลังจะจัดให้มีการพบกัน ทั้งฝ่ายปกครอง ฝ่ายตำรวจ และฝ่ายทหาร เพื่อแบ่งแยกหน้าที่ในการดูแลประชาชน หากสถานการณ์ตึงเครียดเราก็ต้องมีการเตรียมความพร้อมในส่วนของศูนย์อพยพ หรือศูนย์พักพิง เพื่อทำให้เกิดความมั่นใจว่าประชาชนของเราปลอดภัย แต่การอพยพออกมาแล้วนั้น ตนเองก็ได้ให้เป้าหมายไปว่า “สิ่งที่ประชาชนจะรู้สึกแตกต่างต้องมีเพียงจุดเดียวก็คือ ไม่ได้นอนที่บ้าน การใช้ชีวิต คุณภาพชีวิต อาหารการกิน เครื่องนุ่งห่ม ที่หลับที่นอนจะต้องมีมาตรฐาน อินเตอร์เน็ตทางดีอีจะต้องมีรถโมบายเข้าไป เพื่อให้พวกเขาสามารถลดความตึงเครียด และให้ความร่วมมือกับทางการได้มากที่สุด”
เมื่อถามถึงมาตรการตอบโต้ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนเองได้ให้ทางกองทัพมีอำนาจในการตัดสินใจในเรื่องของการรักษาอธิปไตยอย่างเต็มที่
ส่วนกรณีที่ทหารขาดแคลนอาหารและต้องกินมาม่ากับปลากระป๋องนั้น มีได้รับรายงานบ้างหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนเองได้มีการพูดคุยกับ ผบ.เหล่าทัพ ซึ่งยังไม่ได้รับรายงานเรื่องนี้ แต่ก็แจ้งไปแล้วว่าหากขาดเหลือสิ่งใด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่จะต้องเข้าไปดูแลกำลังพลให้มีขวัญกำลังใจที่สมบูรณ์พร้อมรบ ก็ขอให้แจ้งมาเราจะสนับสนุนในทุกๆ วิถีทาง