นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ แจงรัฐธรรมนูญไม่บังคับแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี แสดงวิสัยทัศน์ ในการโหวตวันนี้ 5 ก.ย. 68
ที่รัฐสภา นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎรราษฎร กล่าวถึงการโหวต นายกรัฐมนตรีคนใหม่ ในวันนี้ (5 ก.ย.68) ซึ่งจะมีการเสนอแคนดิเดตนายกฯ 2 คน จะสามารถแสดงวิสัยทัศน์ได้หรือไม่ ว่า ผู้ได้รับการเสนอชื่อ จะแสดงวิสัยทัศน์หรือไม่แสดงก็ได้ เนื่องจากไม่มีข้อบังคับ และรัฐธรรมนูญไม่ได้กำหนดไว้ ในการเลือกนายกฯ
ตามรัฐธรรมนูญฉบับนี้ คนแรกที่สภาฯ ทำหน้าที่เลือกคือ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ได้มีการแสดงวิสัยทัศน์ เพราะไม่ได้เป็น สส. เป็นคนนอกสภา เช่นเดียวกับนายเศรษฐา ทวีสิน และนางสาวแพรทองธาร ชินวัตร ที่เป็นคนนอกสภา เช่นกัน
ดังนั้น การแสดงวิสัยทัศน์ ขึ้นอยู่กับผู้ถูกเสนอชื่อ ว่า เป็นบุคคลในสภา หรือนอกสภา โดยในครั้งที่เลือกนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ มีการแจ้งความจำนงว่า เมื่อเสนอชื่อแล้ว จะขอแสดงวิสัยทัศน์ สภา ก็ให้เวลาแสดงวิสัยทัศน์ไม่เกิน 10 นาที
ประธานสภาฯ บอกอีกว่า ส่วนการอภิปรายหรือแสดงความเห็นต่อที่ประชุม สามารถอภิปรายได้เฉพาะประเด็นเหตุผลของการเสนอชื่อ แต่ไม่สามารถอภิปรายในประเด็นคุณสมบัติ ความรู้ความสามารถ หรือปัญหาได้ และไม่ใช่อภิปรายว่า บุคคลนั้นไม่ดีอย่างไร ทั้งนี้ เมื่อเลือกนายกฯ และมีรัฐบาลช่วงของการแถลงนโยบาย สส.สามารถอภิปรายได้เต็มที่
ส่วนสถานะตำแหน่งประธานสภา และรองประธานสภา หลังการเปลี่ยนขั้วรัฐบาลนั้น ต้องไปดูรัฐธรรมนูญ แต่ที่ผ่านมาในรัฐธรรมนูญปี 40 และ 50 ระบุว่า ประธานสภาจะต้องเลือกจากสมาชิกสภานั้น ๆ การพ้นจากตำแหน่ง มีแค่ 2 ประการเท่านั้น คือลาออก หรือไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้
ประธานสภา ยังยกตัวอย่าง เมื่อปี 2540 ว่า ตนเป็นประธานสภา แต่มีการเปลี่ยนขั้วรัฐบาล จากพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ มาเป็นนายชวน หลีกภัย ซึ่งขณะนั้นรองประธานสภา 2 คนทำหน้าที่จนสิ้นวาระ แต่ตนลาออกก่อนหมดวาระ 6 เดือน เพราะทางพรรคเลือกตนเป็นเลขาธิการพรรค ซึ่งตนมองว่า เลขาธิการพรรคคือแม่บ้านพรรคการเมือง ต้องบริหารพรรค พร้อมบริหารสภา กลัวว่าจะเสียความเป็นกลาง จึงตัดสินใจลาออก