"ไอติม พริษฐ์" ถามอัศวินม้าขาวคือใคร? ย้ำ "ภูมิธรรม" ถ้าจะยุบสภาก็ยุบเลย

วันที่ 2 ก.ย. 2568 เวลา 12.40 น. ที่พรรคประชาชน นายพริษฐ์ วัชรสินธุ หรือ ไอติม สส.พรรคประชาชน ในฐานะโฆษกพรรคให้สัมภาษณ์ ก่อนหารือและกำหนดแนวทางการโหวตเลือกแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ว่า อย่างที่หลายคนได้ทราบอยู่ในขั้นตอนที่พรรคประชาชนดำเนินการรับฟังความเห็นจากทุกภาคส่วน โดยเมื่อวานเป็นนัดแรกของการประชุมสส. คู่ขนานกันก็มีการคุยกับทีมในพื้นที่ ขณะเดียวกันได้เปิดให้สมาชิกพรรคจำนวน 100,000 คนทั่วประเทศสามารถแสดงความเห็นต่อสถานการณ์นี้เข้ามาได้ทางช่องทางออนไลน์ ซึ่งล่าสุดมีจำนวนสมาชิกที่ตอบเข้ามาแล้วเกิน 10,000 คนหรือ 10% ของสมาชิกทั่วประเทศ ย้ำว่านอกเหนือจากสมาชิกพรรคแล้ว ประชาชนทั่วไปก็ไม่ได้ละเลย สามารถแสดงความคิดเห็นมาผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย

นายพริษฐ์ ย้ำว่าสิ่งที่เป็นทางออกของประเทศ คือการยุบสภาและการเลือกตั้งใหม่โดยเร็ว ปัจจุบันอำนาจในการยุบสภาอยู่ในมือของพรรคเพื่อไทยและรักษาการนายกรัฐมนตรี หากพรรคเพื่อไทยจะใช้อำนาจที่ตัวเองมีในการทำให้เกิดการยุบสภาและเลือกตั้งใหม่โดยเร็ว โปรดดำเนินการเลย หากเพื่อไทยไม่ทำพรรคประชาชนจึงจำเป็นต้องใช้กระบวนการเลือกนายกคนใหม่ เพื่อคืนอำนาจสู่ประชาชนโดยเร็วที่สุด ดังนั้นหลักสำคัญคืออำนาจถึงมือประชาชนโดยเร็วที่สุด มีการเลือกตั้งโดยเร็วที่สุด

ถามถึงกรณีที่นายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตลำดับที่ 3 ออกมาบอกว่าทางพรรคเพื่อไทยยังไม่มีการพูดคุย และอาจมีอัศวินขี่ม้าขาว นายพริษฐ์ ย้ำว่าอำนาจอยู่ในมือของพรรคเพื่อไทยในเวลานี้ นายภูมิธรรม เวชยชัย ในฐานะรักษาการนายกรัฐมนตรีที่มีอำนาจ จะต้องตอบให้ชัด เมื่อมีการพูดถึงการยุบสภาหมายถึงจะดำเนินการเลยก่อนมีการดำเนินการเลือกนายกคนใหม่ หรือจะรอให้มีการเลือกนายกคนใหม่ก่อน ส่วนตัวมองว่าหากนายภูมิธรรมมองตรงกับสังคมและมองตรงกับเราว่าการเลือกตั้งใหม่เป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับประเทศก็ดำเนินการได้เลยไม่ต้องรอการเลือกนายกคนใหม่ แต่เมื่อเช้านายภูมิธรรมได้ให้สัมภาษณ์ประมาณว่ารอให้มีการตัดสินใจก่อนว่าพรรคประชาชนจะไปในทิศทางไหน จะเลือกใครเป็นนายก เมื่อเลือกนายกคนใหม่เข้ามาแล้วถึงจะมีการพิจารณาเรื่องการยุบสภา หากเป็นแบบนี้ส่วนตัวมองว่าไม่ได้เอาประเทศตัวตั้ง หากเอาประเทศเป็นตัวตั้ง ต้องการให้มีการเลือกตั้งใหม่โดยเร็วก็ยุบสภาได้เลย แต่หากเป็นเช่นนี้ประชาชน สังคมมีสิทธิ์ตั้งคำถามได้ ว่าท้ายที่สุดแล้วคุณกำลังเอาอำนาจของตัวเองเป็นตัวตั้ง รอจนวินาทีสุดท้ายที่อาจจะไม่ได้อยู่ในอำนาจแล้วจึงจะมีการยุบสภา ดังนั้นขอย้ำว่าต้องการเห็นการยุบสภาและเลือกตั้งใหม่โดยเร็ว อำนาจอยู่ที่พรรคเพื่อไทยดำเนินการได้เลย ไม่ต้องรอเลือกนายกคนใหม่

เมื่อถามถึงการดำเนินการเร่งเลือกนายกยุบสภาโดยเร็ว นายพริษฐ์ ยังย้ำจุดยืนเดิม คือต้องการเห็นการเลือกตั้งใหม่โดยเร็ว อำนาจอยู่ที่พรรคเพื่อไทยพรรค และเวลานี้หากจะยุบก็สามารถยุบได้เลย หากไม่ยุบถึงจำเป็นจะใช้กระบวนการการเลือกนายกคนใหม่ มาพิจารณาให้มีการเลือกตั้งใหม่โดยเร็ว ซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไข 3 ข้อตามที่พรรคได้ประกาศเมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมา

ส่วนประเด็นคำถามเกี่ยวกับนายชัยเกษม
นายพริษฐ์ บอกว่า ประเด็นแรกที่นายชัยเกษมพูดถึงอัศวินขี่ม้าขาว ก็สร้างความสับสนพอสมควร ต้องไปถามทางพรรคเพื่อไทยว่าหมายความว่าอย่างไร เพราะที่ผ่านมาก็เข้าใจมาตลอด ว่า 2 คนที่เสนอตัวเข้าเป็นนายกฯ มีนายชัยเกษม และนายอนุทิน ชาญวีรกูล หากจะมีบุคคลอื่นเข้ามาด้วย ดังนั้นต้องตอบให้ชัดว่าหมายถึงใคร จะหมายถึงพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือไม่ ที่อยู่ในบัญชีนายกรัฐมนตรี หรือหมายถึงการใช้กลไกนอกระบอบประชาธิปไตย ที่อาจจะทำให้มีนายกฯ ที่ไม่ได้อยู่ในบัญชีเข้ามา ซึ่งเป็นสิ่งที่พรรคเพื่อไทยจะต้องรีบชี้แจงว่าหมายถึงอะไร

 

 

นายพริษฐ์ กล่าวว่า ส่วนประเด็นหนึ่งที่ปรากฏออกมาเป็นเหมือนที่ผมได้พยายามตั้งคำถามเอาไว้ในการพูดคุยกันที่นี่ในวันนั้นที่มีการพูดคุยรายละเอียดหลายอย่างเพื่อเช็คว่าพรรคเพื่อไทยเข้าใจเงื่อนไข 3 ข้อของพรรคประชาชนจริงหรือไม่ ซึ่งในวันนั้นได้ถามว่า นายชัยเกษมไม่อยู่ในห้องจะมั่นใจได้อย่างไรว่านายชัยเกษมเข้าใจตรงกัน ซึ่งตัวแทนพรรคเพื่อไทยได้ตอบรับผมว่า นายชัยเกษม จะเห็นตรงกับจุดยืนของพรรคเพื่อไทยทั้งหมด ไม่ต้องกังวลใจ แต่มาวันนี้เท่าที่ฟังนายชัยเกษมพูดส่วนตัวมองว่าก็มีช่องว่างอยู่เหมือนกันกับสิ่งที่คุณชัยเกษมพูดและสิ่งที่ตัวแทนพรรคเพื่อไทยพูดในวันนั้น ต้องฝากพรรคเพื่อไทยให้ความชัดเจนในเรื่องนี้

นายพริษฐ์ บอกว่า ส่วนเรื่องศาล อย่างไรคงมีคำชี้แจงจากศาลโดยเร็วที่สุด แต่จากที่เช็คเบื้องต้นมีข้อกฎหมายที่เขียนเอาไว้ว่าทางตุลาการที่จะพ้นจากตำแหน่งต้องปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่าตุลาการคนใหม่มีการถวายสัตย์เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ มองว่าหากเป็นจริงกระบวนการก็ไม่มีเรื่องที่ทำให้กระบวนการมีข้อกังวลแต่อย่างใด
ส่วนประเด็นอื่นต้องกลับที่ทางนายภูมิธรรม ว่าตกลงที่พูดเรื่องยุบสภาออกมาเมื่อวานนี้ หมายถึงจะยุบสภาก่อนการเลือกนายกคนใหม่ใช่หรือไม่ หากเป็นเช่นนั้นก็สามารถดำเนินการได้เลย แต่หากไม่เป็นเช่นนั้นถึงจะเข้าขั้นตอนที่พรรคประชาชนต้องพิจารณาว่าจะใช้วิธีการเลือกนายกคนใหม่อย่างไร เพื่อให้มีการคืนอำนาจให้กับประชาชนโดยเร็ว

การจับสัญญาณเรื่องชัยเกษมเมื่อเช้านี้ มีขั้วการเมืองภายในพรรคหรือไม่ นายพริษฐ์ บอกว่า เรื่องขั้วการเมืองภายในพรรคเพื่อไทยผมคงตอบแทนไม่ได้ แต่เข้าใจว่าบ่ายนี้สื่อมวลชนไปที่พรรคเพื่อไทยอยู่แล้วก็สามารถถามได้ และหากดูกันตามข้อเท็จจริงแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทยมี 3 คน เมื่อ 2 คนพ้นจากตำแหน่ง โดยธรรมชาติคำถามนี้ไม่ควรจะเป็นคำถามตั้งแต่ต้น แต่หากเป็นคำถามได้ จะต้องมีความคลุมเครือบางอย่าง จะต้องให้พรรคเพื่อไทยให้ความกระจ่าง แต่ในมุมของพรรคประชาชนได้รับการยืนยันจากตัวแทนพรรคเพื่อไทยว่าจะเสนอชื่อนายชัยเกษมเท่านั้น และนายชัยเกษมเห็นด้วยกับเงื่อนไขทั้ง 3 ข้อ แต่เมื่อเช้าต้องยอมรับว่าหากนำคำพูดของนายชัยเกษมไม่ว่าพรรคจะว่าอย่างไร ตัวเขาเองในฐานะผู้เสนอตัวเป็นนายกฯจะต้องมากลั่นกรองและทำความเข้าใจอีกครั้งหนึ่ง

อย่างไรก็ตามจะเข้าที่ประชุมในบ่ายวันนี้ ทุกอย่างไม่ได้จบในที่ประชุมสส. ในวันนี้จะได้ฟังความเห็นในส่วนของสส.กันอย่างเต็มที่ แต่จะต้องนำมาประกอบกับแม่น้ำสายอื่นๆ ทั้งเครือข่ายในจังหวัด พนักงานพรรค และการเปิดให้สมาชิกทั่วประเทศ 100,000 คน สามารถมาร่วมแสดงความเห็นได้ ทั้งนี้ใครก็ตามที่เป็นสมาชิกของพรรคประชาชน 100,000 คนสามารถเข้ามาผ่านทางลิงก์ไลน์ของพรรค เพื่อร่วมให้ความคิดเห็นได้

เมื่อถามถึงกรอบเวลาว่าพรรคจะมีการตัดสินใจเมื่อไหร่ นายพริษฐ์ บอกว่า เข้าใจว่ากระบวนการทุกอย่างจะต้องดำเนินการต่อไปตามกฎหมาย ซึ่งพรรคประชาชนไม่ได้ทำให้กระบวนการล่าช้ากว่าที่กฎหมายกำหนด เราจะต้องตัดสินใจอย่างรอบคอบ ซึ่งเป็นการตัดสินใจที่สำคัญกับอนาคตของประเทศ

เมื่อถามว่าขณะนี้รอความชัดเจนจากนายภูมิธรรมว่าจะชี้แจงเรื่องการยุบสภาว่าอย่างไรหรือรอผลการวินิจฉัยคดีประชามติวันที่ 10 กันยายนนี้ นายพริษฐ์ กล่าวว่า ผลคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญวันที่ 10 เป็นสิ่งที่คาดว่าจะเกิดขึ้นอยู่แล้ว ไม่เคยมีการสื่อสารจากพรรคว่าจะต้องรอตรงนั้น แต่แน่นอนผลตรงนั้นก็เป็นตัวแปรหนึ่งที่ทำให้เราเห็นภาพชัดขึ้น ว่ากระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เป็นอย่างไร ในส่วนของการยุบสภาในฐานะรักษาการนายกรัฐมนตรี อำนาจอยู่ในมือนายภูมิธรรม หากจะทำ ก็ทำได้เลย แต่หากไม่ทำนาฬิกาก็เดินต่อไปเรื่อยๆ

นายพริษฐ์ ยืนยันว่าถึงขณะนี้ยังไม่มีข้อสรุปในทางใด วันนี้จะรับฟังในที่ประชุมสส. และรับฟังความเห็นอื่นๆ อย่างเต็มที่ และทางหัวหน้าพรรคก็ยืนยันไปแล้วว่าไม่เกี่ยวกับคดีข้องแน่นอน

เมื่อถามถึงกรณีที่อาจจะมีสส. ลาออกหากมีการหนุนพรรคใดพรรคหนึ่ง นายพริษฐ์ ย้ำว่า ไม่มีการแสดงออกเช่นนั้น และคิดว่าพวกเราในฝั่งของสส.กว่า 140 คน เราเคารพความเห็นที่แตกต่างหลากหลายของทุกฝ่าย และเข้าใจดีว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่าหนักใจที่จะต้องพิจารณาในประเด็นนี้ แม้จะมีความเห็นต่างแต่เราเคารพซึ่งกันและกัน เข้าใจในความหนักใจของทุกคนและเดินหน้าอย่างเป็นเอกภาพ

ส่วนประเด็นที่มีสส.ในพรรคออกมาแสดงความคิดเห็น นายพริษฐ์ มองว่า เป็นความเห็นส่วนตัวของสส. หากพูดในเชิงหลักการ ต้องกลับมาที่เงื่อนไข 3 ข้อของพรรค ข้อที่ 3 คือเราจะทำหน้าที่ฝ่ายค้านเต็มตัว ดังนั้นยืนยันว่าเราจะทำหน้าที่ในการตรวจสอบรัฐบาลที่เป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อยอย่างเต็มที่ หากมีการกระทำโดยใครก็ตามในรัฐบาลที่เป็นการใช้อำนาจโดยมิชอบในการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม เราก็พร้อมใช้กลไกสภาในการตรวจสอบ รวมถึงกลไกการอภิปรายไม่ไว้วางใจ และการที่เราคงสถานะในฐานะฝ่ายค้านเต็มตัว ทำให้มีพื้นที่เต็มที่ในการตรวจสอบการกระทำของรัฐบาลในทุกๆ เรื่อง