ประกาศจุดยืนชัด! "อรรถกร" ค้านใช้สารเร่งเนื้อแดงในประเทศ ชี้ต้องยึดประโยชน์-ความปลอดภัยของคนไทยเป็นหลัก เชื่อทีมเจรจาดีลภาษีสหรัฐฯ จะคำนึงถึงผลกระทบในทุกมิติ

อีเสี้ยม ขยี้เกษตร เข้าเวรตรวจข่าว เช้านี้ตกใจแทบสำลักกาแฟ มาแล้ว! นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รมว.เกษตรฯ ตลอดระยะเวลาประมาณ 2 - 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา มีคําถามถึงจุดยืนของตนในฐานะผู้ที่กำกับดูแลกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกรมปศุสัตว์ ว่ามีความเห็นอย่างไรต่อการใช้สารเร่งเนื้อแดงในประเทศไทย

ตนได้สอบถามจากเพื่อน สส.จากหลายพรรคการเมือง ซึ่งหลายคนให้ความกังวลต่อการใช้สารเร่งเนื้อแดงในเนื้อสุกร หรือในเนื้อโคจะเกิดอะไรขึ้น จากรายงานหรือผลการศึกษาต่าง ๆ ยืนยันชัดเจนว่า สารเร่งเนื้อแดงหลายตัวจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพของผู้บริโภค เช่น การที่ทำให้เกิดภาวะหัวใจหยุดเต้นโดยเฉพาะในเด็กและผู้มีครรภ์ ตนในฐานะที่เป็น รมว.เกษตรฯ และคุณพ่อก็เคยดำรงตำแหน่ง รมช.เกษตรฯ กำกับดูแลกรมปศุสัตว์โดยตรง และที่สำคัญประธานที่ปรึกษาของพรรคกล้าธรรม ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สมัยที่เป็น รมว.เกษตรฯ ต่อสู้กับการใช้สารเร่งเนื้อแดงมาตลอด โดยกรมปศุสัตว์ได้ประกาศแคมเปญ และดำเนินนโยบายที่มีชื่อว่า อวสานสารเร่งเนื้อแดงในประเทศไทย ก็มีการไล่จับ ไล่สืบ ไล่ปรับลงโทษคนที่แอบลักลอบใช้สารเร่งเนื้อแดง

วันนี้ นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รมว.เกษตรฯ ได้ออกมาประกาศถึงจุดยืน ว่า “ผมยืนยันในจุดยืนว่า ด้วยความเป็นห่วงสุขภาพคนไทยทั้งประเทศ ผมไม่เห็นด้วยกับการอนุญาตให้มีการใช้สารเร่งเนื้อแดงในเนื้อสัตว์ในประเทศไทย เพราะเรามั่นใจว่า สารเร่งเนื้อแดงจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพของผู้บริโภคโดยตรง” เมื่อถามว่าจุดยืนนี้อาจจะไม่สอดคล้องกับแนวทางของทีมไทยแลนด์ที่ไปเจรจาแก้ปัญหาภาษีนำเข้าสหรัฐฯ ไหม นายอรรถกร กล่าวว่า ตนให้กําลังใจทีมเจรจาเสมอ และก็พร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับทีมเจราจา แต่ในฐานะที่เป็นเจ้ากระทรวงดูแลกำกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เราต้องรักษาจุดยืนของเรา แต่ตนยืนยันว่า ทุกความเห็นที่เราได้มอบให้กับทีมเจรจาไปก่อนหน้านี้ ตนยึดมั่นในประโยชน์และความปลอดภัยของพี่น้องชาวไทยเป็นหลัก

“ผมเห็นในความตั้งใจของทีมเจรจาที่ต้องการให้ได้ข้อเสนอที่ดีที่สุดสำหรับประเทศ แต่ท้ายที่สุดแล้ว ผมเชื่อว่าทีมเจรจาจะคำนึงถึงผลกระทบในมิติต่าง ๆ ไม่ใช่มิติด้านความปลอดภัยอย่างเดียว แต่เป็นทุกมิติที่จะส่งผลกระทบต่อพี่น้องคนไทย” นายอรรถกร กล่าวทิ้งท้าย

อีเสี้ยม ขยี้เกษตร อ่านแล้วรอบนี้ พญานาค 1 รมว.เกษตรฯ มาแบบดุดันเป็นพิเศษ พร้อมท้าชนทุกคน คงได้ไฟเขียวจาก ท่านข้งเบ้ง “ธรรมนัส” เป็นแน่ เพราะไม่งั้นคงไม่ดุดันขนาดนี้ จากการวิเคราะห์เนื้อข่าว ผมท้าชน ประกาศชัดว่าไม่เห็นด้วยทีมไทยแลนด์ที่ไปเจรจาแก้ปัญหาภาษีนำเข้าสหรัฐฯ ในบางเรื่อง แต่ถ้าเป็นอีเสี้ยม ขยี้เกษตร จะประกาศชัดเลยว่าจะไม่ยอมให้เนื้อหมูที่มีสารเร่งเนื้อแดงจากสหรัฐฯ เข้าสู่ประเทศไทยแม้สักขีดเดียว ไม่ยอมเอาสุขภาพประชาชนไทยไปแลกแน่นอน บางทีการสื่อสารเอาง่ายๆ ตรงๆ ไม่ใช่ว่า “ทำงานแบบขับเคลื่อนด้วยแรงด่าของประชาชน”

เหมือนเช่นเคย ปิดท้ายด้วยเสียงซุบซิบจากเหล่าข้าราชการถึงความไม่ชอบมาพากลของหน่วยงานย่านบางขุนนนท์ ที่มีเรื่องร้องเรียนมาที่ อีเสี้ยม ขยี้เกษตร ว่าขนาดนี้ปัญหาในหน่วยงานเยอะมาก จากที่มีคนใหญ่คนโตอยากมานั่ง 2 ตำแหน่งควบ และรวมถึงปัญหาการจัดซื้อจัดจ้างที่ไม่ชอบมาพากล รื้อถึงขั้นมีข้าราชการบางคนเครียดถึงเป็นภาวะซึมเศร้าเลยทีเดียว เบาได้เบาพี่เอย ตำแหน่งก็อยากได้ ตึกก็อยากสร้าง ข้าราชการเขาเริ่มจะไม่ไหวจะจบไม่สวยนะท่าน อีเสี้ยม ขยี้เกษตร ฝากให้คิด...