"ภูมิธรรม" ขอ ทหารไทย-คนไทย อดทน อดกลั้น เขมรยั่วยุ โยนเป็นอำนาจ "แม่ทัพภาคที่2" ดูแลปราสาทตาเมือนธม จะเปิด-ปิดบางส่วน
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเหตุความวุ่นวายที่ปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ เมื่อวานนี้ (15 ก.ค. 68) ว่า เป็นเรื่องที่ไม่อยากให้เกิดขึ้นเลย ซึ่งทราบว่ามีการยั่วยุ โดยพยายามสั่งให้เจ้าหน้าที่ไทย ระมัดระวัง และอดทนอดกลั้นให้มากที่สุด รวมถึงพยายามป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก
"แต่ก็ต้องคอยระวัง เพราะกัมพูชาจะใช้กลยุทธ์วิธีแบบนี้ ในการทำให้เกิดการปะทะกัน เกิดความรุนแรง ซึ่งจะถูกนำไปใช้ในเรื่องระหว่างประเทศได้ ซึ่งกำลังพลของไทยส่วนใหญ่เข้าใจ ยืนยันว่าจะพยายามทำให้ดีที่สุดไม่ใช้กำลังแก้ปัญหา และไม่ให้ถูกกล่าวหาว่าเราทำให้เกิดความรุนแรง เพื่อจะเอาพื้นที่กลับมา"
สำหรับปราสาทตาเมือนธม น้้น มีมาตรการในการป้องปราม อยู่แล้ว เปิดบางส่วน ปิดบางส่วน ก็ต้องดูเป็นพื้นที่ และเป็นอำนาจในการควบคุมดูแลของแม่ทัพภาคที่2
เมื่อถามว่า กังวลจะมีเหตุซ้ำรอยหรือไม่ เพราะกัมพูชายั่วยุมา ส่วนฝ่ายไทยก็มีอดีตทหารพรานไปชกหน้าทหารกัมพูชา นายภูมิธรรม กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ต้องพยายาม อย่าปลุกความเกลียดชัง
สิ่งที่เราห่วงใย คือการปะทะแล้วจะเลยเถิดไปถึงความรุนแรงที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะประชาชนชาวไทยที่อยู่แนวชายแดน และทหารหาญ เพราะถ้ากระทบขึ้นมาก็ไม่ดี
ทั้งนี้ รัฐบาล ไม่พอใจกัมพูชาอย่างมากอยู่แล้ว และในแง่การดำเนินการทางการทูต รมว.ต่างประเทศ ก็ได้ดำเนินการแต่ละขั้นตอน มีการพิจารณาเรียกทูตกลับอะไรต่าง ๆ อยู่แล้ว ก็เป็นมาตรการที่รุนแรงที่สุด ในทางการทูต
เพราะฉะนั้นตรงนี้อย่าตกอยู่ในเกมของเขา และอย่าไปฟังเชื่อถือนายฮุนเซนมาก เพราะไม่ใช่แค่ประเทศไทย แต่ในต่างประเทศ ก็ไม่มีเครดิต ในการประชุมนานาชาติ
ในช่วงที่ผ่านมาได้รับรายงานจากกระทรวงต่างประเทศว่า ไม่มีการหยิบยกเรื่องกัมพูชาขึ้นมา เพราะฉะนั้นต่างประเทศไม่ได้สนใจเรื่องนี้ โดยเฉพาะกลุ่มภาคีต่าง ๆ ก็ไม่มีเรื่องนี้เข้าไปอยู่ในวาระ แสดงว่าเขาไม่ได้เชื่อถือ
นายภูมิธรรม กล่าวว่า อะไรก็ตามที่นายฮุน เซนได้พูดมา จริง ๆ ก็ไม่ใช่ผู้นำกัมพูชาในทางการ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับนายฮุน มาเนต เพราะฉะนั้นนายฮุน เซนเป็นเพียงแค่คนคนหนึ่งที่มีตำแหน่งประธานวุฒิสภาแล้วก็ไม่ได้มีอำนาจในการเจรจาพูดคุย เรื่องนี้
นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ผมคิดว่าท่านแสดงตัว แต่นั่นเป็นเรื่องในประเทศเขา เขาก็ต้องไปจัดการ ว่าตกลงใครกันแน่เป็นผู้นำสูงสุด เพราะฉะนั้นเราพูดคุย เรายึดหลักกฎหมายระหว่างประเทศ คุยเฉพาะนายฮุน มาเนต ส่วนนายฮุน เซนถือว่าเป็นคนรอบข้างที่มีอิทธิพลจริงอยากจะแก้ปัญหา แต่ถึงเวลาแล้วก็ไม่ใช่คนที่จะสามารถสรุปอะไรได้ เว้นแต่ไปใช้อิทธิพลในการคุยกับนายกฯ ของประเทศเขา
"ผมอยากให้พี่น้องประชาชนมีความอดทนอดกลั้น เราพยายามจัดการปัญหานี้ให้ดีที่สุด เพื่อไม่ให้ประเทศไทยเสียประโยชน์ และเราคำนึงว่าอธิปไตยของประเทศไม่อาจยอมได้ ซึ่งเราไม่อาจยอมได้ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์ของใคร อย่างไร ในการพูดคุยหรือเอาประโยชน์โดยเฉพาะรัฐบาลไทยชุดนี้จะไม่เปิดโอกาสให้ทำอย่างนั้นได้ และจะจัดการอย่างเต็มที่ ถ้าหากมีเหตุการณ์แบบนั้นเกิดขึ้น" นายภูมิธรรม กล่าว