เริ่ม 1 ต.ค. นี้! รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย รับสิทธิ์ผ่านแอปฯ "ทางรัฐ"
มติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2568 ระบุว่า เห็นชอบมาตรการอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าทุกสาย ในราคาไม่เกิน “20 บาทตลอดสาย” ตามนโยบายของรัฐบาล ที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ที่เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการลดราคาค่าครองชีพในทุกมติให้กับประชาชน เช่น การปรับราคาค่าครองชีพ ค่าสาธารณูปโภค และค่าพลังงาน
ทั้งนี้นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย จัดอยู่ในนโยบายเร่งด่วน ที่รัฐบาลให้คำมั่นไว้กับประชาชน ที่จะเร่งดำเนินการ ซึ่งมั่นใจว่าปริมาณผู้โดยสารจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้เนื่องด้วยผู้ให้บริการรถไฟฟ้าในปัจจุบันมีรูปแบบสัญญาสัมปทานและสัญญาจ้างเดินรถที่มีข้อกำหนดหรือเงื่อนไขทางธุรกิจแตกต่างกัน
เงื่อนไขต้องลงทะเบียนในแอปทางรัฐ
ในมติ ครม.กำหนดให้การใช้รถไฟฟ้า ราคา 20 บาทตลอดสาย กำหนดให้ประชาชนลงทะเบียนตามเงื่อนไขที่กำหนดบนแอปพลิเคชั่น “ทางรัฐ” เพื่อรองรับการใช้งานตามนโยบาย
โดยเงื่อนไขการลงทะเบียน เพื่อยืนยันตัวบุคคลที่มีสัญชาติไทยเท่านั้น โดยระบุเลขที่บัตรประชาชน 13 หลัก และสามารถใช้ผ่านบัตรเครดิต บัตรเดบิต และบัตรโดยสาร (Rabbit Card ที่เคยลงทะเบียนไว้) ที่จะใช้งานกับระบบรถไฟฟ้าผ่านแอป “ทางรัฐ”
รถไฟฟ้า 6 สาย 20 บาท เริ่ม 1 ต.ค.นี้
ทั้งนี้ บัตรที่ได้รับการยืนยันการลงทะเบียนจะได้สิทธิโดยอัตโนมัติ เมื่อใช้งานหลังจากเริ่มโครงการตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568 โดยจะครอบคลุมทั้งโครงข่ายรถไฟฟ้าทั้งบนดินและใต้ดิน ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ประกอบไปด้วย รถไฟฟ้าสายสีเขียว, สีทอง, สีเหลือง, สีชมพู, สีน้ำเงิน, สายสีม่วง, สายสีแดง และสายแอร์พอร์ตเรลลิงก์ (ARL)
การใช้บริการรูปแบบบัตร Rabbit Card (บัตรเติมเงิน) จะใช้ได้กับสายสีเขียว, สีทอง, เหลือง, ชมพู ขณะที่บัตร EMV Contactless (หรือบัตรเครดิต Visa/Mastercard) สามารถใช้กับ 6 สาย คือ สายสีแดง, น้ำเงิน, ม่วง, ชมพู, เหลือง, ARL (ไม่รวมสีทองและสีเขียว) โดยในอนาคตจะมีการเปิดระบบสแกน QR Code ในมือถือแทนการใช้บัตร เพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับประชาชน
โดยมาตรการอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าสูงสุด 20 บาทตลอดสายนี้ จะครอบคลุมโครงข่ายเส้นทางรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล จำนวน 13 เส้นทาง ระยะทางรวม 279.84 กิโลเมตร 194 สถานี สำหรับแนวทางการชดเชยรายได้ค่าโดยสารจากการดำเนินมาตรการ จะมาจากกองทุนส่งเสริมระบบตั๋วร่วม หรือแหล่งเงินอื่นที่เหมาะสม
นอกจากนี้ ยังได้ประมาณการผลประโยชน์ที่จะได้รับจากการดำเนินมาตรการดังกล่าวในช่วง 1 ปี ในเชิงปริมาณและมูลค่าจากจำนวนผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าที่ได้รับผลประโยชน์ จะประกอบด้วย 3 ด้าน ได้แก่
1. ด้านเศรษฐกิจ ประเมินจากการประหยัดค่าใช้จ่ายในการใช้รถยนต์
2. ด้านสังคม ประเมินจากค่าความสุข และการลดมูลค่าความสูญเสียเนื่องจากอุบัติเหตุ
3. ด้านสิ่งแวดล้อม ประเมินจากการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งทั้ง 3 ด้าน ประเมินเป็นประโยชน์ในการประหยัดงบประมาณกว่า 1 หมื่นล้านบาท
เริ่มลงทะเบียนสิงหาคม 2568
ทั้งนี้ ภายในช่วงเดือนสิงหาคม 2568 จะเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนรับสิทธิค่าโดยสาร 20 บาท ผ่านแอปพลิเคชั่น “ทางรัฐ” และภายใน 1 ตุลาคม 2568 จะเริ่มดำเนินมาตรการอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้า สูงสุด 20 บาทตลอดสายตามนโยบายรัฐบาล และภายหลังจากนั้นจะมีกระบวนการปรับปรุงแก้ไขเพื่อให้โครงสร้างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง